“จุรินทร์” ระบุ กมธ.ยอมปรับแก้ มาตรา 5 หนีข้อครหา “สภาผัวเมีย” ไม่พอ ต้องแก้ไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้งต่อเนื่องด้วย เตือน ส.ว.โหวตหนุนเสี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อนอาจนำไปสู่การถอดถอนได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... เกี่ยวกับที่มาของวุฒิสภา วาระ 2 ในมาตรา 5 ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้แจ้งความจำนงในการอภิปรายประมาณ 50 คน ซึ่งค้างมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา และตนขอย้ำว่าอย่าปิดกั้นสิทธิการแสดงออกของสมาชิกรัฐสภา ก็จะไม่เกิดปัญหา
นายจุรินทร์กล่าวว่า การอภิปรายในมาตรา 5 นั้นมีความสำคัญมาก และเป็นมาตราที่เริ่มต้นสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะต่างตอบแทน แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันระหว่างรัฐบาล และ ส.ว. โดยมีการเปิดโอกาสให้ ส.ว.สมัครรับเลือกตั้งซ้ำได้อีก ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่เปิดโอกาสให้ ส.ว.สมัครรับเลือกตั้งซ้ำ เพื่อไม่ให้ยึดโยงกับการเมือง ส่วนที่มีข่าวว่ากรรมาธิการวิสามัญแก้รัฐธรรมนูญจะทบทวนการแก้ไขและทบทวนมาตรา 5 นั้น ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการแก้ไข ทบทวนในรูปแบบไหน อย่างไร แต่โดยเนื้อหาตนยังยืนยันว่าจะแก้แค่สภาผัวเมียไม่พอ ต้องแก้สภาผลัดกันเกาหลังด้วย เพราะเป็นหัวใจสำคัญที่รัฐบาล และ ส.ว.แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า การลงมติในมาตรา 5 นั้นอาจจะเป็นการขัดกันซึ่งผลประโยชน์ เพราะขณะที่สมาชิกรัฐสภาลงมติสนับสนุนให้ตนเองสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำได้อีก ขณะที่รัฐธรรมนูญปัจจุบันห้ามไว้ ซึ่งก็ต้องระมัดระวัง เพราะหากมีเรื่องผลประโยชน์ขัดกันเกิดขึ้นอาจนำไปสู่การถอดถอนได้