xs
xsm
sm
md
lg

ออก"มั่นคง"คุมม็อบ หมอดูอีทีฟันธง"ปู"ล่มสลาย แฉคนตระกูลชินเผ่นนอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-โลกออนไลน์แพร่คำทำนาย "หมอดูอีที" ชี้รัฐบาล "ปู" เข้าสู่จุดต่ำสุดและถึงคราวล่มสลาย เผยตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป เป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ ด้าน ครม.ชุดเล็ก ไฟเขียวออกพ.ร.บ.มั่นคงฯ คุมม็อบ 3 เขต พระนคร เขตดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย 1-10 ส.ค.นี้ ปชป. แฉคนตระกูลชินหนีเผ่นนอก ขณะที่ม็อบไล่นัดระดมพลต้าน ส่วนแก๊งแดงสั่งรวมตัว "พระจุณห์" บ้านโดนบึ้ม ยันยังไปม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) โลกออนไลน์ ได้เผยแพร่คำทำนายของ "หมอดูอีที" หมอดูชื่อดังชาวพม่า ที่ได้ทำนายดวงประเทศไทยบางช่วงไว้ว่า ขณะนี้เป็นจุดต่ำสุดของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมตรี และรมว.กลาโหม คนในประเทศจะมีการต่อสู้กันเอง ทำให้เกิดความสูญเสีย แต่หลังจากผ่านวิกฤติไปได้ ประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

โดยหมอดูอีทีทำนายไว้ว่า ช่วงเดือนส.ค. เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ เรื่อยไปจนถึงเดือนก.ย.-ต.ค. โดยจะใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน และสถานการณ์จะเริ่มคงที่ในช่วงปี 2557 โดยตลอดทั้งปี จะเป็นช่วงเปลี่ยนแปลง และในช่วงปี 2558 จะเป็นปีแห่งความหวังใหม่ของประเทศไทย โดยที่มีผู้มีอำนาจรัฐบาลปัจจุบันจะสูญหายไม่เหลือซาก

ทั้งนี้ หมอดูอีทีไม่ได้ระบุว่าเสียชีวิต หรือต้องหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ และในปี 2559 ประเทศไทยจะเป็นดั่งฟ้าสีทอง ผ่องอำไพ โดยการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนั้น จะเกิดขึ้นโดยประชาชน ไม่ใช่กองทัพ

**รัฐประกาศพ.ร.บ.มั่นคงฯ 3 เขต กทม.

วันเดียวกันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเล็ก เพื่อพิจารณาเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 รองรับและป้องกันเหตุความวุ่นวายทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากการประกาศชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในเดือน ส.ค.นี้ โดยมีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่ 3 เขตของกรุงเทพมหานคร (กทม.) คือ เขตพระนคร เขตดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย ระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค.นี้ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มภาคประชาชน ในวันที่ 4 ส.ค. โดยมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกันปราบปราม ยับยั้งเหตุการณ์ที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคง หลังจากฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์เห็นว่ามีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมีการประกาศว่าจะมีการชุมนุมของหลายกลุ่มเพื่อคัดค้านและประท้วงไม่เห็นด้วยกับการประชุมรัฐสภา มีแนวโน้มว่าจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากและอาจยืดเยื้อ

**ตั้ง“อดุลย์” เป็นผอ.ศอ.รส. ดูแล

พล.ท.ภราดร กล่าวว่า แผนการดำเนินการของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้อำนวยการ มีศูนย์อยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยจะมีการประชุมและแถลงข่าวทุกวัน และหลังจากนี้ สตช.จะเป็นผู้ไปกำหนดรายละเอียดว่าพื้นที่ไหนเข้าได้หรือไม่ได้อย่างไร

ทั้งนี้ ยังเชื่อว่าคงจัดระเบียบได้ คงไม่ถึงขั้นเข้าไปสกัดกั้น ไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่จะมาจากต่างจังหวัด หรือที่อยู่ในกทม. หากมีการชุมนุมอยู่ในกรอบและจัดระเบียบให้เรียบร้อยก็ไม่ว่ากัน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับทางแกนนำผู้ชุมนุมบ้างแล้ว และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับมือที่สามที่อาจเข้ามาป่วน แต่ทางศอ.รส.จะติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และทุกมิติ ทั้งการตั้งเวทีปราศรัยกลุ่มต่างๆ และการชุมนุมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปว่าเขาจะมีกลยุทธ์หรือรูปแบบการชุมนุมอย่างไร โดยจะเน้นดูแลเป็นพิเศษในส่วนของเขตพระราชฐาน รัฐสภา และทำเนียบ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการในครั้งนี้ ขอไม่เปิดเผยว่ามีจำนวนเท่าไร แต่เจ้าหน้าที่จะพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นไป

***ประกาศ "รัฐสภา" เขตหวงห้าม

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นมอบหมายให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ โดยประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 5,000 คนหรือมากกว่านั้น แม้จำนวนผู้ชุมนุมจะไม่มาก แต่ต้องป้องกันมือที่สามที่อาจจะมาสร้างความวุ่ยวายได้ จากนี้ไปจะมีการประกาศพื้นที่หวงห้าม ซึ่งเบื้องต้นพื้นที่หลักที่ห้ามเข้า คือ รัฐสภา

** “ปู”โทรข้ามประเทศกำชับดูแลให้ดี

เมื่อถามว่า นายกฯ แสดงความเป็นห่วงอย่างไรหรือไม่ พล.ท.ภราดรตอบว่า นายกฯ มีความเป็นห่วง ซึ่งได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับพล.ต.อ.ประชา แล้ว โดยนายกฯ ได้กำชับให้ปฏิบัติตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ที่สำคัญ คือ อย่าให้มีปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น ดูแลประชาชนให้ดี

**ประเมินม็อบ1หมื่น ใช้ตำรวจ3หมื่นรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยข่าวได้สรุปกลุ่มที่จะออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงเดือนส.ค. ดังนี้ 1.กลุ่มสนับสนุนรัฐบาล ได้แก่ กลุ่ม นปช., ภาคีพลังประชาชน (ภปช.),กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล , กลุ่มสื่อวิทยุชุมชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) โดยข้อเรียกร้อง คือ สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนิรโทษกรรม รวมทั้งให้กำลังใจสนับสนุนรัฐบาล 2.กลุ่มเห็นต่างรัฐบาล มวลชนประมาณ 10,000 คน ประกอบด้วย องค์กรพิทักษ์สยาม กลุ่มหน้ากากขาว ภาคีเครือข่ายภาคประชาชนไทยสปริง กลุ่มเสื้อหลากสี กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กลุ่ม 40 สว.กลุ่มสันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ สันติอโศก โดยไม่มีกลุ่ม พันธมิตรฯ เข้าร่วม

พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงประกาศพ.ร.บ.มั่นคง จะมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจำนวน 224กองร้อย โดยจะแบ่งออกเป็น 2ส่วน คือ 112 กองร้อยแรกจะใช้ในการตรึงกำลัง และอีก 112 กองร้อยจะเป็นกำลังสำรองอยู่ในที่ตั้ง

**สภาฯ เตรียมพร้อมรับมือม็อบ

ที่รัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด 100 นาย และตำรวจจากภายนอกเข้ามาประจำการอยู่ด้านใน 4 กองร้อย โดยยังไม่มีการขอเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้มีการประสานเป็นการภายในบ้างแล้ว ขอให้ ส.ส.หญิงสวมกางเกง และรองเท้ารัดกุม ไม่มีส้น มาร่วมประชุม ขณะเดียวกัน ได้มีการเตรียมจัดทำอาหารเลี้ยงทุกคนภายในรัฐสภา หวั่นเกิดเหตุความวุ่นวาย ทำให้ออกไปรับประทานไม่สะดวก โดยจะจัดตั้งโซนครัวอยู่บริเวณใกล้ลานจอดรถ และมีการสั่งหน้ากากอนามัย (ผ้าปิดจมูก) ผ้าเย็นเช็ดหน้า น้ำดื่ม อีกจำนวน 2,000 ขวด ไว้ใช้กรณีฉุกเฉิน

**กองทัพประชาชนนัดระดมพล

ที่ราชตฤนมัยสมาคมฯ (สนามม้านางเลิ้ง) คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ร่วมแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนออกมาร่วมชุมนุม โดยระบุว่า จะนัดชุมนุมในวันที่ 4ส.ค. ซึ่งเวลาและสถานที่ จะแจ้งอีกครั้ง และในวันที่ 5-6 ส.ค. จะดำเนินการยื่นหนังสือต่อองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสหประชาชาติ และสถานทูตประเทศต่างๆ จากนั้นในวันที่ 7ส.ค. จะนัดชุมนุมคัดค้านการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษ

**ปิดหูปิดตาประชาชนงดถ่ายทอดสด

นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วันที่ 7 ส.ค. ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. นิรโทษ จะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. และให้เวลาอภิปรายไปจนถึงประมาณ 23.00 น. ก่อนจะปิดการอภิปรายและให้ลงมติว่าจะรับหลักการของร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ จากนั้นจะปิดประชุมเวลาประมาณ 24.00 น. ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวจะไม่มีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เพราะหลักปฏิบัติของการประชุมจะอนุญาตให้ถ่ายทอดเฉพาะกระทู้ถามสดเท่านั้น

***"นิชา"แถลง11ข้อเสียร่างพ.ร.บ.นิรโทษฯ

น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงแถลงการณ์ของ นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์

โดยนางนิชา ระบุว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยขาดสำนึกยอมรับผิดของผู้กระทำผิด มีแต่จะเกิดผลร้ายต่อสังคม ในขณะที่ผู้สนับสนุนนิรโทษกรรม ก็ยังไม่สามารถอธิบายชี้แจงข้อดีได้ ตนเองจึงเห็นข้อเสียในร่างดังกล่าว อย่างน้อย 11ข้อ คือ 1.การทำลายหลักนิติรัฐ 2.การทำลายหลักศีลธรรม 3.การทำลายบรรทัดฐานสังคม 4.การทำลายอำนาจอธิปไตย หรือ อำนาจตุลาการ 5.การละเมิดสิทธิพื้นฐานในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน 6.เยาวชนเรียนรู้ตัวอย่างที่ผิด ซึ่งเป็นการทำลายอนาคตของชาติ 7.สังคมไทยยึดการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง 8.ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ 9.ประชาชนขัดแย้งแตกสามัคคี 10.เกิดจลาจลใช้ความรุนแรงในสังคม และ 11.นำไปสู่สภาวะรัฐล้มเหลว รัฐล่มสลาย

ทั้งนี้ หากใครกล้าออกมารับประกันว่า ผลร้ายทั้ง 11 ข้อดังกล่าว จะไม่เกิดขึ้นกับสังคมไทย แต่หากมันเกิดขึ้นจริง รัฐบาลจะออกมารับผิดชอบอย่างไร

**ปชป.แฉตระกูลชินบินเมืองนอก 1-10 ส.ค.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการป้องกันความวุ่นวายในการชุมนุมว่า ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่รัฐบาลพักเรื่องนี้ไว้ก่อน และถอนกฎหมายออกมา เพื่อมาพูดคุยกันว่า จะมีทางออกอย่างไร ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และรัฐบาลมีความจริงใจก็ประกาศให้ชัด แล้วเปิดเวทีตั้งโต๊ะคุยกัน โดยตนพร้อมเข้าพูดคุยด้วย เชื่อว่าไม่เกิน 2วันก็เสร็จ จะได้กฎหมายที่ทุกฝ่ายยอมรับ แต่รัฐบาลกลับไม่ทำ เพราะต้องการตอบสนองเฉพาะพรรคพวกตัวเอง และไต่บันได ไปสู่การเอาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน ล้างผิดคดีทุจริตต่างๆ

น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ จัดลำดับความสำคัญกับการปฏิบัติภารกิจและเข้าร่วมประชุมรัฐสภา ซึ่งจากการติดตามข้อมูลพบว่า หลังจากกลับจากภารกิจที่ต่างประเทศแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการเตรียมการเดินทางไปต่างจังหวัดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อีกทั้งยังพบว่ามีกลุ่มบุคคล2-3 กลุ่ม ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวนายกรัฐมนตรีเตรียมเดินทางไปต่างประเทศวันที่ 1-10ส.ค. ซึ่งเป็นการปลุกเร้าสถานการณ์ความไม่ปกติ

**แดงสั่งนัดรวมตัว3 ส.ค.รอคำสั่ง

วันเดียวกัน กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้ประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ทางการเมือง โดยก่อนเข้าประชุม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้มีการนัดหมายแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั่วประเทศให้มาชุมนุมกันที่วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง ในวันที่ 3 ส.ค. เพื่อรับรู้สถานการณ์อย่างเท่าเทียมกัน และขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดง อย่าได้ออกไปชุมนุมในพื้นที่ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล เพราะอาจเกิดการปะทะที่จะนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายหนัก

นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือเล็กบ้านดอน ประธานภาคีเครือข่ายพลังประชาชน (ภปช.) กล่าวว่า ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ทางภปช. จะรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ (หลักสี่) เพื่อเปิดเวทีปราศรัย และติดตามความเคลื่อนไหวของการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุการณ์ผิดปกติเราก็พร้อมที่จะเคลื่อนตัวทันที

**เพื่อไทย ยันมติเดิมถกนิรโทษ7-8ส.ค.

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของนายวรชัย เหมะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพียงฉบับเดียว โดยไม่อนุญาตให้สมาชิกเสนอเลื่อนร่างกฎหมายฉบับอื่นขึ้นมาพิจารณาประกบ พร้อมขอให้ ส.ส.ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงเหตุผลที่รัฐบาลผลักดันในเรื่องดังกล่าว และยืนยันว่า การเปิดประชุมสภาฯ ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะไม่มีการลักไก่นำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย ขึ้นมาพิจารณาก่อนเวลา ส่วนร่างอื่นๆ ได้ประสานทำความเข้าใจไปยังนายนิยม วรปัญญา และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานแล้ว

**มท.1 จี้แดงหน้าสภาฯ ถอนตัว

รายงานข่าวจากห้องประชุมส.ส.เพื่อไทย แจ้งว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีส.ส.ร่วมอภิปรายอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีม็อบและพรรคการเมืองบางพรรคระดมคนออกมาชุมนุม โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรมว.มหาดไทย ได้มารายงานว่า เราเองก็ทำ2มาตรฐานไม่ได้ เรื่องการชุมนุม โดยเฉพาะคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่ยังปักหลักหน้าสภาฯ

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานร่วมในที่ประชุมได้ฝากถึงแกนนำเสื้อแดง ให้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังชุมนุมในสภาฯ ให้สลายการชุมนุม ส่วนส.ส.จะเดินทางเข้าไปสภาฯ อย่างไรนั้น พรรคจะแจ้งอีกครั้งหนึ่ง เพราะอาจมีผู้ชุมนุมมาปิดกั้น

อย่างไรก็ดี ในการประชุมมีส.ส.เพื่อไทยหลายคนได้เสนอความเห็นอย่างกว้างขวาง เช่น จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินท์ และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เราควรให้คนเสื้อแดงมาชุมนุมยึดพื้นที่หน้าสภาฯ ไว้ก่อน เพื่อให้เราเข้าไปทำงานได้ ขณะที่ ส.ส.บางคนมองว่า การชุมนุมครั้งนี้ ประชาธิปัตย์จะร่วมกับม็อบบางกลุ่มด้วย ต้องการเอาคนมาเพื่อหวังยั่วยุให้เกิดสถานการณ์

** บุกปาระเบิดใส่บ้าน "พะจุณณ์"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณบ้านพล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี ซึ่งเป็นคนสนิทของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ภายในหมู่บ้านร่มรื่น เขตตลิ่งชัน กทม. เกิดเหตุผู้ไม่หวังดีขว้างระเบิดน้อยหน่าเข้ามาภายในบ้าน แต่ลูกระเบิดไม่ทำงาน โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ทางการเมืองจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี

พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นฝีมือของบุคคลที่ไม่หวังดีรับงานมาให้ก่อกวนบ้านตน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนจะเกี่ยวกับการที่ไปชุมนุมร่วมกับ อพส. ก็แล้วแต่จะคิด แต่วันที่ 4 ส.ค.นี้ ที่กลุ่มอพส.ที่จะมีการชุมนุมนั้น ตนในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งก็คงจะเดินทางไปร่วมชุมนุมด้วย

**ปชป.ปลุกคนไทยต้านนิรโทษ

วันเดียวกัน แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จัดปราศรัยบนเวทีเดินหน้าผ่าความจริง ลานสกายวอร์ก ช่องนนทรี กรุงเทพฯ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หากแพ้โหวตทั้ง 3 วาระ ขอให้ประชาชนคนไทยหยุดงานออกมาต่อต้านพ.ร.บ.ฉบับนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น