“ซีบีริชาร์ด” เผยผลวิจัยตลาดภูเก็ต ชี้อสังหาฯ รายใหญ่จาก กทม.รุกตลาดภูเก็ตเต็มสูบ พลิกโฉมอสังหาฯ ภูเก็ตระยะสั้นและยาว ทั้งด้านผู้ลงทุนและผู้ซื้อ ระบุแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยขนาด-ราคาลดลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดพัทยา และหัวหิน ย้ำความต้องการซื้อลูกค้าคนไทยขยายตัวสูงขึ้น เชื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจะส่งผลให้อสังหาฯ ภูเก็ตเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นายเดวิด ซีมิสเตอร์ ประธานซีบีริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย จำกัด (CBRE) เปิดเผยว่า จากการจัดเก็บข้อมูลและวิจัยตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต พบว่า การเข้าไปลงทุนของผู้ประกอบการจากรายใหญ่จาก กทม. เช่น แสนสิริ และศุภาลัย เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยโครงการในช่วงแรกๆ ของผู้ประกอบการดังกล่าวมุ่งเน้นที่ตลาดระดับเริ่มต้นที่มีฐานตลาดกว้าง และได้รับความสำเร็จอย่างสูงทันที สามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ในระยะเวลาอันสั้นโดยมีฐานลูกค้าชาวไทยเป็นหลัก
ทั้งนี้ ความสำเร็จของโครงการดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการอีกหลายรายเริ่มเห็นถึงความเป็นไปได้ของการพัฒนาโครงการในภูเก็ตที่มีรูปแบบที่คล้ายโครงการในหัวหิน และพัทยา ที่สามารถดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ รูปแบบที่กล่าวคือ ที่พักอาศัยมีขนาดเล็กลง และราคาขายต่อห้องหรือต่อหลังถูกลงอย่างมาก ซึ่งเชื่อว่าเป็นการเริ่มต้นของการเกิดตลาดใหม่ที่มีความยั่งยืนในภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเข้ามาของ แสนสิริ และศุภาลัยแล้ว ยังมีอีกหลายๆ บริษัทจาก กทม. ที่เข้ามาลงทุนเพิ่ม เช่นในช่วงปลายปี 2555 บริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด (มหาชน) ได้เปิดโครงการลากูน่า ชอร์ส ที่เป็นส่วนหนึ่งของลากูน่า ภูเก็ต โครงการห้องชุดขนาดเริ่มต้น 42 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 47% โดยลูกค้าหลักเป้นชาวต่างชาติ
ขณะที่ไตรมาสแรกของปีนี้ แสนสิริ ได้เปิดตัวโครงการบ้านไม้ขาว คอนโดมิเนียม ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานลูกค้าของแสนสิริ ล่าสุด มีการเปิดตัวโครงการ อมารี เรสซิเดนส์ ภูเก็ต เป็นโครงการที่พักอาศัยระดับหรู ตั้งอยู่บนทำเลอ่าวป่าตอง พัฒนาโครงการโดย บริษัท อมารี เอสเตท จำกัด
นายเดวิด กล่าวว่า การเปิดโครงการใหม่เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตลาดภูเก็ต เพราะเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการไทยที่มีความน่าเชื่อถือ นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องผู้ประกอบการแล้ว ตลาดที่พักอาศัยภูเก็ตยังมีการปลี่ยนแปลง ในกลุ่มลูกค้าซึ่งมีสัดส่วนของคนไทยเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนชาวไทยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นยังกำลังมองหาโอกาสการลงทุนที่นอกเหนือไปจากตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ และภูเก็ตก็เป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่ง เพราะเป็นตลาดที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุด รองจากกรุงเทพฯ แม้ว่าสัดส่วนผู้ซื้อชาวไทยในภูเก็ตจะน้อยกว่าในหัวหิน และพัทยา แต่การที่มีผู้ซื้อชาวไทยในภูเก็ตเพิ่มขึ้นนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
จากแนวโน้มดังกล่าว CBRE คาดการณ์ว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่อื่นๆ จะเริ่มเข้าสู่ตลาดที่พักอาศัยภูเก็ตมากขึ้น โดยการเปิดโครงการขนาด 1 ห้องนอน ที่มีขนาดเล็กลง ราคาต่อห้องโดยทั่วไปจะใกล้เคียงกับตลาดพัทยา และหัวหิน แต่เนื่องจากภูเก็ตมีลักษณะเป็นเกาะซึ่งมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ทำให้ซัปพลายในอนาคตที่มีปริมาณจำกัด
สำหรับในปี 2556 นี้ เชื่อว่าตลาดที่พักอาศัยในภูเก็ตระดับเริ่มต้นต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทั้งคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ให้เช่าระยะยาว และวิลลาขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ด้านในของเกาะจะยังคึกคัก ในขณะที่ตลาดวิลลาระดับลักชัวรี ราคาระหว่าง 125-250 ล้านบาทต่อหลัง จะยังคงเติบโตได้ดีในระยะยาว นอกจากความน่าสนใจของโครงการใหม่ๆ แล้ว ตลาดรีเซลส์ในภูเก็ตยังอยู่ช่วงขาขึ้นทั้งในด้านปริมาณลูกค้าที่สนใจ และด้านยอดขาย