ASTVผู้จัดการรายวัน - 2 บิ๊กอสังหาฯลั่นทั้งปีรายได้และยอดขายตามเป้า "ศุภาลัย" คาดครึ่งปีหลังเติบโตดี รับผลบวกโหมเปิดคอนโดฯ-แนวราบ ชี้กำไรขั้นต้นปีนี้มากกว่า 40-42% เผยปี 57 รายได้โตกว่า 30% พอร์ตคอนโดฯไต่ระดับแตะ 70 % ด้าน"แสนสิริ"ชี้ครึ่งหลังค่าใช้จ่ายไม่สูงเท่าครึ่งปีแรก คาดทั้งปีรายได้ 34,000-35,000 ล้าน วางเป้ายอดขาย 3 ปีข้างหน้าเติบโต 10-15%
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ประเมินถึงรายได้ในปี 2556 ว่า ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 13,000 ล้านบาท และยอดขายที่ 26,000 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 40-42% ซึ่งบริษัทคาดว่าครึ่งปีหลัง ทั้งยอดขายและรายได้จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก 8 โครงการ จากครึ่งปีแรกเปิด 2 โครงการ รวมถึงจะมีการเปิดโครงการแนวราบด้วย ซึ่งทั้งปีจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 25,000 ล้านบาท คาดอัตรากำไรขั้นตอนปีนี้ มากกว่า 40-42%
ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรอโอน(Backlog)ในปีนี้ราว 13,500 ล้านบาท โดยรับรู้รายได้ในครึ่งปีแรกไปกว่า 4,000 ล้านบาท และอีก 8,400 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง
สำหรับในปี 2557 คาดว่าจะมี backlog ราว 13,700 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม จะเพิ่มสูงกว่าโครงการแนวราบ คิดเป็น 70:30 จากปัจจุบันอยู่ที่ 50:50 เนื่องจากเป็นไปตามการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า และผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อเปลี่ยนไปจากเดิม
แสนสิริฯชี้ครึ่งปีหลังค่าใช้จ่ายไม่พุ่ง
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้ จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ 3,020 ล้านบาท เป็นการเติบโตตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ
ทั้งนี้ รายได้ปีนี้คาดว่าเติบโต 10% มาเป็น 34,000-35,000 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 30,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังจากการโอนโครงการเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 จำนวน 7,500-8,000 ล้านบาท และไตรมาส 4 รับรู้รายได้อีกราว 14,000 ล้านบาท ส่วนยอดขายทั้งปี 56 คาดว่าทำได้ตามเป้าจำนวน 48,000 ล้านบาท
“การที่เราจะทำให้กำไรเติบโตขึ้นนั้น ในครึ่งปีหลังเราจะเน้นการรับรู้รายได้มากกว่าการขาย เนื่องจากในครึ่งปีแรกบริษัทเน้นยอดขายมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายจากการทำโปรโมชันต่างๆถูกบันทึกลงไปก่อน ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นตามการขาย ซึ่งเราจะไม่ทำโปรโมชั่นมากในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้เราได้ปรับเพิ่มราคาขายในปีนี้ 1-3% ตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น 5-7% ในปีนี้"นายวันจักร กล่าว
ส่วนแนวโน้มในปีหน้า ตั้งเป้ารายได้ราว 40,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี Backlog ที่มีกำหนดรับรู้รายได้ในปี 57 แล้วจำนวน 21,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายใน 3 ปี (56-58)เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15%
สำหรับกำลังซื้อของลูกค้าบริษัทมองว่าอาจจะอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีหลังและต่อเนื่องไปถึงปี 57 จากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ชะลอตัว และลูกค้าที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยบริษัทมองว่ากำลังซื้อที่อ่นลงจะไม่กระทบกับยอดขายของบริษัทมาก.
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ประเมินถึงรายได้ในปี 2556 ว่า ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 13,000 ล้านบาท และยอดขายที่ 26,000 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 40-42% ซึ่งบริษัทคาดว่าครึ่งปีหลัง ทั้งยอดขายและรายได้จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก 8 โครงการ จากครึ่งปีแรกเปิด 2 โครงการ รวมถึงจะมีการเปิดโครงการแนวราบด้วย ซึ่งทั้งปีจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 25,000 ล้านบาท คาดอัตรากำไรขั้นตอนปีนี้ มากกว่า 40-42%
ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรอโอน(Backlog)ในปีนี้ราว 13,500 ล้านบาท โดยรับรู้รายได้ในครึ่งปีแรกไปกว่า 4,000 ล้านบาท และอีก 8,400 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง
สำหรับในปี 2557 คาดว่าจะมี backlog ราว 13,700 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม จะเพิ่มสูงกว่าโครงการแนวราบ คิดเป็น 70:30 จากปัจจุบันอยู่ที่ 50:50 เนื่องจากเป็นไปตามการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า และผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อเปลี่ยนไปจากเดิม
แสนสิริฯชี้ครึ่งปีหลังค่าใช้จ่ายไม่พุ่ง
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้ จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ 3,020 ล้านบาท เป็นการเติบโตตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ
ทั้งนี้ รายได้ปีนี้คาดว่าเติบโต 10% มาเป็น 34,000-35,000 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 30,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังจากการโอนโครงการเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 จำนวน 7,500-8,000 ล้านบาท และไตรมาส 4 รับรู้รายได้อีกราว 14,000 ล้านบาท ส่วนยอดขายทั้งปี 56 คาดว่าทำได้ตามเป้าจำนวน 48,000 ล้านบาท
“การที่เราจะทำให้กำไรเติบโตขึ้นนั้น ในครึ่งปีหลังเราจะเน้นการรับรู้รายได้มากกว่าการขาย เนื่องจากในครึ่งปีแรกบริษัทเน้นยอดขายมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายจากการทำโปรโมชันต่างๆถูกบันทึกลงไปก่อน ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นตามการขาย ซึ่งเราจะไม่ทำโปรโมชั่นมากในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้เราได้ปรับเพิ่มราคาขายในปีนี้ 1-3% ตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น 5-7% ในปีนี้"นายวันจักร กล่าว
ส่วนแนวโน้มในปีหน้า ตั้งเป้ารายได้ราว 40,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี Backlog ที่มีกำหนดรับรู้รายได้ในปี 57 แล้วจำนวน 21,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายใน 3 ปี (56-58)เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15%
สำหรับกำลังซื้อของลูกค้าบริษัทมองว่าอาจจะอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีหลังและต่อเนื่องไปถึงปี 57 จากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ชะลอตัว และลูกค้าที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยบริษัทมองว่ากำลังซื้อที่อ่นลงจะไม่กระทบกับยอดขายของบริษัทมาก.
