xs
xsm
sm
md
lg

รัฐตำรวจจ่อจับ"ถาวร-นิพิฏฐ์"-ม็อบยางเสียงแตก-ขี้ข้าขู่ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ม็อบยางปิดประเทศส่อล่ม! แกนนำจังหวัดเสื้อแดงสั่งชะลอร่วม รัฐตำรวจลามถึงเมืองคอน เล็งออกหมายจับ 2 นักการเมืองปชป. "ถาวร-นิพิฏฐ์" ฐานผู้สนับสนุนม็อบยางและแกนนำ พร้อมส่งตร.นอกเครื่องแบบป่วน ขับรถไล่ชนผู้เข้าร่วมชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บ ด้าน "นิพิฏฐ์" ท้าตำรวจขี้ข้าอำนาจรัฐจับตัว ลั่นจับมั่วฟ้องกลับแน่ ด้าน "ปู" เตรียมเผ่นไปจีนหนีม็อบยาง "ขี้ข้า"ได้ทีขู่่ใช้ "พ.ร.บ.มั่นคงฯ" คุมม็อบ

บรรยากาศการชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราทั้งที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ หมู่ 2 ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด และบริเวณสี่แยกบ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช วานนี้ (29 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 6 กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน ยังเข้าร่วมชุมนุมกันต่อเนื่อง โดยยังยันยันข้อเสนอเดิม ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 จุดอย่างเข้มงวด

ขณะที่บนเวทีของกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และโจมตีผู้นำท้องถิ่น ที่นอกจากจะไม่อยู่เคียงข้างชาวสวนยางแล้ว แต่กลับไปสนับสนุนช่วยเหลือฝ่ายรัฐบาล พยายามที่จะกดดันให้ยุติการชุมนุมประท้วง

โดยนายสมพร รุ่งกำเนิดวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวผ่านเครื่องกระจายเสียงว่า การปิดถนนชุมนุมเรียกร้องราคายางพารา ยังคงดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 3 ก.ย.หากยังไม่มีตัวแทนจากรัฐบาลเข้ามาเจรจาตามข้อตกลงที่กลุ่มชุมนุมได้มีการเรียกร้องจะต้องไม่ต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม และราคาปาล์มน้ำมันจะต้องไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 7 บาท โดยจะต้องไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง และปาล์มน้ำมันที่ชุมนุมทั้ง 2 จุด ไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติเพราะล่าสุดทางแกนนำได้ประกาศจะยกระดับการชุมนุม และเตรียมย้ายไปชุมนุมในจุดอื่นลักษณะดาวกระจายและต่อเนื่อง

**ผบ.ตร.เล็งออกหมายจับนักการเมือง

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแพรศรี รอง ผบช.ภ.8 และ พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ ทิพย์รัตย์ ผกก.สส.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งรับผิดชอบดูแลในเรื่องสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับม็อบสวนยาง ทั้งหมดได้รวบรวมสำนวนเกี่ยวกับการแจ้งความของเจ้าของรถบรรทุกสินค้า รถเทลเลอร์ และรถบัสที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการยึดเอาไว้และนำไปปิดกั้นขวางทางรถยนต์ ทางรถไฟ โดยมีผู้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้วหลายสิบรายเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว หรืออาจจะเข่าข่ายปล้นทรัพย์โดยมีการเตรียมทำกุญแจสำรองของรถแต่ละคันเตรียมไว้เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายรถแต่ละคันในกรณีมีการสลายการชุมนุม

มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร.จะเดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ด้วยตัวเอง รวมทั้งดูสำนวนการสอบสวนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการรวบรวมสำนวนและพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อออกหมายจับนักการเมืองที่ขึ้นเวทีปราศรัยเข้าข่ายยุงยงปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุม โดยพยายามโน้มน้าวให้ประชาชนหลงเชื่อว่าการออกมาชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราโดยการปิดถนนในลักษณะดังกล่าวไม่มีความผิด

**ตร.ถกเครียดหาช่องจับ"ถาวร-นิพิฏฐ์"

เวลา 16.30 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ส่วนหน้า อ.ชะอวด พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 ตรวจเยี่ยมที่ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมเปิดเผยว่า สิ่งที่ห่วงที่สุดก็คือ มือที่สามที่อาจจะเข้ามาก่อเหตุการณ์
"ต่อกระแสข่าวที่จะมีการออกหมายจับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ 2 คนคือนายถาวร เสนเนียม และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนม็อบนั้นไม่มี"

มีรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแปรศรี รอง ผบช.ภ.8 ได้ประชุมพนักงานสอบสวนโดยมีการระดมพนักงานสอบสวนมือดีของจังหวัดมาประชุมอย่างเคร่งเครียด นายตำรวจหลายนายมีสีหน้าวิตกกังวลถึงกับมีการปิดห้องประชุมลับเพื่อปกปิดข้อมูลที่เป็นความลับ

ขณะที่แหล่งข่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้มีการหารือกันในเรื่องของข้อกฎหมาย และหลักฐานเพื่อเตรียมที่จะเสนอศาลออกหมายจับกุม นายถาวร เสนเนียม และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะผู้ให้การสนับสนุน พร้อมทั้งกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทเป็นแกนนำม็อบอีกจำนวนหนึ่ง โดยจะนำหลักฐานที่รวบรวมได้มาสรุปสำนวนเพื่อขออนุมัติศาลในการออกหมายจับ ซึ่งหากศาลเห็นชอบอนุมัติจะดำเนินการไปตามขั้นตอน

**"นิพิฏฐ์"ท้าตำรวจขี้ข้าจับเลย

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ปชป.กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจภูธรภาค 8 เตรียมจะออกหมายจับตนและนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ปชป.ในข้อหาเป็นแกนนำการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยาง ว่าไม่มีปัญหาตนขอท้าให้จับได้เลย เพราะวันนี้ (30 ส.ค.) ตอนเที่ยงตนได้ลาการประชุมสภาเพื่อจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้ชุมนุม และผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดี หากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการจะจับตนก็สามารถไปรอได้ที่ชุมนุม รับรองไม่มีหนี ทั้งนี้ ยืนยันว่าการไปที่ชุมนุมทุกครั้ง พรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้เป็นตัวแทนไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกับกลุ่มเกษตรกรเท่านั้น ไม่เคยขึ้นเวทีปลุกปั่น หรือวางแผนอยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด เป็นการทำอย่างตรงไปตรงมาไม่มีหลบซ่อน และเป็นหน้าที่ของผู้แทนที่ต้องไปดูแลความเดือดร้อนของประชาชน

"การจะออกหมายจับเป็นเรื่องที่ตลกมาก ไม่รู้จับด้วยข้อหาอะไรหรือมีประเด็นการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่กฎหมายก็คือกฎหมายผมไม่กลัว ถ้าไม่ทำเกินสมควรกว่าเหตุก็ยินดีให้จับกุม และจะขอสละเอกสิทธิ์ส.ส.ยอมมอบตัวโดยดี เพราะผมไม่กลัวเรื่องนี้เพราะทำงานกับศาลมาตลอดชีวิต แต่ขอเตือนว่าถ้าเอาหลักฐานมั่วๆมาปรักปรำใส่ร้าย เจอผมเล่นงานกลับแน่นอน" นายนิพิฏฐ์ กล่าว

**ชาวสวนยางพาราเลยลั่นร่วมม็อบ3ก.ย.

ทางด้านนายสง่า ขันคำ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย และรองเลขานุการเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า จะร่วมประท้วงกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางจากภาคอีสานอีก 19 จังหวัดในวันที่ 3 ก.ย.นี้ที่สะพานต่างระดับสีคิ้ว จ.นครราชสีมา

ด้านนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนคราชสีมา กล่าวว่าในส่วนภาคอีสานได้นัดชุมนุมที่บริเวณทางแยกสะพานต่างระดับสีคิ้ว ถ.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมาว่า ขณะนี้ได้ขอกำลังสนับสนุนไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เตรียมชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนประมาณ 5 กองร้อย กองร้อยละ 155 นาย รวม 775 นาย ไว้ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม และได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 7 จังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ให้เตรียมพร้อมในที่ตั้ง หากมีเหตุการณ์รุนแรงสามารถจัดกำลังเสริมได้ทันที และยังจัดชุด อส.จำนวน 100 นายเพื่อสนับสนุนกองกำลังของตำรวจอีกด้วย

"ได้กำชับกับทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการปิดถนน และไม่ใช้กำลัง ให้เน้นที่การเจรจาเป็นหลัก โดย ประเมินไว้ว่าหากมีการเดินทางมาชุมนุมของประชาชนชาวสวนยางจริงคงไม่เกิน 3,000 คน" นายวินัยกล่าว

**สวนยางเชียงรายชะลอเคลื่อนไหว

ด้านกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จ.เชียงราย ได้จัดประชุมกัน ณ ที่ว่าการอำเภอดอยหลวง เพื่อหาข้อสรุป โดยพื้นที่ภาคเหนือนัดรวมตัวกันที่ จ.อุตรดิตถ์ ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีตัวแทนจากกลุ่มต่าง ๆ ในเครือข่ายเข้าร่วมประมาณ 200 คน ทั้งนี้ ช่วงต้น เป็นการหารือกันเรื่องการประมูลราคายางโดยมีทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์สวนยาง (สกย.) เข้าร่วมด้วย

นายสุวิทย์ ใหม่ธิ ประธานเครือข่ายสวนยาง จ.เชียงราย กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ ส่วนกลางได้แจ้งให้ทางภาคเหนือ ได้ชะลอการเคลื่อนไหวที่จะไปชุมนุมที่ จ.อุตรดิตถ์ เอาไว้ก่อน ทางเครือข่ายเชียงราย จึงมีมติในที่ประชุมให้ชะลอแต่ให้ฟังความชัดเจนอีกครั้ง

**ปูเตรียมชิ่งจีน หนีม๊อบยาง 3 ก.ย.

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้การต้อนรับนายหนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะและเชิญเข้าร่วมงาน CHINA ASEAN EXPO ระหว่างวันที่ 2-3 ก.ย.จะมีโอกาสได้พบปะและหารือกับหลี เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีนเพื่อให้การสนับสนุนให้ซื้อสินค้าของไทยทั้งข้าว นมพาสเจอไรซ์ และยางพารา

**ปชป.ขุดภาพยาง 2 เเสนตันเน่าโชว์

เวลา 11.45 น.ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง ปชป.ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ตอนหนึ่งระบุว่าโครงการจำนำข้าวเป็นการปล่อยตามกลไกตลาดโลกหรือที่รัฐบาลใช้งบประมาณถึง 2.7 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลกลับรับข้อเสนอคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) โดยเตรียมงบ 2 หมื่นล้านบาทเพื่อดันราคายางพารา โดยงบข้าวกับงบยางห่างกันลิบลับถึง 13 เท่าตัว อยากถามว่ารัฐบาลจะนำงบประมาณ 2.7 แสนล้านบาทมาช่วยให้ราคายางสูงเป็น 120 บาทต่อกิโลกรัมได้หรือไม่

นายยุคล ตอบว่า กระบวนการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าแต่ละชนิด ไม่สามารถใช้มาตรการเดียวกันในการแก้ปัญหา ถึงแม้ว่าจะทุ่มงบประมาณซื้อยางในราคา 120 บาทได้ แต่ก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภาระที่ค่อนข้างหนัก ดังนั้นต้องมีมาตรการเฉพาะของยางพารา

ด้าน นพ.สุกิจ กล่าวว่า วันที่ 3 ก.ย.นี้ก็เตรียมรับม็อบให้ดี และอย่าทำให้พี่น้องประชาชนเจ็บ เพราะประชาชนเดือดร้อนจริงๆ และกล่าวว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และอดีต รมช.เกษตรฯใช้งบประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาททำโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร แต่กลับมีหนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งหนังสือถึงนายกฯ ระบุว่า โครงการแทรกแซงราคายางไม่ได้ผล ไม่เป็นไปตามเป้า 120 บาทต่อกิโลกรัม และมีการสวมสิทธิทุจริต จึงอยากถามว่ากรมสวบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีความคืบหน้าในการสอบสวนคดีนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นพ.สุกิจ ยังกล่าวพร้อมนำภาพมาแสดงกลางห้องประชุมสภาฯว่า ขณะนี้พบว่ายางพารา 2 แสนตันที่จัดเก็บในโครงการ 2 หมื่นล้านบาทมีสภาพเน่าเสีย เนื่องจากมีการนำมาวางกลางแดด ทั้งที่เสียค่าเช่าโกดังและการจัดการ

นอกจากนี้ ยังอยากให้รัฐบาลติดตามคดีเผาโรงยางพาราที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีตำรวจมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการตรวจสอบทุจริตฯสภาว่าเป็นการลอบวางเพลิง คดีนี้เสียหาย 3 ร้อยกว่าล้าน ทราบหรือยังว่าใครวางเพลิงใช่คนที่แอบเอายางไปเวียนเทียนขาย หรือพวกที่ซื้อขายบนกระดาษและเผาอำพรางใช่หรือไม่

ด้านนายยุคล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากดีเอสไอเรื่องการทุจริต ส่วนยางทั้งหมด 2 แสนตันอยู่ที่ไหนและสภาพของยางเป็นอย่างไรนั้นกำลังรอการรายงานจากคณะกรรมการที่ไปตรวจสอบ เท่าที่ทราบวันนี้ยางพารา 2 แสนตันเก็บในโกดัง โดยที่มีประกันภัยอยู่ และมีแผนที่จะใช้ในประเทศเป็นหลัก

**จี้ปูโชว์วิสัยทัศน์แก้ราคาพืชเกษตร

ต่อมาช่วงบ่ายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไปนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวเปิดญัตติแนวทางการแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำและปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น โดยเหตุผลที่ยื่นญัตติ เพราะรัฐบาลได้บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผ่านไป 2 ปี ใช้งบประมาณแผ่นดินไปจำนวนมาก แต่ราคาสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์ม ข้าวโพด มันสำปะหลัง กลับตกต่ำอย่างมาก ประกอบกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นราคาแก๊สแอลพีจี การปรับค่าเอฟทีไฟฟ้า ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย จึงเรียกร้องให้นายกฯเข้าร่วมรับฟังปัญหาในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งฝ่ายค้านหวังว่าจะได้รับฟังวิสัยทัศน์

**ปูย้ำไม่เลือกปฏิบัติแก้ยาง-ข้าว

นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังปัญหาเกษตรกรทุกกลุ่มไม่ได้เลือกปฏิบัติ ยืนยันว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติระหว่างการแก้ไขปัญหาราคายางพารากับโครงการรับจำนำข้าว แต่การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกัน พร้อมกันนี้จะเร่งรับฟังปัญหาจากเกษตรกรและข้อเสนอแนะของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ทั้งนี้ นายกฯชี้แจงเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศว่า เป็นการเดินทางเพื่อกระชับความสัมพันธ์และดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทย เป็นการเปิดประตูสู่การค้าการลงทุนที่จะตามมาในภายหลัง

**เทือกสอนปูอย่าส่งคนกระจอกไปคุย

ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงได้ประมาณ 5 นาทีก็จะเดินทางออกจากที่ประชุมสภา ระหว่างนั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ปชป.ได้ยกมือขึ้นขออภิปราย และขอให้นายกฯช่วยรับฟัง

นายสุเทพ อภิปรายว่า รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไขก่อนหน้านี้เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ บุคลากรของรัฐบาลที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้มาดูแลปัญหายางพาราประกาศต่อสภาและเกษตรกรชาวสวนยางว่า จะต้องให้ได้ขายยางกิโลกรัมละ 120 บาท แต่ขณะนี้ราคายังไม่ได้เข้าใกล้เลย จึงอยากให้รัฐบาลดำเนินการตามที่ประกาศราคา 120 บาทไว้

"ผมอยากเสนอท่านนายกฯว่า นายกฯต้องประกาศเลยว่าจะให้ยางขายได้กิโลละเท่าไหร่ สมมติว่า 110 บาท ก็ประกาศเลยว่า 1 ม.ค.57 จะขายยางในราคากิโลละ 110 บาท ส่วนก่อนถึงวันที่ 1 ม.ค.เกษตรกรขายได้เท่าไหร่ รัฐจะชดเชยให้เท่าที่ประกาศไว้"

จากนั้นขอให้นายกฯ ทำงานที่ถนัดที่สุด คือ การเดินทางไปต่างประเทศ ไปพบประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เจรจาเพื่อเลิกการตัดราคาขายแข่งขันกัน ปรับเปลี่ยนเป็นความร่วมมือ จะสามารถทำให้กำหนด ราคาตลาดโลกได้ ในราคาสูงขึ้น รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทำมาแล้ว และทำได้อย่างสำเร็จ นายกฯต้องบินไปเจรจาเอง อย่าส่งคนระดับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อไป เพราะกระจอกเกินกว่าที่จะเจรจา

ทั้งนี้ นายกฯจะต้องบินไปเจรจาการค้ากับจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของไทยในการซื้อยาง โดยระบุล่วงหน้าว่าวันที่ 1 ม.ค.นี้ราคายางที่เคยขายให้จะเปลี่ยนไป เพราะราคาที่ผ่านมาเกิดปัญหากับเกษตรในประเทศ เชื่อว่าจะสามารถทำให้ราคายางสูงขึ้นได้ ยืนยันว่าเกษตรกรที่มาชุมนุมนั้นเป็นผู้เดือดร้อนจริง ไม่มีนักการเมืองคนไหนอยู่เบื้องหลัง อย่าตอบว่าต้องใช้เวลา เพราะเรื่องนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายสุเทพ อภิปรายจบนายกฯ ก็ลุกเพื่อจะเดินทางกลับ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ ประธานการประชุมได้บอกให้นายกฯชี้แจงก่อนเดินทางกลับ ซึ่งนายกฯ ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า จำเป็นต้องกลับไปรับอาคันตุกะที่มาเยือนประเทศไทย และรออยู่ที่ทำเนียบฯแล้ว แต่จะติดตามการประชุมสภานี้ จากนั้นได้เดินทางกลับไปโดยใช้เวลาราว 20 นาที

**ปูสั่ง"ชัชชาติ"พาสื่อดูถนนยางพารา

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 30 ส.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม จะพาสื่อมวลชนไปสำรวจการนำยางพาราไปใช้ก่อสร้างถนนของกระทรวงคมนาคม บริเวณดอนเมืองโทลเวย์ กทม.สำหรับปัญหาการชุมนุมของเกษตรกรยางพารานั้น รัฐบาลยันว่าไม่ได้มีนโยบายใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ที่รัฐสภานายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชี รายชื่อพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนไม่ค่อยพอใจ ที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ก็เกิดปัญหามากมาย ล่าสุดคือปัญหาราคายางที่สุดท้ายกลายเป็นพุ่งเป้ามาที่นายกฯ ต้องรับผิดชอบนั้นจึงอยากให้พรรคเพื่อไทย ดึงกระทรวงเกษตรฯกลับมาดูแลเองอย่างน้อยที่สุด ในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตร

**รัฐบาลขู่ใช้"พ.ร.บ.มั่นคงฯ"คุมม็อบ

ด้าน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอ้างว่า ประชาชนส่วนพอใจและยุติการชุมนุมแต่ยังเหลือบางส่วน ซึ่งสั่งตำรวจห้ามใช้กำลังกับผู้ชุมนุมโดยเด็ดขาด จุดยืนของรัฐบาลคือไม่ใช้อาวุธ ไม่สลายการชุมนุม ไม่ประกาศใช้กฎหมายพิเศษ

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ขอเวลาในการประเมินสถานการณ์ 1 วัน ซึ่งหากไม่ยอมรับ และเกิดความวุ่นวายขึ้นมาตนอาจจะเสนอให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อควบคุม

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุม โดยมีการถ่ายทอดผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เป็นเรื่องที่ผู้ว่าฯ จะต้องศึกษาเป็นตัวอย่าง หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้แล้ว จะแก้ปัญหาอย่างไร ขอให้ผู้ว่าติดตามสถานการณ์ ต้องรู้ว่าแกนนำชื่ออะไร อยู่ที่ไหน โดยให้จังหวัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ แล้วทำความเข้าใจกับผู้ที่มาร้องเรียนด้วยสันติวิธี

"หากม็อบมีเครื่องขยายเสียง ทางฝั่งผู้ว่าก็ต้องมีเช่นกัน และต้องให้เสียงดังกว่าเขา หากไม่มีถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ ผู้ว่าฯต้องอธิบายตามหลักเหตุและผล หากผู้ชุมนุมยังไม่ยอมรับฟัง แสดงว่าเขาอาจมีจุดประสงค์อื่น"

**กอ.รมน.ติดตามชุมนุมม็อบสวนยาง

พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.กล่าวว่า ทาง กอ.รมน.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่สถานการณ์ยังไม่จำเป็นต้องประกาศใช้กฎหมายพิเศษ

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า รองนายกฯได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ลงพื้นที่พูดคุยหาข้อยุติ คาดภายใน 1-2 วันจะได้ความชัดเจน ซึ่งหากการพูดคุยยังไม่ลงตัวก็ต้องมาประเมินสถานการณ์เพื่อหามาตรการป้องกัน ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดมาตรการอะไร

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช.เปิดเผยว่า การข่าวระบุว่ามี 2-3 จุดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ที่จะมีการชุมนุมคือสีคิ้ว ที่จ.นครราชสีมา ภาคเหนือทางอุตรดิตถ์ ซึ่งวันที่ 30 ส.ค.นี้ ผบ.ตร.จะเรียกผู้บัญชาการตำรวจภาคทุกแห่งประชุมร่วมกันรับทราบวางแนวทางในการแก้ปัญหา

**กลุ่มคนใช้กระบะไล่ชนเยาวชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ส.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ชุมนุมชาวสวนยางและสวนปาล์มที่ทำการปิดเส้นทางรถไฟบริเวณบ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดเหตุการณ์กลุ่มคนจำนวน 6 คนใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตู สีมังคุดดำ ยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียน ฌพ 6077 ไล่ชนเยาวชนที่เข้าร่วมชุมนุมขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านจนล้มได้รับบาดเจ็บ โดยชายกลุ่มดังกล่าวได้ทำการยึดรถจักรยานยนต์ไปด้วย คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เหตุเกิดบริเวณใกล้สถานที่ชุมนุมประมาณ 500 เมตร

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเหตุการณ์ได้สร้างความชุลมุนพอสมควร โดยเฉพาะได้สร้างความโศกเศร้าและแค้นเคืองให้กับมารดาและญาติๆ ของเยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างมาก โชคดีที่เยาวชนผู้เสียหายพุ่งหลบทัน แต่ก็ล้มพับเป็นลมหัวฟาดพื้น ซึ่งได้ถูกลำเลียงนำตัวส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ อ.ชะอวด ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น