ASTVผู้จัดการรายวัน- เพื่อไทยเปิดวอร์รูม เตรียมรับสถานการณ์ก่อนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ สั่งฝ่ายปกครองเร่งชี้แจง สกัดม็อบเข้ากรุง คาดประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง 6 ส.ค. "เหลิม"เตือนอย่าประมาท "มาร์ค" ลั่น กม.นิรโทษฯ ไม่สร้างความปรองดอง "ม็อบนางเลิ้ง" ขู่รัฐสกัดกั้นมวลชน เจอ ม. 157 แน่ "อุทัย" แนะถอนร่างนิรโทษ-ปรองดอง ออกให้หมด
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (30 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคได้เรียกประชุมคณะกรรมการยุทศาสตร์และประชาสัมพันธ์ เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ก่อนจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวันที่ 7 ก.ค.นี้
ภายหลังการประชุม นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน โดยมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้ กทม.และปริมณฑล ซึ่งมีการปลุกระดมประชาชน ให้ออกมาชุมนุมต่อต้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะมีการพิจารณาในสภาวันที่ 7 ก.ค.นี้
พรรคฯขอยืนยันว่า ในการเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะเป็นพิจารณากระทู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีการลักไก่พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ขณะที่การประชุมสภาในวันที่ 7ส.ค. จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีสอดไส้เอาร่าง พ.ร.บ.ฉบับอื่นเข้ามาร่วมพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ฉบับของนายวรชัย มีเนื้อหาเป็นการช่วยเหลือประชาชนจากการชุมนุมของทุกสีเสื้อทุกกลุ่มตั้งแต่การรัฐประหารปี 49 โดยร่างพ.ร.บ.นิรโทษฉบับนายวรชัย ไม่ได้มีส่วนใดช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือแกนนำ หรือผู้สั่งการ แต่อย่างใด
สำหรับการจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาช่วยควบคุมสถานการณ์นั้น หากมีการชุมนุมที่เกินเลย หรือผิดกฎหมาย หน่วยงานด้านความมั่นคงก็จะเป็นผู้เสนอให้ใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อเป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ เหมือนอดีตที่ผ่านมาซึ่งก็ได้ใช้กับการชุมนุมของม็อบอพส. ของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย
** "เหลิม"เตือนอย่าประมาทปชป.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงนี้ ว่า ได้ติดตามดูรายการที่พรรคประชาธิปัตย์ผ่าความจริง ฟังมาสองสัปดาห์ติดต่อกันแล้ว เข้ม เด็ดขาด ชัดเจน หลายคนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ตนรู้จักกันดี ไม่เคยมีพฤติกรรมอย่างนี้ก็แสดงออกชัด งานนี้เรียกว่าเปิดหน้าเล่น ทั้งที่ในอดีตอาจจะหลบๆ ซ่อนๆ แต่คราวนี้เปิดเลย แตกหักเป็นแตกหัก ตายเป็นตาย เพราะพรรคประชาธิปัตย์จัดเต็ม จัดหนัก
" ผมไม่กล้าวิเคราะห์ว่า จะมีผู้ชุมนุมมา 5 -6 พันคน เพราะ ส.ก.และส.ข. ของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. ร้อยละ 70 ส.ส.ร้อยละ 80 ขึ้น ผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ เขาจะเอาคนมาเท่าไรก็ได้ เว้นแต่เขาจะเอาหรือไม่ ที่บอก 5 พันคนอย่าไปวิเคราะห์ อายเขา แค่ส.ก.และ ส.ข.ของเขาในกทม.เดินทางนิดเดียว 15 นาทีมาแล้ว และส.ส.ของเขาร้อยละ 80 ที่สำคัญที่สุด เขาเป็นผู้ว่าฯกทม. มาแล้วย่างปีที่ 11 จะเป็นไปได้อย่างไร 5 พันคน แค่บางซื่อก็เกินแล้ว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
“ผมพูดอะไรไม่เคยผิด ผมยังห่วงเรื่ององค์กรอิสระ ผมกลัว เพราะถ้าผัวะ ได้เสียเลย แต่ไม่ถึงกับซ้ำรอยปี 49 เพราะการเมืองไม่พัฒนาไปถึงขั้นนั้น กองทัพเขาไม่ยุ่ง แต่จะเป็นอย่างไรต้องถามหน่วยข่าว เพราะผมเป็นจับกัง 1” รมว.แรงงงาน กล่าว
** เล็งประกาศพ.ร.บ.มั่นคง วันที่ 6 ส.ค.
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.) กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมช่วงเดือนส.ค.ว่า ที่ประชุมได้มีการประเมินสถานการณ์ร่วมกันและจะเสนอผลการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ต่อที่ประชุม ครม. พิจารณาในวันนี้ ( 31 ก.ค.) ซึ่งจะเป็นการประชุมครม.ชุดเล็ก ที่มีนายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ในเวลา 12.00 น.
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มจะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ใช่หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องนี้
ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมนั้น ในช่วงแรกอาจจะยังไม่มาก แต่อาจจะมีพัฒนาการมากขึ้น โดยคาดว่าการเริ่มชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ และขณะนี้มีผู้ชุมนุมบางส่วนเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อชุมนุมแล้ว จึงต้องมีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ลุกลาม และขยายตัวออกไป
เมื่อถามว่าจะมีการลุกลามบานปลายหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า หากมีการระงับยับยั้ง บรรเทาเสียก่อน ก็จะไม่บานปลาย ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็จะประกาศเฉพาะจุดเท่านั้น และเป็นห้วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 1 สัปดาห์
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย กับหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางแกนนำพรรคชุดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้เชิญ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสมช. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมถึงฝ่ายกองทัพ มาหารือ โดยใช้เวลาตลอดทั้งวัน พูดคุยและประเมินสถานการณ์รับมือการชุมนุม โดยในวงหารือ มีการประเมินกันว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก่อนหรือหลังที่ม็อบจะมา นั้น จะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ทางฝ่ายการเมืองเสนอให้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก่อนที่ม็อบจะมา เพื่อให้นำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันที่ 30 ก.ค.เลย
แต่แนวคิดของฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.ต.อ.ประชา ไม่เห็นด้วย โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เอาอยู่ คุยกับตำรวจแล้ว ได้รับการยืนยันว่า รับมือได้ และเห็นว่าหากประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็ควรจะประกาศประมาณวันที่ 6 ส.ค. ก่อนประชุมสภา เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันพุธที่ 7 ส.ค. ที่คาดการณ์กันว่าจะมีม็อบมาชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภา เพราะเป็นห่วงว่ารัฐบาลจะถูกโจมตีว่าตื่นเต้นเกินไปหรือ ทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้ง เรายังไม่รู้เลยว่าม็อบจะมาจริงหรือไม่ มาจำนวนเท่าไร
**"เติ้ง"หนุนใช้กม.มั่นคงฯจัดการม็อบ
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า วันนี้ (31ก.ค.) จะมีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องนิรโทษกรรม แต่ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาล 3-4 พรรคแล้ว ก็ยืนยันว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย จะไม่มีการแปรญัตติ และ เห็นด้วยที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง มาเพื่อป้องกันไว้ก่อน เฉพาะบางพื้นที่ ถ้าเหตุเกิดขึ้นก็สามารถใช้ได้ทันที เป็นการป้องกันไว้ก่อน เชื่อว่าสามารถคุมสถานการณ์ได้
** นายกฯปัดความรับผิดชอบไม่ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ว่า ตนถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลตัดสินใจแล้วว่า อยากทำเรื่องนี้ และตามแผนเดิมคือ นายกฯต้องพยายามทำตัวให้ห่างที่สุด แต่ความจริงคือจะบอกไม่ได้ว่านายกฯไม่รู้ หรือไม่ได้ตัดสินใจ เพราะนายกฯรู้แล้ว ตัดสินใจแล้ว ว่าต้องการทำงานนี้ ดังนั้นนายกฯจึงหนีความรับผิดชอบไม่พ้น
“จะอ้างความปรองดองไม่ได้ เพราะผมยังไม่เห็นมีความปรองดองตรงไหนจากกฎหมายของนายวรชัย ขนาดรัฐบาลคิดถึงขั้นจะต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์สงบเรียบร้อยดี มันก็เป็นตัวบ่งบอกอยู่แล้วว่า กฎหมายนี้ไม่ได้สร้างปรองดอง มีแต่สร้างความขัดแย้ง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
**วิปค้านไม่รับหลักการ ร่าง นิรโทษฯ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้าน ว่า ที่ประชุมหารือเรื่องที่สภา จะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยจากการตรวจสอบในวาะรการประชุมพบว่า ขณะนี้มีทั้งหมด 7 ฉบับ โดย 4 ฉบับแรก เป็น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ค้างอยู่ในสภาฯ และอีก 2 ฉบับเป็น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ และนายนิยม วรปัญญา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และฉบับที่ 3 เป็น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่่บำรุง รมว.แรงงาน
แต่ขณะนี้มีแนวโน้มว่า ฝ่ายรัฐบาลจะนำร่างกฎหมายของ นายวรชัย และ นายนิยม เข้าสู่สภาฯ โดยการเลื่อนฉบับของนายวรชัย ขึ้นมาเป็นวาระแรกตั้งแต่สมัยการประชุมที่แล้ว ซึ่งหาสภาฯ พิจารณาทั้ง 2 ฉบับนั้น วิปฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการกฎหมายดังกล่าว เพราะ เป็นกฎหมายทำลายระบบนิติรัฐ หลักนิติธรรมของประเทศ เป็นการนิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้ผู้ทำผิดในคดีก่อการร้าย การเผาสถานที่ราชการ เอกชน และการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ถ้ากฎหมายฉบับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ จะเป็นหัวเชื้อนำไปสู่การนิรโทษกรรมแบบยกเข่ง หรือสุดซอยได้ ซึ่งการนิรโทษกรรมแบบยกเข่งได้ ไม่ได้นำประเทศสู่ความปรองดองตามที่รัฐบาลโฆษณา และกฎหมายฉบับนี้อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ที่ระบุว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน แต่นี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนที่ทำความผิดใกล้เคียงกัน ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายเท่าเทียมกัน
** รัฐบาลโกหกประชาชน สกัดการชุมนุม
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังสั่งให้ข้าราชการท้องถิ่นแต่ละจังหวัด ไปโกหกประชาชนว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะไม่มีการยัดไส้ เพื่อช่วยใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ประชาชนออกมาชุมนุมคัดค้านต่อต้านการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางไปที่ฮ่องกงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และตำรวจ ชี้ชัดว่าภารกิจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งมาคือ การเดินหน้าเรื่องนี้อย่าเต็มที่ ทำให้รัฐบาลต้องเรียกรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมด สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ฝ่ายความมั่นคง และข้าราชการประชุมอย่างเอิกเกริก เพราะหวาดผวากับการชุมนุมของประชาชนที่จะมีขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยกลัวว่าผู้ชุมนุมจะมีพฤติกรรมเหมือนคนเสื้อแดงเคยทำ ที่มีการบุกสภาในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
**“ม๊อบนางเลิ้ง”ขู่รัฐสกัดมวลชนเจอม.157
นายไทกร พลสุวรรณ เสนาธิการร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่าขณะนี้รัฐบาล มีคำสั่งลับไปยัง กระทรวงมหาดไทย คมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สั่งเจ้าหน้าที่สกัดกั้นประชาชน ไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ จึงขอแจ้งไปยังผู้ที่จะปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวว่า หากกระทำตามคำสั่งจะถือเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะการขัดขวางการชุมนุมถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 34 ที่ให้สิทธิเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่ มาตรา 45 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มาตรา 62 บุคคลย่อมมีสิทธิในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานของรัฐ และ เจ้าหน้าที่ของรัฐ มาตรา 63 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และ มาตรา 70 บุคคลมีหน้าที่ พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และหากมีการสกัดกั้น ก็จะแจ้งความดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานดังกล่าว ตั้งแต่ผู้ออกคำสั่ง จนถึงผู้ปฏิบัติงาน
"ตนจะยื่นหนังสือชี้แจงกับสถานทูตต่างๆ ทั้งประเทศ สหรัฐอเมริกา จีน กลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศสำคัญๆต่างๆ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงและเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการชุมนุม นายไทกร กล่าวว่า การชุมนุมยังมีกำหนดการเดิมใน วันที่ 4 ส.ค. นี้ แต่สถานที่ และเวลา ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอยืนยันว่าจะไม่มีการยึดสถานที่ราชการ ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อ หรือไปที่หน้ารัฐสภา ในวันที่ 7 ส.ค. ที่จะมี การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
**ถามนายกฯถ้านองเลือดจะรับผิดชอบอย่างไร
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย กำลังจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกในสังคมขึ้นอีกครั้ง ผลของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ขนาดยังไม่ได้พิจารณาในสภา ก็ส่อเค้าการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ในสังคมไทยขึ้นอีกครั้ง จึงเป็นไปได้ว่า ถ้ามีการพิจารณาในสภาฯจริงๆ โอกาสเกิดความขัดแย้งรุนแรงในสังคมจะมีสูงมาก ซึ่งตนมีคำถาม 5 ข้อ ต่างกับ พ.ร.บ.ฉบับนายวรชัย เหมะ ดังนี้
1. นิยาม ของคำว่าแกนนำ หรือผู้มีอำนาจตัดสินใจ และคำว่า ประชานผู้บริสุทธิ์ รวมความถึงใคร พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำนปช. ด้วยหรือไม่ ใครมีอำนาจตีความ ถ้าบอกว่าอำนาจตีความคือศาล แล้วจะนิรโทษกรรมไปทำไม ก็ควรขึ้นสู่ศาลให้หมดทุกคดี
2. ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มุ่งหมายนิรโทษให้กับคดีก่อการร้าย ก่อจลาจล เผาห้าง เผาศาลากลาง ซึ่งเป็นคดีอาญาร้ายแรง และรวมคดีหมิ่นสถาบันฯ ตาม มาตรา 112 ด้วยหรือไม่ อย่าหลบเลี่ยง และเบี่ยงบาลีด้วยการใช้คำว่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และแกนนำ หรือ ผู้มีอำนาตัดสินใจ
3. พรรคเพื่อไทย และ นปช. บอกมาตลอดว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นไปโดยสงบ ไม่มีอาวุธ แล้วทำไมไม่พิสูจน์ความสุจริตใจ และ"ความจริง" ซึ่งเป็นหัวใจของการปรองดอง จะนิรโทษทำไม คนเสื้อแดงไม่พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจลาจลเผาบ้าน เผาเมือง ใช่หรือไม่
4. ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นแค่จุดตั้งต้นหรือปากซอย เพื่อไปสุดซอย หรือทะลุซอย เอานายใหญ่กลับบ้านอย่างเท่ๆ ใช่หรือไม่ เพราะสุดท้ายในขั้นแปรญัตติ ก็จะรวมสาระสำคัญ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย
5. พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ก็รู้ดีว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีความล่อแหลม ละเอียดอ่อน มีประชาชนคัดค้านในวงกว้าง เป็นเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้า และวิกฤติการเมืองได้อีกครั้ง ถ้าเกิดเหตุนองเลือดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรับผิดชอบอย่างไร
** "อุทัย"วอนพท.ถอนญัตติกม.ปรองดอง-นิรโทษ
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตรมว.ยุติธรรม ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกเรื่องความปรองดองแห่งชาติ ส่งถึงประชาชน ส.ส.- ส.ว. คณะรัฐมนตรี ผู้พิพากษา และตุลาการ มีใจความโดยสรุปว่า มีความจำเป็นใดที่จะเสนอให้มันเกิดเรื่องขึ้นมาได้โปรดอย่าทำได้ไหม ถอนญัตติทั้ง 2 รูปแบบออกจากสภาฯเสีย ถ้าเห็นแก่ความสามัคคีปรองดองอย่างจริงใจ แต่ยอมรับว่า ยังมีคนประมาณ 200-300 คน ถูกจับกุมคุมขัง ถูกดำเนินคดีในศาล คนเหล่านี้รักชาติ ไม่ว่าจะกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกลุ่มนปช. คนไม่เกิน 300 คนนี้ต่างหาก ที่ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองจะดำเนินการอย่างไรกับเขา ให้จบๆ โดยไม่ต้องเอาคนทั้งประเทศมาตั้งขบวนปะทะกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (1 ก.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. จะเปิดการแถลงข่าวถึงท่าทีที่เกี่ยวกับเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะมีการพิจารณาในสภาวันที่ 7 ก.ค.นี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (30 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคได้เรียกประชุมคณะกรรมการยุทศาสตร์และประชาสัมพันธ์ เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ก่อนจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวันที่ 7 ก.ค.นี้
ภายหลังการประชุม นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน โดยมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้ กทม.และปริมณฑล ซึ่งมีการปลุกระดมประชาชน ให้ออกมาชุมนุมต่อต้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะมีการพิจารณาในสภาวันที่ 7 ก.ค.นี้
พรรคฯขอยืนยันว่า ในการเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะเป็นพิจารณากระทู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีการลักไก่พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ขณะที่การประชุมสภาในวันที่ 7ส.ค. จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีสอดไส้เอาร่าง พ.ร.บ.ฉบับอื่นเข้ามาร่วมพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ฉบับของนายวรชัย มีเนื้อหาเป็นการช่วยเหลือประชาชนจากการชุมนุมของทุกสีเสื้อทุกกลุ่มตั้งแต่การรัฐประหารปี 49 โดยร่างพ.ร.บ.นิรโทษฉบับนายวรชัย ไม่ได้มีส่วนใดช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือแกนนำ หรือผู้สั่งการ แต่อย่างใด
สำหรับการจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาช่วยควบคุมสถานการณ์นั้น หากมีการชุมนุมที่เกินเลย หรือผิดกฎหมาย หน่วยงานด้านความมั่นคงก็จะเป็นผู้เสนอให้ใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อเป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ เหมือนอดีตที่ผ่านมาซึ่งก็ได้ใช้กับการชุมนุมของม็อบอพส. ของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย
** "เหลิม"เตือนอย่าประมาทปชป.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงนี้ ว่า ได้ติดตามดูรายการที่พรรคประชาธิปัตย์ผ่าความจริง ฟังมาสองสัปดาห์ติดต่อกันแล้ว เข้ม เด็ดขาด ชัดเจน หลายคนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ตนรู้จักกันดี ไม่เคยมีพฤติกรรมอย่างนี้ก็แสดงออกชัด งานนี้เรียกว่าเปิดหน้าเล่น ทั้งที่ในอดีตอาจจะหลบๆ ซ่อนๆ แต่คราวนี้เปิดเลย แตกหักเป็นแตกหัก ตายเป็นตาย เพราะพรรคประชาธิปัตย์จัดเต็ม จัดหนัก
" ผมไม่กล้าวิเคราะห์ว่า จะมีผู้ชุมนุมมา 5 -6 พันคน เพราะ ส.ก.และส.ข. ของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. ร้อยละ 70 ส.ส.ร้อยละ 80 ขึ้น ผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ เขาจะเอาคนมาเท่าไรก็ได้ เว้นแต่เขาจะเอาหรือไม่ ที่บอก 5 พันคนอย่าไปวิเคราะห์ อายเขา แค่ส.ก.และ ส.ข.ของเขาในกทม.เดินทางนิดเดียว 15 นาทีมาแล้ว และส.ส.ของเขาร้อยละ 80 ที่สำคัญที่สุด เขาเป็นผู้ว่าฯกทม. มาแล้วย่างปีที่ 11 จะเป็นไปได้อย่างไร 5 พันคน แค่บางซื่อก็เกินแล้ว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
“ผมพูดอะไรไม่เคยผิด ผมยังห่วงเรื่ององค์กรอิสระ ผมกลัว เพราะถ้าผัวะ ได้เสียเลย แต่ไม่ถึงกับซ้ำรอยปี 49 เพราะการเมืองไม่พัฒนาไปถึงขั้นนั้น กองทัพเขาไม่ยุ่ง แต่จะเป็นอย่างไรต้องถามหน่วยข่าว เพราะผมเป็นจับกัง 1” รมว.แรงงงาน กล่าว
** เล็งประกาศพ.ร.บ.มั่นคง วันที่ 6 ส.ค.
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.) กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมช่วงเดือนส.ค.ว่า ที่ประชุมได้มีการประเมินสถานการณ์ร่วมกันและจะเสนอผลการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ต่อที่ประชุม ครม. พิจารณาในวันนี้ ( 31 ก.ค.) ซึ่งจะเป็นการประชุมครม.ชุดเล็ก ที่มีนายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ในเวลา 12.00 น.
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มจะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ใช่หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องนี้
ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมนั้น ในช่วงแรกอาจจะยังไม่มาก แต่อาจจะมีพัฒนาการมากขึ้น โดยคาดว่าการเริ่มชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ และขณะนี้มีผู้ชุมนุมบางส่วนเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อชุมนุมแล้ว จึงต้องมีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ลุกลาม และขยายตัวออกไป
เมื่อถามว่าจะมีการลุกลามบานปลายหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า หากมีการระงับยับยั้ง บรรเทาเสียก่อน ก็จะไม่บานปลาย ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็จะประกาศเฉพาะจุดเท่านั้น และเป็นห้วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 1 สัปดาห์
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย กับหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางแกนนำพรรคชุดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้เชิญ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสมช. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมถึงฝ่ายกองทัพ มาหารือ โดยใช้เวลาตลอดทั้งวัน พูดคุยและประเมินสถานการณ์รับมือการชุมนุม โดยในวงหารือ มีการประเมินกันว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก่อนหรือหลังที่ม็อบจะมา นั้น จะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ทางฝ่ายการเมืองเสนอให้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก่อนที่ม็อบจะมา เพื่อให้นำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันที่ 30 ก.ค.เลย
แต่แนวคิดของฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.ต.อ.ประชา ไม่เห็นด้วย โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เอาอยู่ คุยกับตำรวจแล้ว ได้รับการยืนยันว่า รับมือได้ และเห็นว่าหากประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็ควรจะประกาศประมาณวันที่ 6 ส.ค. ก่อนประชุมสภา เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันพุธที่ 7 ส.ค. ที่คาดการณ์กันว่าจะมีม็อบมาชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภา เพราะเป็นห่วงว่ารัฐบาลจะถูกโจมตีว่าตื่นเต้นเกินไปหรือ ทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้ง เรายังไม่รู้เลยว่าม็อบจะมาจริงหรือไม่ มาจำนวนเท่าไร
**"เติ้ง"หนุนใช้กม.มั่นคงฯจัดการม็อบ
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า วันนี้ (31ก.ค.) จะมีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องนิรโทษกรรม แต่ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาล 3-4 พรรคแล้ว ก็ยืนยันว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย จะไม่มีการแปรญัตติ และ เห็นด้วยที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง มาเพื่อป้องกันไว้ก่อน เฉพาะบางพื้นที่ ถ้าเหตุเกิดขึ้นก็สามารถใช้ได้ทันที เป็นการป้องกันไว้ก่อน เชื่อว่าสามารถคุมสถานการณ์ได้
** นายกฯปัดความรับผิดชอบไม่ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ว่า ตนถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลตัดสินใจแล้วว่า อยากทำเรื่องนี้ และตามแผนเดิมคือ นายกฯต้องพยายามทำตัวให้ห่างที่สุด แต่ความจริงคือจะบอกไม่ได้ว่านายกฯไม่รู้ หรือไม่ได้ตัดสินใจ เพราะนายกฯรู้แล้ว ตัดสินใจแล้ว ว่าต้องการทำงานนี้ ดังนั้นนายกฯจึงหนีความรับผิดชอบไม่พ้น
“จะอ้างความปรองดองไม่ได้ เพราะผมยังไม่เห็นมีความปรองดองตรงไหนจากกฎหมายของนายวรชัย ขนาดรัฐบาลคิดถึงขั้นจะต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์สงบเรียบร้อยดี มันก็เป็นตัวบ่งบอกอยู่แล้วว่า กฎหมายนี้ไม่ได้สร้างปรองดอง มีแต่สร้างความขัดแย้ง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
**วิปค้านไม่รับหลักการ ร่าง นิรโทษฯ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้าน ว่า ที่ประชุมหารือเรื่องที่สภา จะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยจากการตรวจสอบในวาะรการประชุมพบว่า ขณะนี้มีทั้งหมด 7 ฉบับ โดย 4 ฉบับแรก เป็น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ค้างอยู่ในสภาฯ และอีก 2 ฉบับเป็น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ และนายนิยม วรปัญญา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และฉบับที่ 3 เป็น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่่บำรุง รมว.แรงงาน
แต่ขณะนี้มีแนวโน้มว่า ฝ่ายรัฐบาลจะนำร่างกฎหมายของ นายวรชัย และ นายนิยม เข้าสู่สภาฯ โดยการเลื่อนฉบับของนายวรชัย ขึ้นมาเป็นวาระแรกตั้งแต่สมัยการประชุมที่แล้ว ซึ่งหาสภาฯ พิจารณาทั้ง 2 ฉบับนั้น วิปฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการกฎหมายดังกล่าว เพราะ เป็นกฎหมายทำลายระบบนิติรัฐ หลักนิติธรรมของประเทศ เป็นการนิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้ผู้ทำผิดในคดีก่อการร้าย การเผาสถานที่ราชการ เอกชน และการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ถ้ากฎหมายฉบับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ จะเป็นหัวเชื้อนำไปสู่การนิรโทษกรรมแบบยกเข่ง หรือสุดซอยได้ ซึ่งการนิรโทษกรรมแบบยกเข่งได้ ไม่ได้นำประเทศสู่ความปรองดองตามที่รัฐบาลโฆษณา และกฎหมายฉบับนี้อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ที่ระบุว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน แต่นี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนที่ทำความผิดใกล้เคียงกัน ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายเท่าเทียมกัน
** รัฐบาลโกหกประชาชน สกัดการชุมนุม
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังสั่งให้ข้าราชการท้องถิ่นแต่ละจังหวัด ไปโกหกประชาชนว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะไม่มีการยัดไส้ เพื่อช่วยใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ประชาชนออกมาชุมนุมคัดค้านต่อต้านการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางไปที่ฮ่องกงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และตำรวจ ชี้ชัดว่าภารกิจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งมาคือ การเดินหน้าเรื่องนี้อย่าเต็มที่ ทำให้รัฐบาลต้องเรียกรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมด สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ฝ่ายความมั่นคง และข้าราชการประชุมอย่างเอิกเกริก เพราะหวาดผวากับการชุมนุมของประชาชนที่จะมีขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยกลัวว่าผู้ชุมนุมจะมีพฤติกรรมเหมือนคนเสื้อแดงเคยทำ ที่มีการบุกสภาในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
**“ม๊อบนางเลิ้ง”ขู่รัฐสกัดมวลชนเจอม.157
นายไทกร พลสุวรรณ เสนาธิการร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่าขณะนี้รัฐบาล มีคำสั่งลับไปยัง กระทรวงมหาดไทย คมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สั่งเจ้าหน้าที่สกัดกั้นประชาชน ไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ จึงขอแจ้งไปยังผู้ที่จะปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวว่า หากกระทำตามคำสั่งจะถือเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะการขัดขวางการชุมนุมถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 34 ที่ให้สิทธิเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่ มาตรา 45 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มาตรา 62 บุคคลย่อมมีสิทธิในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานของรัฐ และ เจ้าหน้าที่ของรัฐ มาตรา 63 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และ มาตรา 70 บุคคลมีหน้าที่ พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และหากมีการสกัดกั้น ก็จะแจ้งความดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานดังกล่าว ตั้งแต่ผู้ออกคำสั่ง จนถึงผู้ปฏิบัติงาน
"ตนจะยื่นหนังสือชี้แจงกับสถานทูตต่างๆ ทั้งประเทศ สหรัฐอเมริกา จีน กลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศสำคัญๆต่างๆ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงและเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการชุมนุม นายไทกร กล่าวว่า การชุมนุมยังมีกำหนดการเดิมใน วันที่ 4 ส.ค. นี้ แต่สถานที่ และเวลา ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอยืนยันว่าจะไม่มีการยึดสถานที่ราชการ ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อ หรือไปที่หน้ารัฐสภา ในวันที่ 7 ส.ค. ที่จะมี การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
**ถามนายกฯถ้านองเลือดจะรับผิดชอบอย่างไร
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย กำลังจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกในสังคมขึ้นอีกครั้ง ผลของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ขนาดยังไม่ได้พิจารณาในสภา ก็ส่อเค้าการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ในสังคมไทยขึ้นอีกครั้ง จึงเป็นไปได้ว่า ถ้ามีการพิจารณาในสภาฯจริงๆ โอกาสเกิดความขัดแย้งรุนแรงในสังคมจะมีสูงมาก ซึ่งตนมีคำถาม 5 ข้อ ต่างกับ พ.ร.บ.ฉบับนายวรชัย เหมะ ดังนี้
1. นิยาม ของคำว่าแกนนำ หรือผู้มีอำนาจตัดสินใจ และคำว่า ประชานผู้บริสุทธิ์ รวมความถึงใคร พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำนปช. ด้วยหรือไม่ ใครมีอำนาจตีความ ถ้าบอกว่าอำนาจตีความคือศาล แล้วจะนิรโทษกรรมไปทำไม ก็ควรขึ้นสู่ศาลให้หมดทุกคดี
2. ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มุ่งหมายนิรโทษให้กับคดีก่อการร้าย ก่อจลาจล เผาห้าง เผาศาลากลาง ซึ่งเป็นคดีอาญาร้ายแรง และรวมคดีหมิ่นสถาบันฯ ตาม มาตรา 112 ด้วยหรือไม่ อย่าหลบเลี่ยง และเบี่ยงบาลีด้วยการใช้คำว่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และแกนนำ หรือ ผู้มีอำนาตัดสินใจ
3. พรรคเพื่อไทย และ นปช. บอกมาตลอดว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นไปโดยสงบ ไม่มีอาวุธ แล้วทำไมไม่พิสูจน์ความสุจริตใจ และ"ความจริง" ซึ่งเป็นหัวใจของการปรองดอง จะนิรโทษทำไม คนเสื้อแดงไม่พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจลาจลเผาบ้าน เผาเมือง ใช่หรือไม่
4. ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นแค่จุดตั้งต้นหรือปากซอย เพื่อไปสุดซอย หรือทะลุซอย เอานายใหญ่กลับบ้านอย่างเท่ๆ ใช่หรือไม่ เพราะสุดท้ายในขั้นแปรญัตติ ก็จะรวมสาระสำคัญ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย
5. พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ก็รู้ดีว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีความล่อแหลม ละเอียดอ่อน มีประชาชนคัดค้านในวงกว้าง เป็นเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้า และวิกฤติการเมืองได้อีกครั้ง ถ้าเกิดเหตุนองเลือดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรับผิดชอบอย่างไร
** "อุทัย"วอนพท.ถอนญัตติกม.ปรองดอง-นิรโทษ
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตรมว.ยุติธรรม ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกเรื่องความปรองดองแห่งชาติ ส่งถึงประชาชน ส.ส.- ส.ว. คณะรัฐมนตรี ผู้พิพากษา และตุลาการ มีใจความโดยสรุปว่า มีความจำเป็นใดที่จะเสนอให้มันเกิดเรื่องขึ้นมาได้โปรดอย่าทำได้ไหม ถอนญัตติทั้ง 2 รูปแบบออกจากสภาฯเสีย ถ้าเห็นแก่ความสามัคคีปรองดองอย่างจริงใจ แต่ยอมรับว่า ยังมีคนประมาณ 200-300 คน ถูกจับกุมคุมขัง ถูกดำเนินคดีในศาล คนเหล่านี้รักชาติ ไม่ว่าจะกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกลุ่มนปช. คนไม่เกิน 300 คนนี้ต่างหาก ที่ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองจะดำเนินการอย่างไรกับเขา ให้จบๆ โดยไม่ต้องเอาคนทั้งประเทศมาตั้งขบวนปะทะกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (1 ก.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. จะเปิดการแถลงข่าวถึงท่าทีที่เกี่ยวกับเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะมีการพิจารณาในสภาวันที่ 7 ก.ค.นี้
