โฆษก พท.ตอกฝ่ายค้านใช้เวทีพิจารณางบฯ 57 เล่นเกมการเมือง ไม่ให้เกียรติ ปธ. ทำเสื่อมทั้งสองฝ่าย โยงอาจเปิดทางระบบอื่นแทรก แถมใส่ร้าย รบ.ทุ่ม 20 ล.จ้าง “แบลร์” ร่วมปาหี่ เย้ยไม่ร่วมปฏิรูปก็ไปปฏิรูปพรรคตัวเอง ถกแก้ รธน.20 ส.ค.ขอให้ปรับปรุง จันทร์นี้พรรคเรียก ส.ส.เตรียมความพร้อม “จิรายุ” ยันงบไม่สูญเปล่าสร้างปรองดอง
วันนี้ (16 ส.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ในวาระ 2 ว่าตลอดการอภิปราย 3 วันที่ผ่านมาพบว่าฝ่ายค้านโดยพรรคประชาธิปัตย์มุ่งแต่เล่นเกมการเมือง ค้านปนแค้น ค้านทุกเรื่อง ทุกประเด็น จุกจิกไร้สาระ อภิปรายนอกเรื่องบ่อยครั้ง ซ้ำยังไม่ให้เกียรติประธานในที่ประชุม สร้างความเบื่อหน่ายต่อการเมืองระบบรัฐสภาในภาพรวม ทำให้เสียหายกันทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อาจเป็นการเปิดทางให้ระบบอื่นเข้ามาแทรก นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังกุเรื่องไม่จริงมาใส่ร้าย เช่น ที่ระบุว่ารัฐบาลทำการว่าจ้างนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ มาพูดในประเทศไทยด้วยจำนวนเงิน 20 ล้านบาท ซึ่งนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ ชี้แจงไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง
“เราอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ทบทวนบทบาท ปรับปรุงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้คุ้มค่าภาษีประชาชน ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนา ติดอยู่ในวังวนของการเล่นเกม ใช้วาทกรรมหาคะแนนในสภา หากไม่คิดจะมาร่วมปฏิรูปการเมืองกับรัฐบาล ก็ไปปฏิรูปพรรคการเมืองตัวเองก่อน” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ในวันที่ 20 ส.ค.ที่จะมีการเรียกประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในวาระ 2 ก็อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ปรับปรุงการค้านใหม่ อย่าเล่นเกมไปทุกเวที ชาวบ้านเขาเบื่อหน่าย โดยพรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุมส.ส.ในวันจันทร์ที่ 19 ส.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมและกำหนดตัวผู้อภิปราย พยายามทำให้การอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ยืดเยื้อ
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ถึงแนวทางการปฏิรูปการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการ แก้ไขและหาทางออกให้กับประเทศด้วยกัน
ส่วนกรณีที่การอภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 57 ที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามกล่าวหาว่า รัฐบาลตั้งสภาปฏิรูปฯ เพื่อใช้เงินงบประมาณเป็นสิบๆ ล้านบาท เป็นการสูญเปล่า มองว่าพรรคการเมืองบางพรรคไม่อยากเห็นความสงบสุขของประเทศและประชาชนหรืออย่างไร เอาความดีใส่ตัว ความชั่วให้คนอื่นใช่หรือไม่ เพราะการริเริ่มจับเข่าคุยกันในการหาทางออก ย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพื่อใช้เงินเป็นล้านๆ ตั้งสภาปฎิรูปฯเพื่อไปยุติความสูญเปล่าของประเทศที่ ต้องสูญเงินไปกับการใช้เงินงบประมาณเป็นพันล้านบาทในการซื้ออาวุธมาใช้ในการสลายการชุมนุม
ทั้งนี้ อยากเตือนความจำว่าสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ในยุคที่มีประชาชนตายเป็นร้อยเจ็บเป็นพัน นายอภิสิทธิ์หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนนี้ ก็ใช้เงินในการตั้งคณะกรรมการต่างๆ ไปเกือบพันล้านบาทใช่หรือไม่ แต่วันนี้พอผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศกลับมาทำเป็นไอ้เข้ขวางคลอง ด่าทุกคนที่เข้าร่วม
นายจิรายุกล่าวอีกว่า การอภิปรายงบประมาณ 3 วันมานี้นับเป็นความสูญเปล่าของการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะส่วนใหญ่มุ่งโจมตีไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ควรจะตรวจสอบในชั้นกรรมาธิการ และอภิรายให้ได้ในวาระ 2 ว่าตัดลดและเพิ่มอย่างไร แต่ปลายทางเป้าหมายกลับกลายเป็นการใช้เวทีสภาหลอกด่า แม้กระทั่งงบประมาณในการเดินทางไป ต่างประเทศในฐานะผู้นำประเทศ ซึ่งหากคิดราคาในการเดินทางในรอบ 2 ปี ที่มีกว่า 50 ประเทศเทศ ใช้งบประมาณอย่างน้อยประเทศละ 5 ล้านบาทก็เป็นเงิน 200 ล้านบาทที่ฝ่ายค้านโจมตีว่าแพงนั้น หากคิดอย่างไม่มีอคติถือว่าถูกมาก
ทั้งนี้ เพราะการเยือนแต่ละครั้งอย่างน้อย 3-5 วัน ประกอบไปด้วยนักการทูต ทูตทหาร นักธุรกิจ เดินทางประมาณ 50 คน เป็น ตัวแทนประเทศในทุกมิติ คิดค่าตั๋วอย่างเดียวหัวละ 1 แสนบาท ก็ประมาณ 5 ล้านกว่าบาท ราคายังถูกกว่าฝ่ายค้านบางคนที่บินไปเที่ยวไปดูงานที่บินด้วยชั้นเฟิสต์คลาส ตั๋วใบละ 300,000 ต่อคนเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งสมัยนายอภิสิทธิ์เดินทางไปเยือนต่างประเทศน้อยกว่า เพราะประเทศอื่นไม่ได้เชิญใช่หรือไม่ เป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่ชนะการเลือกตั้ง แต่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ที่ทั่วโลกรับรู้กันทุกประเทศ ดังนั้นขออย่าเก็บเล็กเก็บน้อยมาโจมตีนายกรัฐมนตรี เอาเวลาไปคิดนโยบายดีดีให้คนไทย ไว้รอการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะดีกว่า