** ปาหี่ปฏิรูปการเมืองยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ขึงขัง คนในรัฐบาล โดย "ดับเบิ้ลเทพ" พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ วราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรมช.เกษตรฯ ชี้ว่าคืบหน้าไป 50% แล้ว คาดว่าจะนัดเชิดฉิ่งประชุมโรงละครฉากใหญ่นัดแรกได้ในสัปดาห์หน้า
การเดินสายของ คู่หูเทพประทาน คนนินทา หมาดูถูก ว่ากำลังทำเรื่องไร้สาระ ภาพที่ปรากฏบนหน้าสื่อเข้านอกออกในบ้านคนนั้น คนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นพรรคพวกเครือข่ายรัฐบาลแทบทั้งนั้น
การไปพบ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกสะท้านสะเทือนจิตใจ หรือเห็นแสงสว่างเรื่องการปฏิรูปปรองดองอะไรเลย นอกจากได้ฟังเพียงวาทกรรมเก่าๆ เดิมๆ ของโซ่ข้อกลางขึ้นสนิม พูดจาหวานหู สงสารนายกฯอย่างนั้น อย่างนี้ ฟังแล้วเลี่ยน อยากจะอาเจียนให้หมดท้อง
เอาบ้านเราไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่น อย่างกัมพูชา คิดบนตรรกะง่ายๆ ว่าเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน ทั้งๆ ที่บริบทเงื่อนไขมันต่างกันลิบลิ่ว เข้าข่ายดีแต่พูดประโลมโลกไปวันๆ มองโลกแง่ดี บอกปัญหาแก้ง่ายนิดเดียวคุยกันข้ามคืนก็จบ พุดโธ่!! แล้วความขัดแย้ง 6-7 ปีที่ผ่านมามันคืออะไร ทำไมแก้ไม่ได้เสียที พูดน่ะมันง่าย แต่ทำยากครับท่าน !!
เสร็จจาก "บิ๊กจิ๋ว" ก็ไปหา หมอประเวศ วะสี ที่มีตำแหน่งถาวรเป็นราษฎรอาวุโส แต่ก็ถูกปฏิเสธไปแบบนิ่มๆ คล้าย อุกฤษ มงคลนาวิน หน้าแตกแหกไปตามๆ กัน ไม่รู้ก่อนหน้านี้ไปดิวกันอย่างไร ถึงคุยกันไม่เด็ดขาด เจอแบบนี้เสียหน้าไปหลายแถบ หลังจากนี้ไม่รู้จะไปปฏิบัติผีลืมหลุมที่ไหนต่ออีก
ก่อนหน้านี้ก็มุดเข้าบ้าน พิชัย รัตตกุล ปูชนียบุคคล ของเก่าชำรุดทรุดโทรม ที่ชั่วโมงนี้พรรคประชาธิปัตย์ มองว่าเป็นพวกคนแก่หูตึง เป็นน้ำคนละสาย ไผ่คนละกอไปแล้ว แต่คนในรัฐบาลดีใจเหมือนไก่ได้พลอย บอกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมไม่เป็นไร ได้อดีตหัวหน้าพรรคมาก็โอเคแล้ว แถไปได้เรื่อย เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งถึงเกมที่กำลังเล่นอยู่ เดินสายดึงเครือข่ายแนวร่วม แอบอ้างความชอบธรรม เดินแผนลึกร้ายหลังจากนี้
**หลายคนตีธงฟันฉับไปว่า การปฏิรูปการเมืองเนื้อแท้ ก็หนีไม่พ้นการแก้กติกาการเมือง นั่นก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั่นเอง และเป้าหมายหลักใหญ่ก็หนีไม่พ้นแก้บ่วงคดีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีตัวฉกาจ ที่ยังวางแผนกลับบ้าน สั่งเครือข่ายเดินเกม เล่ห์เพทุบายไม่เว้นแต่ละวัน
เหมือนตั้งธงกันไว้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็รู้ เหมือนไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ยากที่จะเข้ามาร่วมปฏิรูปปาหี่ เพื่อความต้องการของรัฐบาลฝ่ายเดียว เพราะเชื่อว่าสุดท้ายปลายทางมันก็จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลล้วนๆ
ในอดีตเคยมีบทพิสูจน์มาหลายต่อหลายครั้งว่า หากข้อเสนอใดไม่ตรงใจ ไม่ตรงความต้องการของรัฐบาล ไปลด หรือไปตัดทอนอำนาจ หรือรัฐบาลต้องยอมเสียอะไรบางอย่าง ย่อมไม่มีวันเอาด้วย ข้อเสนอต่างๆ ไม่มีวันสำเร็จ คนที่มาร่วมด้วยรายแล้วรายเล่าเห็นข้อเท็จจริงตรงนี้ จึงไม่อยากเข้ามาร่วมให้เสียเวลา เสียชื่อเสียง เสียคนเอาตอนแก่
ปาหี่การเมือง เดินไปแบบเรียบๆ ไม่มีเสียงตอบรับจากสังคมแต่อย่างใด การเดินสายกวาดต้อนแนวร่วม ผู้อาวุโสทางการเมือง เหมือนตะลอนทัวร์สุสานคนแก่ สร้างภาพความร่วมมือจากอดีตนักการเมือง นักคิดชื่อดังแค่นั้น หลายคนเชื่อว่า จะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์มากมายนัก คนเหล่านี้ความจริงแค่เขียนหนังสือไปขอความเห็นมาประกอบก็เพียงพอแล้ว การเดินสายไปหา จึงต้องย้ำว่า เป็นปาหี่สร้างภาพเท่านั้น วันนี้คู่ขัดแย้งในกระดานการเมือง ตัวละครก็เห็นชัดๆ ควรจะเอามาร่วมคิด ร่วมกันทำ หาทางออกให้ประเทศ จึงจะเป็นแนวทางที่ใช่ที่สุด
แต่การที่คนเหล่านั้นไม่มาร่วมด้วยกับรัฐบาลเพราะอะไร ก็รู้เหตุผลกันดีอยู่ เพราะความไม่เชื่อมั่นเชื่อถือในแนวทางของรัฐบาล ความจริงใจที่รัฐบาลยื่นเสนอให้ฝ่ายต่างๆไป มันมาจากก้นบึ้ง หรือเกมสับขาหลอก ทุกคนเชื่อว่ามันเป็นอย่างหลัง เพราะในอดีตมีบทพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างหลังทั้งนั้น
วันนี้ข้อเสนอที่รัฐบาลแย้มไต๋ออกมา ยังเป็นไปในมิติเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือทำให้สังคมไว้วางใจได้ว่าจะเป็นกลาง ไม่มีการครอบงำจากรัฐบาล ปากก็เชิญชวนให้ทุกฝ่ายมาร่วมกัน อย่างเพิ่งตั้งแง่ ตั้งเงื่อนไข หลักการไม่มีอะไรที่ชัดเจนจับต้องได้
**กล้าหรือเปล่าที่จะให้เวทีนี้กำหนดโดยฝ่ายตรงข้าม กล้าหรือไม่ที่จะให้คู่ขัดแย้งเข้ามานั่งเป็นประธานสภาปฏิรูป เป็นผู้กำหนดแนวทางเงื่อนไข
หากรัฐบาลกล้าๆ โยนเรื่องนี้ให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนกำหนดเกม ถือว่าใจถึงมาก แต่ยากยิ่งกว่าไปแปรงฟันให้เสือ ตัดเล็บให้สิงโต ถ้าทำแบบนั้นได้ฝ่ายตรงข้าม คู่ขัดแย้งร่วมด้วยแน่นอน แบบนี้จะได้ชื่อว่า กล้าได้กล้าเสีย ไม่คิดครอบงำ บงการอย่างแท้จริง !!
**วันนี้จึงฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกเลยว่า ปฏิรูปปาหี่จะล้มเหลว ขึงขังในช่วงแรก แล้วก็ค่อยๆ เงียบๆ ค่อยๆ จาง เหมือนลมว่าว ต้นจัดปลายเหี่ยว ไม่แตกต่างจากละครฉากเดิมๆ ที่ทำขึ้นมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างภาพความปรองดอง สร้างอีเวนท์ว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้นั่งสวาปามงบประมาณไปวันๆ
ออกมาสาดวาทกรรมสวยหรู ลงมือทำ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยบ้าง แม้โอกาสสำเร็จจะมีเพียง 1เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่ามีความหวังบ้าง...ทุด ฟังแล้วอยากจะอ๊วก!!
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเดินสายรวบรวมผู้อาวุโสมาเล่นเกมปาหี่ก่อนลงโลง หลอกคนแก่หน้าด้านๆ บางคนอยากมาร่วมด้วยเจตนาดี อยากทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองบ้างในบั้นปลายชีวิต อาจถูกหลอกใช้ เสียคนตอนแก่ ชื่อเสียงป่นปี้ไปถึงลูกหลาน เอาคนเหล่านี้มาผสมปนเปกับเครือข่าย "กากี่นั้ง" คนกันเอง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ สนธยา คุณปลื้ม บรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ละครฉากใหญ่สำทับด้วย บุคลากรระดับโลกอีกจำนวนหนึ่ง
พิธีกรรมอำพรางตบตาสังคม ที่เชื่อเหลือเกินว่า คนกว่าครึ่งค่อนประเทศไม่เชื่อถือ กำลังดำเนินไปบนการกระดานเมือง ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน รัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง เผชิญมรสุมหลายลูก
ปาหี่ลดแรงเสียดทานครั้งนี้ ผู้คนส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ด่าซ้ำรัฐบาลกำลังทำเรื่องไร้สาระ แทนที่จะเอาเวลาไปบริหารประเทศ ไปแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ทำตำบอนไว้ เรื่องข้าวของแพง สินค้าเกษตรแพง ไม่คิดจะแก้ไขให้ชาวบ้านมั่งเลยรึ ตอนหาเสียงก็พูดปาวๆ
**หรือยิ่งนานวันยิ่งเผยธาตุแท้ชัด เรื่องช่วย "ทักษิณ" ต้องมาก่อนเหนือเรื่องอื่นใด !!
การเดินสายของ คู่หูเทพประทาน คนนินทา หมาดูถูก ว่ากำลังทำเรื่องไร้สาระ ภาพที่ปรากฏบนหน้าสื่อเข้านอกออกในบ้านคนนั้น คนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นพรรคพวกเครือข่ายรัฐบาลแทบทั้งนั้น
การไปพบ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกสะท้านสะเทือนจิตใจ หรือเห็นแสงสว่างเรื่องการปฏิรูปปรองดองอะไรเลย นอกจากได้ฟังเพียงวาทกรรมเก่าๆ เดิมๆ ของโซ่ข้อกลางขึ้นสนิม พูดจาหวานหู สงสารนายกฯอย่างนั้น อย่างนี้ ฟังแล้วเลี่ยน อยากจะอาเจียนให้หมดท้อง
เอาบ้านเราไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่น อย่างกัมพูชา คิดบนตรรกะง่ายๆ ว่าเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน ทั้งๆ ที่บริบทเงื่อนไขมันต่างกันลิบลิ่ว เข้าข่ายดีแต่พูดประโลมโลกไปวันๆ มองโลกแง่ดี บอกปัญหาแก้ง่ายนิดเดียวคุยกันข้ามคืนก็จบ พุดโธ่!! แล้วความขัดแย้ง 6-7 ปีที่ผ่านมามันคืออะไร ทำไมแก้ไม่ได้เสียที พูดน่ะมันง่าย แต่ทำยากครับท่าน !!
เสร็จจาก "บิ๊กจิ๋ว" ก็ไปหา หมอประเวศ วะสี ที่มีตำแหน่งถาวรเป็นราษฎรอาวุโส แต่ก็ถูกปฏิเสธไปแบบนิ่มๆ คล้าย อุกฤษ มงคลนาวิน หน้าแตกแหกไปตามๆ กัน ไม่รู้ก่อนหน้านี้ไปดิวกันอย่างไร ถึงคุยกันไม่เด็ดขาด เจอแบบนี้เสียหน้าไปหลายแถบ หลังจากนี้ไม่รู้จะไปปฏิบัติผีลืมหลุมที่ไหนต่ออีก
ก่อนหน้านี้ก็มุดเข้าบ้าน พิชัย รัตตกุล ปูชนียบุคคล ของเก่าชำรุดทรุดโทรม ที่ชั่วโมงนี้พรรคประชาธิปัตย์ มองว่าเป็นพวกคนแก่หูตึง เป็นน้ำคนละสาย ไผ่คนละกอไปแล้ว แต่คนในรัฐบาลดีใจเหมือนไก่ได้พลอย บอกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมไม่เป็นไร ได้อดีตหัวหน้าพรรคมาก็โอเคแล้ว แถไปได้เรื่อย เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งถึงเกมที่กำลังเล่นอยู่ เดินสายดึงเครือข่ายแนวร่วม แอบอ้างความชอบธรรม เดินแผนลึกร้ายหลังจากนี้
**หลายคนตีธงฟันฉับไปว่า การปฏิรูปการเมืองเนื้อแท้ ก็หนีไม่พ้นการแก้กติกาการเมือง นั่นก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั่นเอง และเป้าหมายหลักใหญ่ก็หนีไม่พ้นแก้บ่วงคดีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีตัวฉกาจ ที่ยังวางแผนกลับบ้าน สั่งเครือข่ายเดินเกม เล่ห์เพทุบายไม่เว้นแต่ละวัน
เหมือนตั้งธงกันไว้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็รู้ เหมือนไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ยากที่จะเข้ามาร่วมปฏิรูปปาหี่ เพื่อความต้องการของรัฐบาลฝ่ายเดียว เพราะเชื่อว่าสุดท้ายปลายทางมันก็จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลล้วนๆ
ในอดีตเคยมีบทพิสูจน์มาหลายต่อหลายครั้งว่า หากข้อเสนอใดไม่ตรงใจ ไม่ตรงความต้องการของรัฐบาล ไปลด หรือไปตัดทอนอำนาจ หรือรัฐบาลต้องยอมเสียอะไรบางอย่าง ย่อมไม่มีวันเอาด้วย ข้อเสนอต่างๆ ไม่มีวันสำเร็จ คนที่มาร่วมด้วยรายแล้วรายเล่าเห็นข้อเท็จจริงตรงนี้ จึงไม่อยากเข้ามาร่วมให้เสียเวลา เสียชื่อเสียง เสียคนเอาตอนแก่
ปาหี่การเมือง เดินไปแบบเรียบๆ ไม่มีเสียงตอบรับจากสังคมแต่อย่างใด การเดินสายกวาดต้อนแนวร่วม ผู้อาวุโสทางการเมือง เหมือนตะลอนทัวร์สุสานคนแก่ สร้างภาพความร่วมมือจากอดีตนักการเมือง นักคิดชื่อดังแค่นั้น หลายคนเชื่อว่า จะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์มากมายนัก คนเหล่านี้ความจริงแค่เขียนหนังสือไปขอความเห็นมาประกอบก็เพียงพอแล้ว การเดินสายไปหา จึงต้องย้ำว่า เป็นปาหี่สร้างภาพเท่านั้น วันนี้คู่ขัดแย้งในกระดานการเมือง ตัวละครก็เห็นชัดๆ ควรจะเอามาร่วมคิด ร่วมกันทำ หาทางออกให้ประเทศ จึงจะเป็นแนวทางที่ใช่ที่สุด
แต่การที่คนเหล่านั้นไม่มาร่วมด้วยกับรัฐบาลเพราะอะไร ก็รู้เหตุผลกันดีอยู่ เพราะความไม่เชื่อมั่นเชื่อถือในแนวทางของรัฐบาล ความจริงใจที่รัฐบาลยื่นเสนอให้ฝ่ายต่างๆไป มันมาจากก้นบึ้ง หรือเกมสับขาหลอก ทุกคนเชื่อว่ามันเป็นอย่างหลัง เพราะในอดีตมีบทพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างหลังทั้งนั้น
วันนี้ข้อเสนอที่รัฐบาลแย้มไต๋ออกมา ยังเป็นไปในมิติเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือทำให้สังคมไว้วางใจได้ว่าจะเป็นกลาง ไม่มีการครอบงำจากรัฐบาล ปากก็เชิญชวนให้ทุกฝ่ายมาร่วมกัน อย่างเพิ่งตั้งแง่ ตั้งเงื่อนไข หลักการไม่มีอะไรที่ชัดเจนจับต้องได้
**กล้าหรือเปล่าที่จะให้เวทีนี้กำหนดโดยฝ่ายตรงข้าม กล้าหรือไม่ที่จะให้คู่ขัดแย้งเข้ามานั่งเป็นประธานสภาปฏิรูป เป็นผู้กำหนดแนวทางเงื่อนไข
หากรัฐบาลกล้าๆ โยนเรื่องนี้ให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนกำหนดเกม ถือว่าใจถึงมาก แต่ยากยิ่งกว่าไปแปรงฟันให้เสือ ตัดเล็บให้สิงโต ถ้าทำแบบนั้นได้ฝ่ายตรงข้าม คู่ขัดแย้งร่วมด้วยแน่นอน แบบนี้จะได้ชื่อว่า กล้าได้กล้าเสีย ไม่คิดครอบงำ บงการอย่างแท้จริง !!
**วันนี้จึงฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกเลยว่า ปฏิรูปปาหี่จะล้มเหลว ขึงขังในช่วงแรก แล้วก็ค่อยๆ เงียบๆ ค่อยๆ จาง เหมือนลมว่าว ต้นจัดปลายเหี่ยว ไม่แตกต่างจากละครฉากเดิมๆ ที่ทำขึ้นมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างภาพความปรองดอง สร้างอีเวนท์ว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้นั่งสวาปามงบประมาณไปวันๆ
ออกมาสาดวาทกรรมสวยหรู ลงมือทำ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยบ้าง แม้โอกาสสำเร็จจะมีเพียง 1เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่ามีความหวังบ้าง...ทุด ฟังแล้วอยากจะอ๊วก!!
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเดินสายรวบรวมผู้อาวุโสมาเล่นเกมปาหี่ก่อนลงโลง หลอกคนแก่หน้าด้านๆ บางคนอยากมาร่วมด้วยเจตนาดี อยากทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองบ้างในบั้นปลายชีวิต อาจถูกหลอกใช้ เสียคนตอนแก่ ชื่อเสียงป่นปี้ไปถึงลูกหลาน เอาคนเหล่านี้มาผสมปนเปกับเครือข่าย "กากี่นั้ง" คนกันเอง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ สนธยา คุณปลื้ม บรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ละครฉากใหญ่สำทับด้วย บุคลากรระดับโลกอีกจำนวนหนึ่ง
พิธีกรรมอำพรางตบตาสังคม ที่เชื่อเหลือเกินว่า คนกว่าครึ่งค่อนประเทศไม่เชื่อถือ กำลังดำเนินไปบนการกระดานเมือง ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน รัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง เผชิญมรสุมหลายลูก
ปาหี่ลดแรงเสียดทานครั้งนี้ ผู้คนส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ด่าซ้ำรัฐบาลกำลังทำเรื่องไร้สาระ แทนที่จะเอาเวลาไปบริหารประเทศ ไปแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ทำตำบอนไว้ เรื่องข้าวของแพง สินค้าเกษตรแพง ไม่คิดจะแก้ไขให้ชาวบ้านมั่งเลยรึ ตอนหาเสียงก็พูดปาวๆ
**หรือยิ่งนานวันยิ่งเผยธาตุแท้ชัด เรื่องช่วย "ทักษิณ" ต้องมาก่อนเหนือเรื่องอื่นใด !!
