ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้จาก ร้านพีเอสโมดิฟาย เลขที่ 21/14 หมู่ 1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี เมื่อวันที่ 8 ส.ค. กรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้หญิง 2 คนเสียชีวิต ก่อนจะเดินยักย้ายส่ายตะโพกเป็นการเยาะเย้ยคนตาย ก่อนหลบหนีไป ถือว่าเป็นภาพสะเทือนใจและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมอันโหดเหี้ยม ในโลกโซเซียลมีเดีย ว่าเหตุใดคนร้ายถึงเหยียดหยามเย้ยหยันศพ หลังก่อเหตุอย่างน่าสยดสยอง
สำหรับเหตุการณ์นี้ชุดสืบสวนสภ.ชลบุรี ได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดและจากการสอบพยานบุคคล จนทำให้สามารถลำดับภาพและเหตุการณ์ได้ทั้งหมดว่า ผู้ที่ก่อเหตุคือนายยศพล แหกล้า อายุ 37 ปี ฉายา “หลำ บ้านไร่” ว่าที่เจ้าบ่าวมือฆ่า 2 ศพ คือ น.ส.เกวลิน หรือน้องวิว หงส์ทอง อายุ 28 ปีว่าที่เจ้าสาว และนางวิมล หงส์ทอง อายุ 53 ปีว่าที่แม่ยาย โดยนายยศพล กับ น.ส.เก วลิน ซึ่งเป็นคู่หมั้นกัน และเตรียมจะเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยในวันเกิดเหตุนายยศพล ได้นัด น.ส.เกวลิน พร้อมมารดาออกไปนั่งคุยตกลงปัญหาเรื่องความรักและพูดคุยถึงเรื่องงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่ร้านเกิดเหตุ แต่จู่ๆ นายยศพลได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมากระหน่ำยิง น.ส.เกวลิน เสียชีวิตเป็นรายแรก
จากนั้นยิงนางวิมล ล้มฟุบเสียชีวิตเป็นรายที่สอง และยังเดินยักย้ายส่ายตะโพกเป็นการเยาะเย้ยคนตาย ก่อนหลบหนีไป
ทั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่เร่งเช็กประวัติผู้ต้องหา พบว่าประกอบอาชีพขับรถตู้สายกรุงเทพฯ-ระยอง และเคยติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งความผิดคดีอาชญากรรมและยาเสพติด พร้อมทั้งขออนุมัติออกหมายจับ เลขที่ จ 469/2556 ลงวันที่ 8 ส.ค. 56 ในข้อหาฆ่าคนตาย โดยมีตำรวจสืบสวนภ.จว.ชลบุรี และสืบสวนสภ.เสม็ด ออกไล่ล่า พร้อมทั้งกำชับชุดจับกุมให้ระมัดระวัง เนื่องจากผู้ต้องหาจะมีประวัติติดตัวยาวเหยียด แถมยังเป็นมือปืนในซุ้มซอย 9 บ้านสวนอีกด้วย และถือเป็นบุคคลอันตราย
จากการตรวจค้นและกดดันอย่างหนัก เนื่องจากเป็นคดีอุกอาจ ชุดจับกุมสามารถจับกุมนายยศพล ได้ที่จุดตรวจโคกสูงที่ 38 ม.1 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ห่างจากช่องตรวจคนบ้านหนองจาน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประมาณ 140 กิโลเมตรขณะเตรียมหนีเข้า จ.เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรหรือจำเป็นเร่งด่วน และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาถือเป็นบุคคลอันตราย เนื่องจากเคยต้องคดีมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเรื่องอาวุธปืน และยาเสพติด แต่สามารถหาทนายมาสู้จนหลุดรอดการรับโทษได้ทุกครั้ง ก่อนนำตัวมาแถลงข่าวที่กองบัญชากรตำรวจภูธรภาค 2
ทั้งนี้ นายยศพล ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือสังหารว่าที่เจ้าสาว เพราะแฟนสาวแอบไปชอบเพื่อนสนิทของตน และยังส่งข้อความคุยผ่านโปรแกรมไลน์เป็นประจำ ที่ผ่านมาเคยเตือนหลายหนแล้วแต่ก็ไม่ฟัง จึงติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด จนทราบว่าเพื่อนไม่ได้เล่นด้วยแต่แฟนเป็นคนไปติดต่อและแอบไปชอบเอง ทั้งๆ ที่จะแต่งงานกันอยู่แล้วก็ไม่เลิกพฤติกรรมแบบนี้ ที่สำคัญคือที่ผ่านมาพยายามทำดีทุกอย่าง ปรนเปรอข้าวของเงินทอง ส่งเสียให้เรียนหนังสือสารพัดโดยตามกำหนดเดิมจะแต่งงานกับว่าที่เจ้าสาวคือน้องวิว ผู้ตาย ในวันที่ 28 ส.ค.56 นี้ แต่ได้เปลี่ยนไปเป็นวันที่ 28 พ.ย.56
ส่วนที่ยิงแม่ยายด้วยนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า เพราะตนเองหมดเงินไปกับครอบครัวนี้หลายล้านบาท จนจะไม่มีจะให้แล้ว สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ในเรื่องสินสอดที่แม่ยายเรียก 5 แสนบาท แต่ตนเองมีแค่ 2.4 แสนบาท พร้อมกับให้ซื้อรถยนต์มือสองอีก 1 คันให้น้องชายของน้องวิว พอหาเงินไม่ได้ก็พยายามยุให้น้องวิวเลิกกับตเอง
จนกระทั่งวันเกิดเหตุได้รับทั้งคู่มาที่อู่ พอมาถึงก็พูดไม่รู้เรื่องและปฏิเสธว่าไม่มีอะไร กลายเป็นว่าตนหึงน้องวิว แต่ฝ่ายเดียว จึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลงมือยิงดังกล่าว ส่วนที่เต้นส่ายก้นนั้นไม่ใช่เพราะอยากเป็นข่าว แต่ไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิด โดยเป็นความรู้สึกโล่งอกที่สามารถยุติปัญหาเรื่องความรักกับครอบครัวนี้ได้เสียที โดยไม่มีเจตนาที่จะเยาะเย้ยเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือใครทั้งสิ้น
สำหรับบรรยากาศในวันแถลงข่าวเต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50 คน ได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อรอดูหน้าและรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องวางกำลังคุ้มกันเข้ม เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่เพียงเท่านี้ยังต้องล้มเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเนื่องจากมีญาติบางส่วนและประชาชนรออยู่ที่จุดเกิดเหตุหวังรุมประชาทัณฑ์เช่นกัน
ภายหลังการแลงข่าวพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ. 2 กล่าวว่า เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ กระทำการอย่างอุกอาจ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัวและจะคัดค้านการประกันอย่างเต็มที่ เพราะผู้ต้องหาเคยก่อคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน จนถูกลงโทษติดคุกมาหลายครั้ง นอกจากนี้ยังพัวพันแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในชลบุรีอีกด้วย
นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะได้ขยายผลเพื่อทำการยึดทรัพย์มือปืนรายนี้ด้วย เนื่องจาก หลังพบว่าร่ำรวยผิดปกติ ส่อเอี่ยวขบวน การค้ายาเสพติด เตรียมยึดล็อตแรก 5 แสนบาท ก่อนขยายผลไปยังทรัพย์สินส่วนอื่น ทั้งบ้านหรู รถตู้ 2 คัน ที่อยู่ในชื่อคนอื่น ขณะที่ประวัติพี่ชายมือปืนนี้รายนี้มีเงินในบัญชีกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเช่นกัน
แม้ว่าคดีนี้จะปิดฉากลงได้อย่างรวดเร็ว แต่จากภาพที่บันทึกได้กล้องวงจรปิดและแฟ้มประวัติอาชญากร ทำให้เชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นบุคคลอันตรายเป็นอย่างยิ่ง คำสารภาพที่ระบุถึงแรงจูงใจในการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เพราะคับแค้นใจและหึงหวงว่าที่เจ้าสาวกำลังปันใจให้ชายอื่น ถือเป็นข้ออ้างที่ไร้น้ำหนัก
เพราะเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับประวัติที่สุดเลว ทั้งเคยติดคุกมาแล้วถึง 3 ครั้งพัวพันยาเสพติดและอยู่ในซุ้มมือปืน คงไม่มีแม่ยายหรือครอบครัวไหน ที่จะยกลูกสาวให้กับฆาตกรรายนี้อย่างแน่นอน.............