ASTVผู้จัดการรายวัน - “พาณิชย์” คุมเข้มหลังโดนขู่วางระเบิด ระบุไม่ประมาทปัดไม่เกี่ยวปัญหาสถานการณ์ราคาสินค้า คาดแค่พวกป่วนเมือง ภาคปชช.ยื่นถวายฎีกากรณีรัฐขึ้นค่าไฟฟ้า-ก๊าซLPG ฉ้อฉล พร้อมเดินหน้ายื่นก.พานิชย์ 11 ก.ย.นี้ ม็อบต้านขึ้น LPG นัดรวมตัวไปร่วมฟังศาลฯไต่สวนกรณีขอคุ้มครองชั่วคราวเบรกขึ้น LPG วันนี้ ด้านผู้ค้าจ่อขยับราคาน้ำมัน 1-2 วันนี้หลังค่าการตลาดต่ำเฉลี่ย 1.20-1.30 บาทต่อลิตร
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงพาณิชย์ ได้ตรวจสอบเครื่องตรวจจับระเบิดและวัตถุใต้ท้องรถที่เข้ามายังกระทรวงจากปกติจะไม่มีการตรวจสอบใดๆ ซึ่งจากการสอบถามรปภ.ที่ปฎิบัติหน้าที่บริเวณป้อมยามทางเข้ากระทรวงได้กล่าวว่า เป็นเพราะได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าให้เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยให้มากกว่าเดิมเนื่องจากมีบุคคลไม่หวังดีโทรศัพท์เข้ามายังที่เบอร์สายด่วน 1569 และขู่ว่าจะมีการวางระเบิดที่กระทรวง
สาเหตุที่ต้องเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยนั้นเกิดจากการมีการลือซึ่งทางเจ้าหน้าที่และข้าราชการในกระทรวงพาณิชย์พูดกันอย่างกว้างขวางว่าจะมีผู้ไม่หวังดีลอบวางระเบิดภายในกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ไม่ประมาททางฝ่ายที่ดูแลรักษาความปลอดภัยจึงได้สั่งการให้มีการใช้เครื่องตรวจจับระเบิดและวัตถุใต้ท้องรถ
นอกจากจากนี้ ก็มีข่าวลือด้วยว่าจะมีการวางระเบิดที่โรงแรมริชมอนด์ สถานที่จัด สัมมนาชี้แจงและมอบนโยบายมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2556/57 ที่มีนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์เป็นประธาน และ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน ร่วมในงานสัมมนา สำหรับสาเหตุที่มีการข่มขู่ลักษณะนี้ตนเห็นว่าอาจเป็นคนป่วยทางจิตหรือไม่ก็แค่ต้องการสร้างสถานการณ์ ไม่ได้เกี่ยวกับการที่ไม่พอใจในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์
*** ยื่นฎีกาขึ้นค่าไฟฟ้า-ก๊าซLPG ฉ้อฉล
พ.ญ. กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส และนายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ แกนนำเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาปฏิรูปพลังงานไทยสภาธรรมาภิบาล คณะกรรมการปิโตรเลี่ยมภาคประชาชน ได้เข้ายื่นหนังสือถวายฎีกาเพื่อให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย เรื่องการฉ้อโกงประชาชนในกรณีขึ้นค่าไฟฟ้าและก๊าซ LPG และการจัดสรรทรัพยากรแผ่นดิน เนื่องจากเห็นว่าประชาชน ได้รับความเดือดร้อนสาหัส จากปัญหาเศรษฐกิจที่มีต้นเหตุมาจากการฉ้อฉลในนโยบายของรัฐในการขึ้นราคาค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซหุงต้มและการจัดสรรทรัพยากรปิโตรเลี่ยมของแผ่นดินที่สร้างความไม่เป็นธรรม และผลักภาระแก่คนในชาติ โดยการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นด้วยการอ้างเหตุของค่าเงินอ่อน และหลักเกณฑ์ในการคำนวณค่าไฟฟ้าที่เอาเปรียบประชาชน ถือเป็นการเป็นฉ้อฉลประชาชนเพราะค่าก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2525 แต่อย่างใด
ขณะที่ราคาก๊าซหุงต้ม รัฐปรับขึ้นโดยอ้างอิงราคาต่างประเทศ ทั้งที่การผลิตในประเทศและก๊าซธรรมชาติมีปริมาณเพียงในการแยกก๊าซหุงต้ม แต่ปตท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับไม่พยายามสร้างโรงแยกก๊าซให้เพียงพอเพื่อให้สามารถนำเข้าได้บางส่วน อีกทั้งมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานและคณะรัฐมนตรีก็เลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้ผลิตปิโตรเคมีในการซื้อก๊าซหุงต้มในราคาต่ำและจ่ายเงินกองทุนน้ำมันที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆถึง12เท่า รวมทั้งการจัดการทรัพยากรแผ่นดินด้านพลังงาน ก็ไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญไทยมาตรา 66 67 85(4) และกฎบัตรสหประชาชาติ ปัญหาเหล่านี้เมื่อประชาชนออกมาคัดค้านก็ถูกบิดเบือนและให้ร้ายจนเกิดความเสียหาย
พ.ท.รัฐเขต กล่าวว่า หลังจากวันนี้ก็จะมีการเคลื่อนไหวต่อไปโดยร่วมกับภาคประชาชนต่างๆ เดินทางไปกระทรวงพานิชย์ในวันที่ 11 ก.ย. เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงพานิชย์หยุดราคาค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะที่ผ่านมากระทรวงาพานิชย์ไม่เคยดำเนินการได้เลยโดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมัน ราคาพลังงานด้านต่างๆ ปรับขึ้นเป็นผลให้สินค้าทุกชนิดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหมด ซึ่งหากไปยื่นข้อเรียกร้องแล้วรมว.พานิชย์และปลัดกระทรวงพานิชย์ยังไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องได้ ภาคประชาชนก็จะดำเนินการเอาผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมราคาสินค้าและบริการ 2542 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
***ของแพง! “นิวัฒน์ธำรง” โทษสื่อผิด
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังติดตามและดูแลเรื่องค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยขณะนี้ราคาสินค้าหลายชนิดอยู่ในระดับราคาที่ไม่สูงนัก จึงไม่น่าหนักใจ ยกเว้นไข่ไก่ที่มีราคาสูง ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเข้าไปติดตามอย่างใกล้ชิดแล้ว ส่วนราคาเนื้อไก่ รวมถึงอาหารปรุงสำเร็จยังอยู่ในดับที่ทรงตัว แต่หากมีการลงข่าวเยอะๆ เกี่ยวกับราคาสินค้าอาหารแพงกลัวว่าจะเป็นการชี้นำตลาดหรือไม่
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาไข่ไก่มีราคาแพง กรมฯ จะทำการเชื่อมโยงตลาด โดยจัดโครงการธงฟ้าส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อจัดจุดระบายไข่ไก่ให้ถึงมือผู้บริโภค คาดว่าโครงการดังกล่าวจะไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ในสัปดาห์นี้ โดยเชื่อว่า สถานการณ์ไข่แพงจะกลับมาเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์ เพราะขณะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้แม่ไก่ออกไข่น้อย ผลผลิตจากปกติ 37 ล้านฟองต่อวันเหลือ 34 ล้านฟองต่อวัน ใกล้เคียงกับการบริโภคที่ 34-35 ล้านฟองต่อวัน
***นัดฟังศาลฯไต่สวนเบรกขึ้นLPGวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(9ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทยได้ทยอยมาร่วมชุมนุมต่อต้านการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหรือ LPG ภาคครัวเรือน ที่ถนนวิภาวดี หน้าตึกสำนักงานใหญ่ บมจ.ปตท.ซึ่งผู้ชุมนุมมารวมตัวกันในช่วงบ่ายนับ 1,000 คน โดยกิจกรรมหลักนอกจากปราศรัยการโจมตีนโยบายการขึ้นราคาLPG แล้วยังมีการเปิดโต๊ะให้ลงชื่อตรวจสอบและถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐรวม 5 คน ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานและนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ ประสานเครือข่ายในต่างจังหวัดที่จะให้เกิดการรวบรวมรายชื่อจังหวัดละ 1,000 คนโดยจะดำเนินการถึง 30 ก.ย.เมื่อครบแล้วจะนำรายชื่อเสนอผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้เกิดการตรวจสอบการดำเนินนโยบายที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายต่อไป โดยการชุมนุมจะจบเวลา 18.00น.และยืนยันว่าเป็นการชุมนุมเพื่อยกระดับความรู้ให้ประชาชนไม่ได้มุ่งหวังล้มล้างรัฐบาลอย่างไรก็ตามวันที่ 10 ก.ย.จะนัดรวมตัวกันไปร่วมฟังศาลปกครองกลางไต่สวนกรณีที่เครือข่ายและมูลนิธิไปยื่นขอให้คุ้มครองชั่วคราวการปรับขึ้นราคา LPG
***ผู้ค้าจ่อขึ้นราคาน้ำมัน1-2วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) ว่าจะมีการพิจารณาปรับลดอัตราการเก็บเงินน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้ค่าการตลาดกลุ่มเบนซินเฉลี่ยเพียง 1.30 บาทต่อลิตรเท่านั้น ขณะที่ดีเซลเหลือเพียง 1.12 บาทต่อลิตรโดยหากรัฐไม่เข้าช่วยเหลือค่าการตลาดคาดว่าผู้ค้าจะปรับราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 วันนี้โดยเฉพาะกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ อย่างไรก็ตามล่าสุดค่ายต่างชาติ อย่างเชลล์และคาลเท็กซ์ขึ้นดีเซล 0.50 บ./ลิตรมีผลทันทีวันนี้แล้ว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงพาณิชย์ ได้ตรวจสอบเครื่องตรวจจับระเบิดและวัตถุใต้ท้องรถที่เข้ามายังกระทรวงจากปกติจะไม่มีการตรวจสอบใดๆ ซึ่งจากการสอบถามรปภ.ที่ปฎิบัติหน้าที่บริเวณป้อมยามทางเข้ากระทรวงได้กล่าวว่า เป็นเพราะได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าให้เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยให้มากกว่าเดิมเนื่องจากมีบุคคลไม่หวังดีโทรศัพท์เข้ามายังที่เบอร์สายด่วน 1569 และขู่ว่าจะมีการวางระเบิดที่กระทรวง
สาเหตุที่ต้องเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยนั้นเกิดจากการมีการลือซึ่งทางเจ้าหน้าที่และข้าราชการในกระทรวงพาณิชย์พูดกันอย่างกว้างขวางว่าจะมีผู้ไม่หวังดีลอบวางระเบิดภายในกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ไม่ประมาททางฝ่ายที่ดูแลรักษาความปลอดภัยจึงได้สั่งการให้มีการใช้เครื่องตรวจจับระเบิดและวัตถุใต้ท้องรถ
นอกจากจากนี้ ก็มีข่าวลือด้วยว่าจะมีการวางระเบิดที่โรงแรมริชมอนด์ สถานที่จัด สัมมนาชี้แจงและมอบนโยบายมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2556/57 ที่มีนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์เป็นประธาน และ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน ร่วมในงานสัมมนา สำหรับสาเหตุที่มีการข่มขู่ลักษณะนี้ตนเห็นว่าอาจเป็นคนป่วยทางจิตหรือไม่ก็แค่ต้องการสร้างสถานการณ์ ไม่ได้เกี่ยวกับการที่ไม่พอใจในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์
*** ยื่นฎีกาขึ้นค่าไฟฟ้า-ก๊าซLPG ฉ้อฉล
พ.ญ. กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส และนายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ แกนนำเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาปฏิรูปพลังงานไทยสภาธรรมาภิบาล คณะกรรมการปิโตรเลี่ยมภาคประชาชน ได้เข้ายื่นหนังสือถวายฎีกาเพื่อให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย เรื่องการฉ้อโกงประชาชนในกรณีขึ้นค่าไฟฟ้าและก๊าซ LPG และการจัดสรรทรัพยากรแผ่นดิน เนื่องจากเห็นว่าประชาชน ได้รับความเดือดร้อนสาหัส จากปัญหาเศรษฐกิจที่มีต้นเหตุมาจากการฉ้อฉลในนโยบายของรัฐในการขึ้นราคาค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซหุงต้มและการจัดสรรทรัพยากรปิโตรเลี่ยมของแผ่นดินที่สร้างความไม่เป็นธรรม และผลักภาระแก่คนในชาติ โดยการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นด้วยการอ้างเหตุของค่าเงินอ่อน และหลักเกณฑ์ในการคำนวณค่าไฟฟ้าที่เอาเปรียบประชาชน ถือเป็นการเป็นฉ้อฉลประชาชนเพราะค่าก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2525 แต่อย่างใด
ขณะที่ราคาก๊าซหุงต้ม รัฐปรับขึ้นโดยอ้างอิงราคาต่างประเทศ ทั้งที่การผลิตในประเทศและก๊าซธรรมชาติมีปริมาณเพียงในการแยกก๊าซหุงต้ม แต่ปตท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับไม่พยายามสร้างโรงแยกก๊าซให้เพียงพอเพื่อให้สามารถนำเข้าได้บางส่วน อีกทั้งมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานและคณะรัฐมนตรีก็เลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้ผลิตปิโตรเคมีในการซื้อก๊าซหุงต้มในราคาต่ำและจ่ายเงินกองทุนน้ำมันที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆถึง12เท่า รวมทั้งการจัดการทรัพยากรแผ่นดินด้านพลังงาน ก็ไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญไทยมาตรา 66 67 85(4) และกฎบัตรสหประชาชาติ ปัญหาเหล่านี้เมื่อประชาชนออกมาคัดค้านก็ถูกบิดเบือนและให้ร้ายจนเกิดความเสียหาย
พ.ท.รัฐเขต กล่าวว่า หลังจากวันนี้ก็จะมีการเคลื่อนไหวต่อไปโดยร่วมกับภาคประชาชนต่างๆ เดินทางไปกระทรวงพานิชย์ในวันที่ 11 ก.ย. เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงพานิชย์หยุดราคาค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะที่ผ่านมากระทรวงาพานิชย์ไม่เคยดำเนินการได้เลยโดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมัน ราคาพลังงานด้านต่างๆ ปรับขึ้นเป็นผลให้สินค้าทุกชนิดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหมด ซึ่งหากไปยื่นข้อเรียกร้องแล้วรมว.พานิชย์และปลัดกระทรวงพานิชย์ยังไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องได้ ภาคประชาชนก็จะดำเนินการเอาผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมราคาสินค้าและบริการ 2542 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
***ของแพง! “นิวัฒน์ธำรง” โทษสื่อผิด
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังติดตามและดูแลเรื่องค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยขณะนี้ราคาสินค้าหลายชนิดอยู่ในระดับราคาที่ไม่สูงนัก จึงไม่น่าหนักใจ ยกเว้นไข่ไก่ที่มีราคาสูง ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเข้าไปติดตามอย่างใกล้ชิดแล้ว ส่วนราคาเนื้อไก่ รวมถึงอาหารปรุงสำเร็จยังอยู่ในดับที่ทรงตัว แต่หากมีการลงข่าวเยอะๆ เกี่ยวกับราคาสินค้าอาหารแพงกลัวว่าจะเป็นการชี้นำตลาดหรือไม่
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาไข่ไก่มีราคาแพง กรมฯ จะทำการเชื่อมโยงตลาด โดยจัดโครงการธงฟ้าส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อจัดจุดระบายไข่ไก่ให้ถึงมือผู้บริโภค คาดว่าโครงการดังกล่าวจะไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ในสัปดาห์นี้ โดยเชื่อว่า สถานการณ์ไข่แพงจะกลับมาเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์ เพราะขณะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้แม่ไก่ออกไข่น้อย ผลผลิตจากปกติ 37 ล้านฟองต่อวันเหลือ 34 ล้านฟองต่อวัน ใกล้เคียงกับการบริโภคที่ 34-35 ล้านฟองต่อวัน
***นัดฟังศาลฯไต่สวนเบรกขึ้นLPGวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(9ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทยได้ทยอยมาร่วมชุมนุมต่อต้านการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหรือ LPG ภาคครัวเรือน ที่ถนนวิภาวดี หน้าตึกสำนักงานใหญ่ บมจ.ปตท.ซึ่งผู้ชุมนุมมารวมตัวกันในช่วงบ่ายนับ 1,000 คน โดยกิจกรรมหลักนอกจากปราศรัยการโจมตีนโยบายการขึ้นราคาLPG แล้วยังมีการเปิดโต๊ะให้ลงชื่อตรวจสอบและถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐรวม 5 คน ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานและนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ ประสานเครือข่ายในต่างจังหวัดที่จะให้เกิดการรวบรวมรายชื่อจังหวัดละ 1,000 คนโดยจะดำเนินการถึง 30 ก.ย.เมื่อครบแล้วจะนำรายชื่อเสนอผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้เกิดการตรวจสอบการดำเนินนโยบายที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายต่อไป โดยการชุมนุมจะจบเวลา 18.00น.และยืนยันว่าเป็นการชุมนุมเพื่อยกระดับความรู้ให้ประชาชนไม่ได้มุ่งหวังล้มล้างรัฐบาลอย่างไรก็ตามวันที่ 10 ก.ย.จะนัดรวมตัวกันไปร่วมฟังศาลปกครองกลางไต่สวนกรณีที่เครือข่ายและมูลนิธิไปยื่นขอให้คุ้มครองชั่วคราวการปรับขึ้นราคา LPG
***ผู้ค้าจ่อขึ้นราคาน้ำมัน1-2วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) ว่าจะมีการพิจารณาปรับลดอัตราการเก็บเงินน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้ค่าการตลาดกลุ่มเบนซินเฉลี่ยเพียง 1.30 บาทต่อลิตรเท่านั้น ขณะที่ดีเซลเหลือเพียง 1.12 บาทต่อลิตรโดยหากรัฐไม่เข้าช่วยเหลือค่าการตลาดคาดว่าผู้ค้าจะปรับราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 วันนี้โดยเฉพาะกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ อย่างไรก็ตามล่าสุดค่ายต่างชาติ อย่างเชลล์และคาลเท็กซ์ขึ้นดีเซล 0.50 บ./ลิตรมีผลทันทีวันนี้แล้ว
