เครือข่ายภาคประชาชน 3 องค์กรยื่นถวายฎีกากรณีรัฐขึ้นค่าไฟฟ้า-ก๊าซแอลพีจี ฉ้อฉล พร้อมเดินหน้ายื่นกระทรวงพาณิชย์ 11 ก.ย.นี้ ควบคุมการปรับราคาสินค้า ที่ทำค่าครองชีพประชาชนพุ่ง เผยหากไม่ได้ตามที่เรียกร้องเตรียมฟ้องอาญามาตรา 157
วันนี้ (9 ก.ย.) พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี พร้อมด้วย พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส และ นายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ แกนนำเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาปฏิรูปพลังงานไทยสภาธรรมาภิบาล คณะกรรมการปิโตรเลียมภาคประชาชน ได้เข้ายื่นหนังสือถวายฎีกาเพื่อให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย เรื่องการฉ้อโกงประชาชนในกรณีขึ้นค่าไฟฟ้าและก๊าซแอลพีจี และการจัดสรรทรัพยากรแผ่นดิน เนื่องจากเห็นว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนสาหัส จากปัญหาเศรษฐกิจที่มีต้นเหตุมาจากการฉ้อฉลในนโยบายของรัฐในการขึ้นราคาค่าไฟฟ้า และค่าก๊าซหุงต้มและการจัดสรรทรัพยากรปิโตรเลียมของแผ่นดินที่สร้างความไม่เป็นธรรม และผลักภาระแก่คนในชาติ โดยการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นด้วยการอ้างเหตุของค่าเงินอ่อน และหลักเกณฑ์ในการคำนวณค่าไฟฟ้าที่เอาเปรียบประชาชน ถือเป็นการฉ้อฉลประชาชน เพราะค่าก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2525 แต่อย่างใด
ขณะที่ราคาก๊าซหุงต้ม รัฐปรับขึ้นโดยอ้างอิงราคาต่างประเทศ ทั้งที่การผลิตในประเทศ และก๊าซธรรมชาติมีปริมาณเพียงในการแยกก๊าซหุงต้ม แต่ ปตท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับไม่พยายามสร้างโรงแยกก๊าซให้เพียงพอ เพื่อให้สามารถนำเข้าได้บางส่วน อีกทั้งมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงาน และคณะรัฐมนตรีก็เลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้ผลิตปิโตรเคมีในการซื้อก๊าซหุงต้มในราคาต่ำและจ่ายเงินกองทุนน้ำมันที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ถึง 12 เท่า รวมทั้งการจัดการทรัพยากรแผ่นดินด้านพลังงาน ก็ไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญไทยมาตรา 66 67 85(4) และกฎบัตรสหประชาชาติ ปัญหาเหล่านี้เมื่อประชาชนออกมาคัดค้านก็ถูกบิดเบือนและให้ร้ายจนเกิดความเสียหาย
พ.ท.รัฐเขต กล่าวว่า หลังจากวันนี้ก็จะมีการเคลื่อนไหวต่อไปโดยร่วมกับภาคประชาชนต่างๆ เดินทางไปกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 11 ก.ย.เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์หยุดราคาค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะที่ผ่านมากระทรวงาพาณิชย์ไม่เคยดำเนินการได้เลย โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมัน ราคาพลังงานด้านต่างๆ ปรับขึ้นเป็นผลให้สินค้าทุกชนิดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหมด ซึ่งหากไปยื่นข้อเรียกร้องแล้ว รมว.พาณิชย์ และปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องได้ ภาคประชาชนก็จะดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมราคาสินค้าและบริการ 2542 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
