ระยอง - “สาธิต ปิตุเดชะ” จับมือ 8 องค์กรภาคประชาชน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ ปตท. และรัฐบาลจริงใจชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันดิบรั่วไหล
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ชายหาดแม่รำพึง อ.เมือง จ.ระยอง นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมตัวแทน 8 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง ชมรมทนายความจังหวัดระยอง สภาทนายความจังหวัดระยอง ผู้ประกอบการร้านค้าร้านอาหารหาดแม่รำพึง ชาวประมงพื้นบ้านสวนสน และตัวแทนท้องถิ่นจังหวัดระยอง ร่วมกันแถลงการณ์เรียกร้องให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และรัฐบาล จริงใจในการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันดิบรั่วไหล
นายสาธิต กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบว่า การลงทะเบียนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) แตกจนน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลประมาณ 50,000 ลิตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น พบว่ามีปัญหา เช่น จุดรับลงทะเบียนไม่ทั่วถึง มีการถามหาพยานหลักฐาน ซึ่งต้องยอมรับว่าถ้าจะถามหาหลักฐานก็เป็นการแสดงความไม่จริงใจของบริษัทที่ก่อให้เกิดผลกระทบ
ทั้งนี้ ควรจัดให้มีหน่วยงานกลางที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ มาเป็นผู้พิสูจน์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางทะเลเพื่อสรุปความเสียหาย และนำไปสู่การฟื้นฟูเยียวยา โดยมีชาวประมงพื้นบ้านที่มีความชำนาญในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพื่อนำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบริษัทที่ก่อให้เกิดปัญหานำไปสู่การฟื้นฟูระยะยาว เพราะการดำเนินงานของภาครัฐในขณะนี้ ยังเข้าไม่ถึงผู้ได้รับผลกระทบ เหมือนจะรีบทำให้เสร็จซึ่งเป็นการรวบรัดเกินไป ไม่มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อให้ประเมินความเสียหาย ทั้งหมดนี้เป็นข้อเรียกร้องของ 8 องค์กรเครือข่ายภาคประชาชน ที่ขอเสนอไปยัง ปตท.และรัฐบาล
นายมานิต เล็กโล่ง ผู้แทนประธานสภาทนายความจังหวัดระยอง กล่าวว่า สภาทนายความมีคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งวันที่ 7 สิงหาคมนี้ เป็นวันระพี สภาทนายความจะตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ กรณีการเยียวยาที่ศาลจังหวัดระยอง ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบแบบคำร้องขอรับความช่วยเหลือเยียวยา มีข้อความระบุไว้ว่า “ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ให้นี้เป็นความจริงทุกประการ หากภายหลังปรากฏว่าข้อมูลที่ให้ไม่ตรงกับความจริง ข้าพเจ้ายินยอมให้ดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และทางอาญา” ซึ่งค่อนข้างไม่มีความจริงใจต่อผู้เสียหาย เหมือนเป็นการข่มขู่กดดันจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา
ด้าน นายไชยรัตน์ ไตรรัตน์จรัสพร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง กล่าวว่า ประชาชน และผู้ประกอบการเห็นแบบคำร้องข้อที่ว่าแล้ว รับรองว่าไม่มีผู้ได้รับผลกระทบกล้ากรอกแบบคำร้อง 90% เพราะเหมือนกับว่าผู้ได้รับผลกระทบเป็นโจทก์ หรือจำเลย ดังนั้น แบบคำร้องอันนี้ต้องมีการแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาน้ำมันดิบรั่วไหล ลงนามคำสั่งจังหวัดระยองที่ 2549/2556 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2556 แต่งตั้งคณะทำงาน 4 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะทำงานตรวจสอบกลั่นกรองผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มอาชีพประมง มีว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน 2.คณะทำงานตรวจสอบกลั่นกรอง ผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการบริการ นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน 3.คณะทำงานตรวจสอบกลั่นกรองผู้ได้ผลกระทบด้านสุขภาพ ว่าที่ ร.ต. สุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดร เป็นหัวหน้าคณะทำงาน 4.คณะทำงานตรวจสอบกลั่นกรองผู้ได้รับผลกระทบด้านอื่นๆ นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
ซึ่งรายงานล่าสุด จากศูนย์อำนวยการ มีผู้ได้รับผลกระทบมากรอกแบบยื่นคำร้อง 652 ราย แยกเป็นกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร บริการ 325 ราย ประมง 263 ราย และสุขภาพ 1 ราย
