ประธานวิปฝ่ายค้านเผยเตรียมยื่นถอดถอน “นิคม” พ้นตำแหน่ง เหตุหนุนและเร่งรัดโหวตแก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ด้าน “ถาวร” ลั่นขวางแก้มาตรา 5 เต็มที่ พร้อมยื่นศาล รธน.ตีความแก้คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ว. เปิดช่องการเมืองครอบงำสภาสูง กระทบการทำหน้าที่องค์กรอิสระ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ฝ่ายค้านเตรียมหาช่องทางเพื่อยื่นถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา ออกจากตำแหน่ง กรณีมีผลประโยชน์ทับซ้อนจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีความพยายามเร่งรัดให้สมาชิกลงมติ ซึ่งถือว่านายนิคมจะได้รับผลประโยชน์จากร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... เกี่ยวกับที่มาของวุฒิสภาด้วย ทั้งนี้ เคยเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้ว เมื่อครั้งพิจารณาในมาตรา 3 ซึ่งขณะนั้นนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้วินิจฉัยให้สมาชิกที่แปรญัตติได้อภิปรายทุกคน แต่นายนิคมกลับไม่อนุญาตให้สมาชิกอภิปราย ทำให้เกิดความสับสน พร้อมแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำสองมาตรฐาน
นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ได้ตีรวน เพราะหากติดตามการประชุมอย่างต่อเนื่องจะทำให้ทราบข้อเท็จจริงที่ฝ่ายค้านพยายามใช้สิทธิ์ในการอภิปราย เพราะเสียงข้างมากในสภามีความพยายามรวบรัดจะไม่ให้ฝ่ายค้านใช้สิทธิ์อภิปราย
ประธานวิปฝ่ายค้านยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ประธานรัฐสภาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภานำตัวนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ออกจากห้องประชุม โดยอ้างว่าการหารือไม่ได้อยู่ในวาระนั้นก็เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและเกินกว่าเหตุ เพราะ ส.ส.มีหน้าที่หารือเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของปนะชาชน ซึ่งในที่สุดที่ประชุมก็เห็นควรให้นายวัชระหารือ ซึ่งถือว่านายวัชระไม่มีความผิด
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความหากที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา เพราะเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้บุตร บุพการี และคู่สมรสของ ส.ส.ลงสมัคร ส.ว.ได้ เป็นการเปิดช่องให้นักการเมืองเข้ามาครอบงำสภาสูง ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระในอนาคต
“จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมให้มาตรา 5 ผ่านการโหวตของสภา และฝ่ายค้านจะยื้อเวลาให้ถึงที่สุด ส่วนจะคว่ำมาตรา 5 หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ แต่ขอให้รอดูว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมเช่นเดียวกัน”
