สภาปฏิรูปของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเริ่มประชุมเมื่อไหร่ยังไม่รู้ มีข่าวดีที่ไอ้ปึ้ง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอกนักข่าวก็คือ นายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่จะมาปาฐกถาให้ฟังเรื่องการปฏิรูปไม่คิดสตางค์แม้สักแดงเดียว ไม่เหมือนไปพูดให้คนฟิลิปปินส์ฟัง พูดแค่ 30 นาทีฟาดไป 17-18 ล้านบาท
ไม่รู้ว่า นายแบลร์ จะมาพูดกี่นาที กี่ชั่วโมง พูดแล้วจะเกิดประโยชน์โภคผลแก่การเมืองไทยและประเทศไทยแค่ไหน จะรู้เรื่องการเมืองความเป็นจริงของการเมืองประเทศไทยหรือไม่ จะรู้ไหมว่า สันดานนักการเมืองไทยมันเลวระยำอย่างไร แม้กระทั่งอาจจะมีหลายๆ คนที่นั่งอยู่ในสภาปฏิรูปให้นายแบลร์พูดให้ฟังนั้น มันทำร้ายประเทศไทยมาสาหัสสากรรจ์แล้วหรือไม่อย่างไร กอบโกยเอาจากประชาชนและประเทศที่มันกำลังจะปฏิรูปนี้หรือไม่อย่างไร
ประเทศที่ตกอยู่ในสภาพที่จะต้องปฏิรูปอยู่ขณะนี้เป็นเพราะฝีมือของพวกมันหรือไม่อย่างไร แล้วยังจะหวังให้มันคิดปฏิรูปอีกหรือ?
ประเทศที่มีผู้คน 66/67 ล้านคน อย่างประเทศไทยเรานี้ กลับมีคนคนหนึ่งที่กำลังระเหระหนอยู่ต่างประเทศ มีอิทธิพลบงการให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ประสีประสาทางการเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรี มีพรรคการเมืองที่ตัวเป็นนายทุนสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ มีเสียงส่วนใหญ่ของสภาฯ ทำตัวเป็นขี้ข้าพร้อมจะคอยรับใช้ แม้คนที่เป็นประธานสภาฯ ก็ปวารณาตัวพร้อมที่จะรับใช้ในทุกเรื่องราว (พิจารณาจากคลิปเสียงงานวันเกิดที่จัดที่เพชรบูรณ์) มีข้าราชการประจำทุกกระทรวง ทบวง กรม พร้อมที่จะรับใช้ สภาพอย่างนี้ถ้าหากไม่ปฏิรูป ไม่แก้ไข ไม่เปลี่ยนแปลง มันก็ไม่ไหวแล้วละครับพี่น้อง
แต่แนวทางการปฏิรูปที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คิด จะเป็นอย่างที่ว่านี้หรือ น่าจะไม่ใช่ ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์คิดได้อย่างที่ว่านี้ นางก็คงไม่กล้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่กล้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะต้องรู้ว่าตัวไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่กล้าลอยหน้าลอยตาพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้ทั้งที่ตัวไม่รู้
แต่เพราะไม่รู้ตัวหรือเพราะไม่อาย ไม่เขิน นางก็เป็นได้ ทำได้ แม้กระทั่งที่ต้องตะแล๊ดแต๊ดแต๋ไปวันๆ ไปประเทศโน้นประเทศนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็เถอะ
บรรดารัฐมนตรีรอบตัวนายกรัฐมนตรีนั่นก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเคยเป็นครูบาอาจารย์ เป็นผู้พิพากษา เป็นนักเคลื่อนไหว ถ้าหากพวกนี้มีความห่วงใยต่อประเทศชาติบ้านเมืองแม้สักนิด ก็จะไม่ปล่อยให้ชาติบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ จะต้องยอมรับไม่ได้กับนายที่หนีคุก นายที่สั่งการให้ผู้คนเผาบ้านเผาเมือง เกิดอะไรขึ้นให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด หรือบอกว่า ผมแพ้ไม่ได้ รัฐมนตรีรอบตัวนายกรัฐมนตรีจะต้องยอมรับไม่ได้ที่นายโง่ไร้เดียงสาเกือบจะทุกเรื่องราว แต่ยอมรับได้เพราะเห็นแก่ตำแหน่งแห่งที่
นี่แหละที่เราจะต้องปฏิรูป คือ ปฏิรูปสันดานนักการเมืองไทย ซึ่งผมไม่เชื่อว่า โทนี แบลร์ จะมารู้เรื่องเหล่านี้ของนักการเมืองบ้านเรา
อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สองคนที่เที่ยวตะลอนเชิญคนนั้นคนนี้ทำตัวเป็นคนรับใช้ทักษิณ คนหนึ่งถูกศาลสั่งจำคุกมาแล้ว เพียงแต่ให้รอลงอาญาซึ่งถ้าหากเป็นนักการเมืองบ้านเดียวกับ โทนี แบลร์ เขาหายหน้าหายตาไปจากยุทธจักรแล้วละครับ ไม่มารอคิวเป็นรัฐมนตรี และไม่เที่ยววิ่งไปเชิญคนนั้นคนนี้มาปฏิรูปหรอกครับ
ส่องกระจกดูหน้าตัวเองก็ไม่ไหวแล้ว เพราะที่จะต้องปฏิรูปก็คือตัวเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน?
จำนำข้าวขาดทุนไป 2.6 แสนล้านบาท นี่ก็ควรที่จะสำรวจตัวเองตั้งแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และอีกหลายๆ นายว่าสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติขนาดนี้ยังหน้าด้านบริหารประเทศต่อไปอีกหรือ เงินที่ขาดทุนก็คือเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินพ่อเงินแม่ของนายกรัฐมนตรี ของคณะรัฐมนตรี
สภาฯ ก็เอาเงินไปซื้อนาฬิกาแขวนบอกเวลาเรือนละตั้ง 7 หมื่นกว่าบาท หลายสิบหลายร้อยเรือน ถามว่าถ้าเป็นเงินพ่อเงินแม่มันจะผลาญกันอย่างนี้ไหม ทั้งที่ประเทศชาติต้องกู้เงินมาใช้ แค่ดูเวลาเรือนละ 500 บาท 1,000 บาทก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับประเทศชาติที่ยังต้องกู้เงินเขามาใช้อย่างประเทศเรา
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเงินเดือนคนละเป็นแสนมันยังกล้าหน้าด้านเอาเงินภาษีประชาชนไปถลุงซื้อแท็บเล็ตแจกกัน มันจะเสียสละกันสักนิดสักหน่อยก็ไม่ได้
มันจะแก้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พ่อมันที่ระเหระหนอยู่ต่างประเทศ นิรโทษกรรมให้แก่พวกมันที่เผาบ้านเผาเมืองที่ก่ออาชญากรรม มันจะแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้พ่อมัน เปิดทางให้พวกมันครองประเทศนี้ต่อไปชั่วกัปชั่วกัลป์
ทั้งหลายทั้งปวงนี้คือความเลวทราม ความระยำตำบอนคือสิ่งที่จะต้องปฏิรูป สิ่งที่จะต้องแก้ไข
ทั้งหลายทั้งปวงนี้คุณนางสาวแม่ลูกหนึ่งเข้าใจไหมครับ?
ไม่รู้ว่า นายแบลร์ จะมาพูดกี่นาที กี่ชั่วโมง พูดแล้วจะเกิดประโยชน์โภคผลแก่การเมืองไทยและประเทศไทยแค่ไหน จะรู้เรื่องการเมืองความเป็นจริงของการเมืองประเทศไทยหรือไม่ จะรู้ไหมว่า สันดานนักการเมืองไทยมันเลวระยำอย่างไร แม้กระทั่งอาจจะมีหลายๆ คนที่นั่งอยู่ในสภาปฏิรูปให้นายแบลร์พูดให้ฟังนั้น มันทำร้ายประเทศไทยมาสาหัสสากรรจ์แล้วหรือไม่อย่างไร กอบโกยเอาจากประชาชนและประเทศที่มันกำลังจะปฏิรูปนี้หรือไม่อย่างไร
ประเทศที่ตกอยู่ในสภาพที่จะต้องปฏิรูปอยู่ขณะนี้เป็นเพราะฝีมือของพวกมันหรือไม่อย่างไร แล้วยังจะหวังให้มันคิดปฏิรูปอีกหรือ?
ประเทศที่มีผู้คน 66/67 ล้านคน อย่างประเทศไทยเรานี้ กลับมีคนคนหนึ่งที่กำลังระเหระหนอยู่ต่างประเทศ มีอิทธิพลบงการให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ประสีประสาทางการเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรี มีพรรคการเมืองที่ตัวเป็นนายทุนสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ มีเสียงส่วนใหญ่ของสภาฯ ทำตัวเป็นขี้ข้าพร้อมจะคอยรับใช้ แม้คนที่เป็นประธานสภาฯ ก็ปวารณาตัวพร้อมที่จะรับใช้ในทุกเรื่องราว (พิจารณาจากคลิปเสียงงานวันเกิดที่จัดที่เพชรบูรณ์) มีข้าราชการประจำทุกกระทรวง ทบวง กรม พร้อมที่จะรับใช้ สภาพอย่างนี้ถ้าหากไม่ปฏิรูป ไม่แก้ไข ไม่เปลี่ยนแปลง มันก็ไม่ไหวแล้วละครับพี่น้อง
แต่แนวทางการปฏิรูปที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คิด จะเป็นอย่างที่ว่านี้หรือ น่าจะไม่ใช่ ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์คิดได้อย่างที่ว่านี้ นางก็คงไม่กล้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่กล้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะต้องรู้ว่าตัวไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่กล้าลอยหน้าลอยตาพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้ทั้งที่ตัวไม่รู้
แต่เพราะไม่รู้ตัวหรือเพราะไม่อาย ไม่เขิน นางก็เป็นได้ ทำได้ แม้กระทั่งที่ต้องตะแล๊ดแต๊ดแต๋ไปวันๆ ไปประเทศโน้นประเทศนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็เถอะ
บรรดารัฐมนตรีรอบตัวนายกรัฐมนตรีนั่นก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเคยเป็นครูบาอาจารย์ เป็นผู้พิพากษา เป็นนักเคลื่อนไหว ถ้าหากพวกนี้มีความห่วงใยต่อประเทศชาติบ้านเมืองแม้สักนิด ก็จะไม่ปล่อยให้ชาติบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ จะต้องยอมรับไม่ได้กับนายที่หนีคุก นายที่สั่งการให้ผู้คนเผาบ้านเผาเมือง เกิดอะไรขึ้นให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด หรือบอกว่า ผมแพ้ไม่ได้ รัฐมนตรีรอบตัวนายกรัฐมนตรีจะต้องยอมรับไม่ได้ที่นายโง่ไร้เดียงสาเกือบจะทุกเรื่องราว แต่ยอมรับได้เพราะเห็นแก่ตำแหน่งแห่งที่
นี่แหละที่เราจะต้องปฏิรูป คือ ปฏิรูปสันดานนักการเมืองไทย ซึ่งผมไม่เชื่อว่า โทนี แบลร์ จะมารู้เรื่องเหล่านี้ของนักการเมืองบ้านเรา
อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สองคนที่เที่ยวตะลอนเชิญคนนั้นคนนี้ทำตัวเป็นคนรับใช้ทักษิณ คนหนึ่งถูกศาลสั่งจำคุกมาแล้ว เพียงแต่ให้รอลงอาญาซึ่งถ้าหากเป็นนักการเมืองบ้านเดียวกับ โทนี แบลร์ เขาหายหน้าหายตาไปจากยุทธจักรแล้วละครับ ไม่มารอคิวเป็นรัฐมนตรี และไม่เที่ยววิ่งไปเชิญคนนั้นคนนี้มาปฏิรูปหรอกครับ
ส่องกระจกดูหน้าตัวเองก็ไม่ไหวแล้ว เพราะที่จะต้องปฏิรูปก็คือตัวเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน?
จำนำข้าวขาดทุนไป 2.6 แสนล้านบาท นี่ก็ควรที่จะสำรวจตัวเองตั้งแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และอีกหลายๆ นายว่าสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติขนาดนี้ยังหน้าด้านบริหารประเทศต่อไปอีกหรือ เงินที่ขาดทุนก็คือเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินพ่อเงินแม่ของนายกรัฐมนตรี ของคณะรัฐมนตรี
สภาฯ ก็เอาเงินไปซื้อนาฬิกาแขวนบอกเวลาเรือนละตั้ง 7 หมื่นกว่าบาท หลายสิบหลายร้อยเรือน ถามว่าถ้าเป็นเงินพ่อเงินแม่มันจะผลาญกันอย่างนี้ไหม ทั้งที่ประเทศชาติต้องกู้เงินมาใช้ แค่ดูเวลาเรือนละ 500 บาท 1,000 บาทก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับประเทศชาติที่ยังต้องกู้เงินเขามาใช้อย่างประเทศเรา
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเงินเดือนคนละเป็นแสนมันยังกล้าหน้าด้านเอาเงินภาษีประชาชนไปถลุงซื้อแท็บเล็ตแจกกัน มันจะเสียสละกันสักนิดสักหน่อยก็ไม่ได้
มันจะแก้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พ่อมันที่ระเหระหนอยู่ต่างประเทศ นิรโทษกรรมให้แก่พวกมันที่เผาบ้านเผาเมืองที่ก่ออาชญากรรม มันจะแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้พ่อมัน เปิดทางให้พวกมันครองประเทศนี้ต่อไปชั่วกัปชั่วกัลป์
ทั้งหลายทั้งปวงนี้คือความเลวทราม ความระยำตำบอนคือสิ่งที่จะต้องปฏิรูป สิ่งที่จะต้องแก้ไข
ทั้งหลายทั้งปวงนี้คุณนางสาวแม่ลูกหนึ่งเข้าใจไหมครับ?