ASTVผู้จัดการรายวัน-ส่งออกก.ค.ลดลง 1.48% ติดลบเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนยอดรวม 7 เดือนเหลือบวกแค่ 0.60% ขาดดุลหนัก 5.9 แสนล้านบาท “พาณิชย์”เร่งถกส่งออกรายสินค้า หวังดันเป้าโค้งสุดท้าย นัดทูตพาณิชย์ ก.ย.นี้ ประเมินเป้าทั้งปี ก่อนเคาะคงหรือลด
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนก.ค.2556 มีมูลค่า 19,064.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.48% เป็นเงินบาท 584,273.8 ล้านบาท ลดลง 3.41% การนำเข้ามีมูลค่า 21,345.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.08% คิดเป็นเงินบาท 662,433.5 ล้านบาท ลดลง 0.85% ขาดดุลการค้า 2,281.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาท ขาดดุล 78,159.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ การส่งออกเดือนก.ค. ได้ขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากที่เดือนเม.ย. บวก 3.02% พ.ค. ลบ 5.25% มิ.ย. ลบ 3.38% ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ส่งออกลดลง เป็นเพราะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว ทั้งยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน ชะลอตัว รวมถึงตะวันออกกลาง ที่มีปัญหาความไม่สงบ ทำให้นำเข้าสินค้าไทยลดลง
ส่วนการส่งออกรวม 7 เดือน มีมูลค่า 132,368.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.60% ในรูปเงินบาท มีมูลค่า 3,920,281.5 ล้านบาท ลดลง 3.68% การนำเข้ามีมูลค่า 150,420.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.85% ในรูปเงินบาท มีมูลค่า 4,513,353.9 ล้านบาท ลดลง 0.40% โดยขาดดุลการค้า 18,052.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาทขาดดุล 593,072.3 ล้านบาท
นางวัชรีกล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้สั่งให้ทำแผนเป็นพิเศษในการบุกตลาดส่งออกเพื่อชดเชยการส่งออกที่ลดลง โดยได้สั่งการให้ประชุมกับผู้ส่งออกเป็นรายสินค้า รายบริษัท เพื่อประเมินการส่งออก และหามาตรการกระตุ้นการส่งออก ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังคงยืนยันเป้าหมายที่ 7-7.5% ไว้ก่อน
“เรามีเป้าส่งออก 7-7.5% จะทำได้หรือไม่ อยู่ที่ว่าเราได้ทำเต็มที่แล้ว ได้เท่าไรก็เท่านั้น ส่วนจะปรับลดหรือไม่ ช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ จะมีการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) เพื่อประเมินสถานการณ์ แต่จะมีการปรับลดหรือไม่อย่างไร ให้รอประเมินช่วงการประชุมก่อน น่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น”
สำหรับกรณีที่เงินบาทอ่อนค่า ทั้งๆ ที่ช่วงต้นปีมีความกังวลเรื่องเงินบาทแข็งค่า และเป็นตัวฉุดการส่งออก แต่ขณะนี้เงินบาทอ่อนค่ามาแตะ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐแล้ว แต่ยังไม่ช่วยให้การส่งออกดีขึ้นนั้น เห็นว่า เมื่อช่วงต้นปี มีปัจจัยที่ผู้ส่งออกกังวล คือ เรื่องบาทแข็ง กับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ปัจจุบัน แม้เงินบาทอ่อนค่า แต่เศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจคู่ค้าก็ยังไม่ดีขึ้น และหลายๆ ประเทศแย่ลง บาทอ่อนลงมา ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนก.ค.2556 มีมูลค่า 19,064.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.48% เป็นเงินบาท 584,273.8 ล้านบาท ลดลง 3.41% การนำเข้ามีมูลค่า 21,345.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.08% คิดเป็นเงินบาท 662,433.5 ล้านบาท ลดลง 0.85% ขาดดุลการค้า 2,281.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาท ขาดดุล 78,159.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ การส่งออกเดือนก.ค. ได้ขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากที่เดือนเม.ย. บวก 3.02% พ.ค. ลบ 5.25% มิ.ย. ลบ 3.38% ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ส่งออกลดลง เป็นเพราะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว ทั้งยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน ชะลอตัว รวมถึงตะวันออกกลาง ที่มีปัญหาความไม่สงบ ทำให้นำเข้าสินค้าไทยลดลง
ส่วนการส่งออกรวม 7 เดือน มีมูลค่า 132,368.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.60% ในรูปเงินบาท มีมูลค่า 3,920,281.5 ล้านบาท ลดลง 3.68% การนำเข้ามีมูลค่า 150,420.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.85% ในรูปเงินบาท มีมูลค่า 4,513,353.9 ล้านบาท ลดลง 0.40% โดยขาดดุลการค้า 18,052.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปเงินบาทขาดดุล 593,072.3 ล้านบาท
นางวัชรีกล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้สั่งให้ทำแผนเป็นพิเศษในการบุกตลาดส่งออกเพื่อชดเชยการส่งออกที่ลดลง โดยได้สั่งการให้ประชุมกับผู้ส่งออกเป็นรายสินค้า รายบริษัท เพื่อประเมินการส่งออก และหามาตรการกระตุ้นการส่งออก ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังคงยืนยันเป้าหมายที่ 7-7.5% ไว้ก่อน
“เรามีเป้าส่งออก 7-7.5% จะทำได้หรือไม่ อยู่ที่ว่าเราได้ทำเต็มที่แล้ว ได้เท่าไรก็เท่านั้น ส่วนจะปรับลดหรือไม่ ช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ จะมีการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) เพื่อประเมินสถานการณ์ แต่จะมีการปรับลดหรือไม่อย่างไร ให้รอประเมินช่วงการประชุมก่อน น่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น”
สำหรับกรณีที่เงินบาทอ่อนค่า ทั้งๆ ที่ช่วงต้นปีมีความกังวลเรื่องเงินบาทแข็งค่า และเป็นตัวฉุดการส่งออก แต่ขณะนี้เงินบาทอ่อนค่ามาแตะ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐแล้ว แต่ยังไม่ช่วยให้การส่งออกดีขึ้นนั้น เห็นว่า เมื่อช่วงต้นปี มีปัจจัยที่ผู้ส่งออกกังวล คือ เรื่องบาทแข็ง กับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ปัจจุบัน แม้เงินบาทอ่อนค่า แต่เศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจคู่ค้าก็ยังไม่ดีขึ้น และหลายๆ ประเทศแย่ลง บาทอ่อนลงมา ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง