“ศุภาลัย” ยอมรับอสังหาฯ ชลบุรี-พัทยา แข่งขันสูง ซัปพลายตลาดล่าง-บนยังเหลืออื้อ แต่ไม่ล้นตลาด เหตุอัตราการดูดซับยังมีต่อเนื่อง แม้ไม่รวดเร็วเท่าตลาดระดับกลาง พร้อมเดินหน้าปูพรมโครงการใหม่ทั้งแนวราบ-สูง พัทยา-ชลบุรี-ระยอง 6 โครงการ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท แจง มิ.ย.นี้เปิดตัวคอนโดไฮไลต์ “ศุภาลัย มาเรย์ @พัทยา” มูลค่ากว่า 2,490 ล้านบาท มั่นใจเข้าตลาดถูก การแข่งขันไม่สูง หลังพบห้องชุดตลาดกลาง 1 ล้านบาทต้นๆ ในเมืองพัทยาระบายออกกว่า 90%
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2556 นี้ บริษัทมีแผนลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในเมืองท่องเที่ยวอย่างโซนภาคตะวันออกของกรุงเทพฯ รวม 6โครงการ มีทั้งโครงการแนวราบ และคอนโดฯ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท แยกเป็นการลงทุนคอนโดฯ และทาวน์เฮาส์ในเมืองพัทยาอย่างละโครงการ มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท โครงการแนวราบในจังหวัดชลบุรี และในเมืองศรีราชา อย่างละโครงการ ส่วนในจังหวัดระยอง จะเป็นคอนโดฯ และบ้านเดี่ยว อย่างละโครงการ
โดยในเดือน มิ.ย.นี้ จะนำร่องคอนโดฯ ไฮไลต์ “ศุภาลัย มาเรย์ @พัทยา” อาคารสูง 35 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 7 ไร่เศษ ตั้งอยู่ริมถนนเทพประสิทธิ์ กลางเมืองพัทยา มีจำนวนหน่วยขาย 1,179 ยูนิต มีห้องชุดให้เลือก 3 แบบ พื้นที่เริ่มต้น 32-72 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 2,490 ล้านบาท มียอดขายจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสำรวจและวิจัยตลาดของศุภาลัย พบว่า ในปี 2555 ตลาดที่อยู่อาศัยในชลบุรี พัทยา และระยอง มีศักยภาพค่อนข้างสูง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ภาคอสังหาฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดคอนโดฯระดับราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งจากต่างชาติและชาวไทย โดยเฉพาะคน กทม.ซึ่งต้องการบ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านพักตากอากาศ รวมถึงบุคลากรระดับผู้บริหาร หัวหน้างานที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง และผู้บริโภคในพื้นที่
จากผลการวิจัย ระบุว่า ตลาดรวมเมืองชลบุรี ณ ปลายปี 55 มีซัปพลายประมาณ 92,644 หน่วย ถูกดูดซับออกไปแล้ว 60-70% แบ่งออกเป็น ประเภทบ้านเดี่ยว 19,527 ยูนิต ขายได้แล้ว 13,741 ยูนิต บ้านแฝด 5,016 ยูนิต ขายได้แล้ว 3,457 ยูนิต ทาวน์เฮาส์ 11,725 ยูนิต ขายได้แล้ว 7,755 ยูนิต และคอนโดฯ 56,376 ยูนิต ขายได้แล้ว 37,365 ยูนิต
ในส่วนของเมืองพัทยา ที่มีการลงทุนพัฒนาโครงการมากที่สุด มีซัปพลาย 33,670 ยูนิต สามารถแบ่งโซนพัฒนาออกเป็น 2 โซน คือ โซนฝั่งภูเขามีซัปพลาย 6,288 ยูนิต ถูกดูดซับไปแล้ว 42% แบ่งออกเป็น ตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3.5-4.2 ล้านบาท ขายแล้ว 29% บ้านแฝด ราคา 1.8-2.4 ล้านบาท ขายแล้ว 32% ทาวน์เฮาส์ ราคา1.8-2.4 ล้านบาท ขายแล้ว 38% และคอนโดฯ ราคา 0.8-1.2ล้านบาท ขายได้แล้ว 96%
สำหรับเมืองพัทยาโซนฝั่งทะเล มีซัปพลายรวม 27,385 ยูนิต ขายได้แล้ว 53% โดยแบ่งออกเป็นบ้านเดี่ยว 57% บ้านแฝด ขายแล้ว 77% ทาวน์เฮาส์ ขายแล้ว 18% คอนโดฯ ขายแล้ว 53%
นายอธิป กล่าวว่า สำหรับซัปพลายรวม จ.ระยอง มีจำนวน 5,406 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2,358 ยูนิต ขายแล้ว 1,741 ยูนิต บ้านแฝด 267 ยูนิต ขายแล้ว 184 ยูนิต ทาวน์เฮาส์ 1,261 ยูนิต ขายแล้ว 634 ยูนิต และคอนโดฯ 1,520 ยูนิต ขายแล้ว 1,183 ยูนิต
“เป็นที่น่าสังเกตว่า ห้องชุดระดับราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ถึง 2 ล้านบาทปลายๆ มีอัตราการระบายออกที่ดีมาก ขณะที่โครงการหรู ราคาสูง 3 ล้านบาทขึ้นไป และกลุ่มที่อยู่อาศัยในตลาดล่างๆ ยังคงมีสต๊อกเหลือขายอยู่ค่อนข้างมาก แม้จะสามารถระบายออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่ค่อนข้างน้อย ไม่รวดเร็วเท่าโครงการในตลาดระดับกลาง ทำให้หลายคนกังวลว่าจะเกิดภาวะโอเวอร์ซัปพลายขึ้น ซึ่งส่วนตัวมองว่าตลาดยังไปได้แต่อาจจะช้าลงไปบ้านในบางตลาด ทำให้เกิดความกังวลดังกล่าวขึ้น”
สำหรับตลาดเมืองชลบุรี และพัทยา นั้นมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีซัปพลายคงค้างในตลาดระดับบน และล่างค่อนข้างมาก แต่ทางบริษัทศุภาลัยจำเป็นต้องเข้าไปเพื่อสร้างการรับรู้ และสร้างฐานลูกค้าในตลาดไว้ แต่กระนั้นบริษัทฯ ไม่ได้เข้าไปในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่เข้าไปในตลาดระดับกลางซึ่งยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย (ดีมานด์) จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี มีรายได้ตามที่ประมาณการไว้