ASTVผู้จัดการรายวัน - ประมงเรือเล็กระยองกว่า 500 คน ชุมนุมหน้าโรงกลั่นพีทีทีจีซี ยื่นข้อเสนอทบทวนหลักเกณฑ์ค่าเยียวยาใหม่ พร้อมจัดตั้งกองทุนบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและสังคม "บิ๊ก"พีทีทีจีซีเผยข้อเสนอที่สมาคมประมงพื้นบ้านฯเสนอใกล้เคียงกับหลักเกณฑ์และแนวทางที่บริษัทฯปฎิบัติอยู่แล้ว ส่วนการตั้งกองทุนฯนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบความเสียหาย เพื่อติดตามประเมินผล ยันไม่หนี พร้อมรับผิดชอบเต็มที่
วานนี้(19 ส.ค.) ที่วัดปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กจ.ระยอง กว่า 500 คน พร้อมรถยนต์ 90 คัน นำโดยนายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก นายละม่อม บุญยงค์ หัวหน้ากลุ่มประมงเรือเล็กปากน้ำบ้านเรา และนายสะมาแอ เจ๊ะบอล นายกสมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ภาคใต้ เดินทางมาร่วมชุมนุมกัน
จากนั้นได้เคลื่อนขบวนตามถนนเลียบชายทะเล ไปที่หน้าโรงกลั่นน้ำมันบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือพีทีทีจีซี ถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง โดยมีพ.ต.อ.สมนึก บุรมิ รองผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.เสรี เศรษฐกร ผกก.สภ.มาบตาพุด นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลความสงบเรียบร้อย
โดยนายจตุรัส นายละม่อม และนายสะมาแอ เป็นตัวแทนชาวประมง เจรจากับนายวริทธ์ นามวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายงานบริหารศักยภาพองค์กร ผู้แทนพีทีทีจีซี พร้อมยื่นหนังสือเป็นจดหมายเปิดผนึกว่า ขอให้พีทีทีจีซีชดใช้ความเสียหาย โดยอย่าได้พยายามรวบรัดจ่ายเงินเยียวยาอย่างไม่เป็นธรรม และให้ชาวบ้านไปลงชื่อขอรับเงินเยียวยาภายในวันที่ 31 สิงหาคม เพราะชาวประมงเรือเล็กไม่สามารถยอมรับข้อเสนอดังกล่าวได้
เนื่องจากขณะนี้ชาวประมงเรือเล็กเขตอ.เมือง และอ.แกลง ต้องหยุดออกเรือมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน ขณะที่ร้านค้าและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ต่างประสบปัญหากันทั่วหน้า ขาดรายได้จากที่เคยได้รับ สัตว์ทะเลเริ่มตายเกยชายหาดอย่างไม่เคยปรากฏการณ์มาก่อน จึงขอเรียกร้องกับพีทีทีจีซี 3 ข้อ ดังนี้
1.พีทีทีจีซีจะต้องทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายค่าเยียวยาใหม่ โดยพิจารณาตามข้อมูลรายชื่อ และค่าเสียหายที่กลุ่มประมงได้รับผลกระทบ 2.ให้พีทีทีจีซีจัดตั้งกองทุนเพื่อติดตามบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและสังคม และ 3.บริษัทต้องเสนอแผนมาตรการการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อสาธารณะ ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบแผน พร้อมทั้งนำไปสู่การปฏิบัติเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายอนนท์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC กล่าวว่า เบื้องต้นที่บริษัทฯได้เสนอและจ่ายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบบนเกาะเสม็ดและพื้นที่อื่นๆ ไปแล้วบางส่วน พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายเยียวยาใหม่ว่าข้อเรียกร้องของกลุ่มสมาชิกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยองไม่ต่างจากหลักเกณฑ์และแนวทางที่บริษัทฯตั้งใจทำอยู่แล้ว โดยจำนวนเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นนี้ ทางจังหวัดระยองได้ร่วมกับบริษัทฯ กำหนดขึ้น หากผู้ได้รับผลกระทบเห็นว่าจำนวนที่มอบให้นั้นไม่ครอบคลุมความเสียหาย สามารถขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นตามอัตราที่กำหนดไว้ก่อน และยื่นเรื่องให้ศูนย์ประสานให้ความช่วยเหลือเยียวยาของจังหวัดระยองทราบเพื่อพิจารณาเรียกร้องการเยียวยาเพิ่มเติม
ส่วนการตั้งกองทุนเพื่อติดตามบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและสังคมนั้น ขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาศึกษาผลกระทบ การติดตามประเมินผล และแนวทางการฟื้นฟูฯ โดยยืนยันว่าบริษัทฯพร้อมที่จะรับผิดชอบ ไม่หนี โดยบริษัทอาสาเข้าไปดูแลทั้งหมด รวมทั้งกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำแผนระยะยาวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แก่จังหวัดระยอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ โดยจะรับผิดชอบและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
วานนี้(19 ส.ค.) ที่วัดปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กจ.ระยอง กว่า 500 คน พร้อมรถยนต์ 90 คัน นำโดยนายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก นายละม่อม บุญยงค์ หัวหน้ากลุ่มประมงเรือเล็กปากน้ำบ้านเรา และนายสะมาแอ เจ๊ะบอล นายกสมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ภาคใต้ เดินทางมาร่วมชุมนุมกัน
จากนั้นได้เคลื่อนขบวนตามถนนเลียบชายทะเล ไปที่หน้าโรงกลั่นน้ำมันบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือพีทีทีจีซี ถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง โดยมีพ.ต.อ.สมนึก บุรมิ รองผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.เสรี เศรษฐกร ผกก.สภ.มาบตาพุด นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลความสงบเรียบร้อย
โดยนายจตุรัส นายละม่อม และนายสะมาแอ เป็นตัวแทนชาวประมง เจรจากับนายวริทธ์ นามวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายงานบริหารศักยภาพองค์กร ผู้แทนพีทีทีจีซี พร้อมยื่นหนังสือเป็นจดหมายเปิดผนึกว่า ขอให้พีทีทีจีซีชดใช้ความเสียหาย โดยอย่าได้พยายามรวบรัดจ่ายเงินเยียวยาอย่างไม่เป็นธรรม และให้ชาวบ้านไปลงชื่อขอรับเงินเยียวยาภายในวันที่ 31 สิงหาคม เพราะชาวประมงเรือเล็กไม่สามารถยอมรับข้อเสนอดังกล่าวได้
เนื่องจากขณะนี้ชาวประมงเรือเล็กเขตอ.เมือง และอ.แกลง ต้องหยุดออกเรือมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน ขณะที่ร้านค้าและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ต่างประสบปัญหากันทั่วหน้า ขาดรายได้จากที่เคยได้รับ สัตว์ทะเลเริ่มตายเกยชายหาดอย่างไม่เคยปรากฏการณ์มาก่อน จึงขอเรียกร้องกับพีทีทีจีซี 3 ข้อ ดังนี้
1.พีทีทีจีซีจะต้องทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายค่าเยียวยาใหม่ โดยพิจารณาตามข้อมูลรายชื่อ และค่าเสียหายที่กลุ่มประมงได้รับผลกระทบ 2.ให้พีทีทีจีซีจัดตั้งกองทุนเพื่อติดตามบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและสังคม และ 3.บริษัทต้องเสนอแผนมาตรการการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อสาธารณะ ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบแผน พร้อมทั้งนำไปสู่การปฏิบัติเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายอนนท์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC กล่าวว่า เบื้องต้นที่บริษัทฯได้เสนอและจ่ายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบบนเกาะเสม็ดและพื้นที่อื่นๆ ไปแล้วบางส่วน พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายเยียวยาใหม่ว่าข้อเรียกร้องของกลุ่มสมาชิกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยองไม่ต่างจากหลักเกณฑ์และแนวทางที่บริษัทฯตั้งใจทำอยู่แล้ว โดยจำนวนเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นนี้ ทางจังหวัดระยองได้ร่วมกับบริษัทฯ กำหนดขึ้น หากผู้ได้รับผลกระทบเห็นว่าจำนวนที่มอบให้นั้นไม่ครอบคลุมความเสียหาย สามารถขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นตามอัตราที่กำหนดไว้ก่อน และยื่นเรื่องให้ศูนย์ประสานให้ความช่วยเหลือเยียวยาของจังหวัดระยองทราบเพื่อพิจารณาเรียกร้องการเยียวยาเพิ่มเติม
ส่วนการตั้งกองทุนเพื่อติดตามบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและสังคมนั้น ขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาศึกษาผลกระทบ การติดตามประเมินผล และแนวทางการฟื้นฟูฯ โดยยืนยันว่าบริษัทฯพร้อมที่จะรับผิดชอบ ไม่หนี โดยบริษัทอาสาเข้าไปดูแลทั้งหมด รวมทั้งกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำแผนระยะยาวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แก่จังหวัดระยอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ โดยจะรับผิดชอบและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่