วานนี้(26 ส.ค.56) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวว่าได้บรรจุวาระการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 27-28 ส.ค. ส่วนวันที่ 29 ส.ค. จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฏร โดยเชื่อมั่นว่าการประชุมร่วมรัฐสภาจะไม่เกิดปัญหาความวุ่นวายเหมือนเช่นสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะให้วิป 3 ฝ่ายประสานการพูดคุยให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฏร จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตั้งกระทู้สดถามและเสนอญัตติด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะเปิดโอกาสให้อภิปรายได้อย่างเต้มที่ พร้อมเชื่อมั่นไม่เกิดความวุ่นวาย
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 - 28 สิงหาคม จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. จากนั้น ในวันที่ 29 สิงหาคม จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามปกติ ซึ่งฝ่ายค้าน จะยื่นกระทู้ถามสด เรื่องการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เข้ามาพิจารณา และคิดว่าน่าจะใช้เวลาทั้งวัน ส่วนประเด็นที่มาของ ส.ว. คาดว่าจะพิจารณาจบภายใน 2 วัน แต่ก็ยังไม่สามารถกำหนดได้ เพราะเกรงว่าฝ่ายค้านจะไม่พอใจว่าไปกำหนดเวลาให้จบ ซึ่งหากไม่จบ ก็อภิปรายต่อในสัปดาห์หน้าได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านมีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฎิรูปกฏหมาย (คปก.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธานได้ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของสว.นั้นคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ได้แก้ไขเกินกว่าหลักการที่รัฐสภาได้ลงมติเอาไว้ในวาระที่1 ซึ่งเข้าข่ายเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ การแก้ไขให้สว.มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น การแก้ไขจะกระทำได้เฉพาะในส่วนนี้เท่านั้นจะไปแก้ไขในส่วนอื่นๆเพิ่มเติมไม่ได้ แต่ปรากฎว่าคณะกมธ.ได้แก้ไขเพิิ่มเติมในส่วนอื่นๆ เช่น การแก้ให้สว.ลงเลือกตั้งได้ติดต่อกัน การห้ามไม่ให้สมาชิกพรรคการเมืองที่ยังไม่พ้นสภาพเกิน5ปีมาลงสมัครสว.ได้ หรือการให้บุคคลในครอบครัวของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลงสมัคร สว.ได้เป็นต้น ซึ่งรัฐธรรมนูญ2550ได้กำหนดข้อห้ามนี้เหล่านี้เอาไว้
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ดังนั้น ฝ่ายค้านจะรวบรวมประเด็นเหล่านี้เพื่อเตรียมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยภายหลังจากรัฐสภาลงมติเห็นชอบในวาระที่3 ต่อไป ส่วนการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่2จะมีการประชุมในระหว่างวันที่27-28ส.ค.ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เหลือผู้อภิปรายในร่างแก้ไขมาตรา3ว่าด้วยการกำหนดให้สว.มาจากกการเลือกตั้งจำนวน 38 คน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคได้สั่งให้ ส.ส. เตรียมความพร้อมเข้าร่วมประชุมร่วมรัฐสภาให้ครบองค์ประชุม เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มา ส.ว. และเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ที่เห็นต่างได้อภิปรายอย่างเต็มที่ แต่ยังห่วงการอภิปรายของกลุ่มที่เห็นต่าง เพราะที่ผ่านมายังมีการตีรวน ดึงเกม ให้ยืดเยื้อ แทนที่จะให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือก ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่ใช่การกินรวบอำนาจ ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา ยืนยันว่าเป็นการให้โอกาสประชาชนได้เลือกตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ตามที่รัฐบาลได้หาเสียงและเป็นประชาธิปไตยแบบเต็มใบร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 มีจุดอ่อนหลายข้อที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้ต่างชาติได้เห็นการพัฒนาในกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงอยากให้การพิจารณาในวาระที่ 2 นี้ผ่านไปได้ด้วยดี.
นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป)พรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ภายในเดือนก.ย.นี้ แต่ไม่ใช่ช่วงต้นเดือนก.ย.ตามที่เคยคาดไว้ เนื่องจากต้องรอให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสร็จสิ้นก่อน
ที่ประชุมวิปรัฐบาล มีมติให้พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว ในวันที่ 27-28 ส.ค. เพียง 2 วัน โดยจะประสานไปยังวิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา ให้กำหนดเวลาการอภิปรายให้กระชับขึ้น ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค.จะเป็นญัตติและกระทู้สด ซึ่งคาดว่าจะหารือเกี่ยวกับปัญหาราคายางตกต่ำที่เกษตรกรชาวสวนยางออกมาชุมนุมเรียกร้องกันอยู่ในขณะนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยปัญหานี้และต้องการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร
"ที่ประชุมวิปรัฐบาลเห็นว่าการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีความล่าช้ามามากแล้ว ซึ่งจะประสานไปยังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ให้ใช้ข้อบังคับในการประชุมอย่างเคร่งครัด โดยเห็นว่าหากมีการอภิปรายในประเด็นซ้ำๆ ก็ต้องกำชับผู้อภิปรายและกำหนดกรอบเวลาในการอภิปรายของแต่ละคนให้ชัดเจน เพื่อควบคุมการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในกรอบเวลา "
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญจะจบทันภายในวันพุธนี้หรือไม่ ซึ่งทางวิปรัฐบาลพร้อมจะขยายเวลาออกไปหากการประชุมยืดเยื้อ โดยจะนำมติของวิปรัฐบาลในวันนี้ไปหารือกับวิปฝ่ายค้านอีกที
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 - 28 สิงหาคม จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. จากนั้น ในวันที่ 29 สิงหาคม จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามปกติ ซึ่งฝ่ายค้าน จะยื่นกระทู้ถามสด เรื่องการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เข้ามาพิจารณา และคิดว่าน่าจะใช้เวลาทั้งวัน ส่วนประเด็นที่มาของ ส.ว. คาดว่าจะพิจารณาจบภายใน 2 วัน แต่ก็ยังไม่สามารถกำหนดได้ เพราะเกรงว่าฝ่ายค้านจะไม่พอใจว่าไปกำหนดเวลาให้จบ ซึ่งหากไม่จบ ก็อภิปรายต่อในสัปดาห์หน้าได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านมีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฎิรูปกฏหมาย (คปก.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธานได้ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของสว.นั้นคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ได้แก้ไขเกินกว่าหลักการที่รัฐสภาได้ลงมติเอาไว้ในวาระที่1 ซึ่งเข้าข่ายเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ การแก้ไขให้สว.มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น การแก้ไขจะกระทำได้เฉพาะในส่วนนี้เท่านั้นจะไปแก้ไขในส่วนอื่นๆเพิ่มเติมไม่ได้ แต่ปรากฎว่าคณะกมธ.ได้แก้ไขเพิิ่มเติมในส่วนอื่นๆ เช่น การแก้ให้สว.ลงเลือกตั้งได้ติดต่อกัน การห้ามไม่ให้สมาชิกพรรคการเมืองที่ยังไม่พ้นสภาพเกิน5ปีมาลงสมัครสว.ได้ หรือการให้บุคคลในครอบครัวของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลงสมัคร สว.ได้เป็นต้น ซึ่งรัฐธรรมนูญ2550ได้กำหนดข้อห้ามนี้เหล่านี้เอาไว้
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ดังนั้น ฝ่ายค้านจะรวบรวมประเด็นเหล่านี้เพื่อเตรียมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยภายหลังจากรัฐสภาลงมติเห็นชอบในวาระที่3 ต่อไป ส่วนการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่2จะมีการประชุมในระหว่างวันที่27-28ส.ค.ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เหลือผู้อภิปรายในร่างแก้ไขมาตรา3ว่าด้วยการกำหนดให้สว.มาจากกการเลือกตั้งจำนวน 38 คน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคได้สั่งให้ ส.ส. เตรียมความพร้อมเข้าร่วมประชุมร่วมรัฐสภาให้ครบองค์ประชุม เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มา ส.ว. และเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ที่เห็นต่างได้อภิปรายอย่างเต็มที่ แต่ยังห่วงการอภิปรายของกลุ่มที่เห็นต่าง เพราะที่ผ่านมายังมีการตีรวน ดึงเกม ให้ยืดเยื้อ แทนที่จะให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือก ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่ใช่การกินรวบอำนาจ ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา ยืนยันว่าเป็นการให้โอกาสประชาชนได้เลือกตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ตามที่รัฐบาลได้หาเสียงและเป็นประชาธิปไตยแบบเต็มใบร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 มีจุดอ่อนหลายข้อที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้ต่างชาติได้เห็นการพัฒนาในกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงอยากให้การพิจารณาในวาระที่ 2 นี้ผ่านไปได้ด้วยดี.
นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป)พรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ภายในเดือนก.ย.นี้ แต่ไม่ใช่ช่วงต้นเดือนก.ย.ตามที่เคยคาดไว้ เนื่องจากต้องรอให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสร็จสิ้นก่อน
ที่ประชุมวิปรัฐบาล มีมติให้พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว ในวันที่ 27-28 ส.ค. เพียง 2 วัน โดยจะประสานไปยังวิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา ให้กำหนดเวลาการอภิปรายให้กระชับขึ้น ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค.จะเป็นญัตติและกระทู้สด ซึ่งคาดว่าจะหารือเกี่ยวกับปัญหาราคายางตกต่ำที่เกษตรกรชาวสวนยางออกมาชุมนุมเรียกร้องกันอยู่ในขณะนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยปัญหานี้และต้องการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร
"ที่ประชุมวิปรัฐบาลเห็นว่าการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีความล่าช้ามามากแล้ว ซึ่งจะประสานไปยังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ให้ใช้ข้อบังคับในการประชุมอย่างเคร่งครัด โดยเห็นว่าหากมีการอภิปรายในประเด็นซ้ำๆ ก็ต้องกำชับผู้อภิปรายและกำหนดกรอบเวลาในการอภิปรายของแต่ละคนให้ชัดเจน เพื่อควบคุมการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในกรอบเวลา "
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญจะจบทันภายในวันพุธนี้หรือไม่ ซึ่งทางวิปรัฐบาลพร้อมจะขยายเวลาออกไปหากการประชุมยืดเยื้อ โดยจะนำมติของวิปรัฐบาลในวันนี้ไปหารือกับวิปฝ่ายค้านอีกที