ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.ชี้ปีหน้ามีกำลังการผลิตปิโตรเลียมเพิ่ม 8-10%จากปีนี้เฉลี่ย 3.4 แสนบาร์เรล/วัน โดยมีกำลังผลิตใหม่เพิ่มขึ้นจากแหล่งมอนทาราและเอ็ม 9 คาดโครงการออยล์ แซนด์ที่แคนาดาจะเริ่มมีกำไรในปี 57 หากราคาน้ำมันWTI สูงเหนือ 100 เหรียญฯ/บาร์เรล เผย 3ปีแบกขาดทุนสะสม 100 ล้านเหรียญฯ
นายอัษฎากร ลิ้มปิติ รองกรรมการผู้ตัดการใหญ่ กลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(ปตท.สผ.) เปิดเผยว่าในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะมีกำลังการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 8-10%จากปีนี้ที่มีกำลังผลิตเฉลี่ย 3.4 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาเพิ่มทั้งแหล่งมอนทาราในออสเตรเลีย ที่คาดว่าปีหน้าจะมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่้นบาร์เรล/วันจากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 1 หมื่นกว่าบาร์เรล/วัน และเดือนส.ค.นี้จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 หมื่นบาร์เรล/วัน และแหล่งซอติก้า (M 9) ที่พม่า กำลังการผลิต 300 ล้านลบ.ฟุต/วันคาดว่าจะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติได้เม.ย. 57 โดยจำหน่ายให้กับพม่า 60 ล้านลบ.ฟุต/วัน และไทย 240 ล้านลบ.ฟุต/วัน
ทั้งนี้ แหล่งมอนทาราได้เริ่มผลิตน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์เมื่อกลางเดือนก.ค.ที่่ผ่านมา หลังจากล่าช้ามาหลายปี เนื่องจากเกิดปัญหาเพลิงไหม้และน้ำมันรั่วไหลจากแหล่งผลิตมอนทาราเมื่อปี 2552 ทำให้ต้องเลื่อนการผลิตเชิงพาณิชย์มาโดยตลอด
นายอัษฎากร กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยการลงทุนในแหล่งออยล์ แซนด์เคเคดี ที่แคนาดาไปทีละเฟส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความคุ้มทุนในโครงการหรือไม่ โดยยอมรับว่าตลอดช่วง 3 ปีที่บริษัทฯได้เข้าไปร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนหุ้น 40 % ประสบปัญหาการขาดทุนมาโดยตลอด โดยมีตัวเลขขาดทุนสะสมตามสัดส่วนหุ้นของปตท.สผ.แล้ว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) ปรับตัวอยู่สูงเหนือ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และหักมาร์จินลดลงจากเดิม 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเหลือเพียง 18-20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ Net Cash เริ่มเป็นบวก คาดว่าปีหน้าโครงการออยล์ แซนด์น่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้
โครงการออยล์ แซนด์เคเคดี จะมีการลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในแหล่งLeismer เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตบิทูเมนจาก 1.8 หมื่นบาร์เรล/วัน จะเพิ่มขึ้นอีก 2 หมื่นบาร์เรล/วันแล้วเสร็จในปี 2559 และแหล่งCorner จะมีกำลังการผลิต 4 หมื่นบาร์เรล/วันในปี 2561
ส่วนแหล่งมอนทาราคาดว่าปีหน้าจะเริ่มมีกำไรจาการผลิตน้ำมันดิบ แม้ว่ามีการตัดค่าเสื่อมราคาค่อนข้างสูงก็ตาม หากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง แหล่งมอนทาราปริมาณสำรองปิโตรเลียมพิสูจน์แล้วอยู่ที่ประมาณ 30-32 ล้านบาร์เรล และมีอัตราผลตอบแทนการลงทุนต่ำ ซึ่งขณะนี้ได้มีการทยอยสำรวจปิโตรเลียมเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียง 20 บล็อก คาดว่าจะประสบความสำเร็จประมาณ 20%เท่านั้น
นายอัษฎากร กล่าวถึงกรณีที่รัฐจะเปิดให้สัมปานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ว่า บริษัทฯสนใจเข้ายื่นขอสัมปทาน เนื่องจากแหล่งสัมปทานนี้อยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีศักยภาพที่จะพบก๊าซฯแม้ว่าจะเป็นแหล่งปิโตรเลียมที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้มีการลงทุนค่อนข้างสูง หากรัฐมีการเรียบเก็บค่าภาคหลวงและผลคอบแทนที่ไม่สูงมากนักหรือเหมือนเดิมก็น่าจะดึงดูดนักลงทุน
นายอัษฎากร ลิ้มปิติ รองกรรมการผู้ตัดการใหญ่ กลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(ปตท.สผ.) เปิดเผยว่าในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะมีกำลังการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 8-10%จากปีนี้ที่มีกำลังผลิตเฉลี่ย 3.4 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาเพิ่มทั้งแหล่งมอนทาราในออสเตรเลีย ที่คาดว่าปีหน้าจะมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่้นบาร์เรล/วันจากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 1 หมื่นกว่าบาร์เรล/วัน และเดือนส.ค.นี้จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 หมื่นบาร์เรล/วัน และแหล่งซอติก้า (M 9) ที่พม่า กำลังการผลิต 300 ล้านลบ.ฟุต/วันคาดว่าจะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติได้เม.ย. 57 โดยจำหน่ายให้กับพม่า 60 ล้านลบ.ฟุต/วัน และไทย 240 ล้านลบ.ฟุต/วัน
ทั้งนี้ แหล่งมอนทาราได้เริ่มผลิตน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์เมื่อกลางเดือนก.ค.ที่่ผ่านมา หลังจากล่าช้ามาหลายปี เนื่องจากเกิดปัญหาเพลิงไหม้และน้ำมันรั่วไหลจากแหล่งผลิตมอนทาราเมื่อปี 2552 ทำให้ต้องเลื่อนการผลิตเชิงพาณิชย์มาโดยตลอด
นายอัษฎากร กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยการลงทุนในแหล่งออยล์ แซนด์เคเคดี ที่แคนาดาไปทีละเฟส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความคุ้มทุนในโครงการหรือไม่ โดยยอมรับว่าตลอดช่วง 3 ปีที่บริษัทฯได้เข้าไปร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนหุ้น 40 % ประสบปัญหาการขาดทุนมาโดยตลอด โดยมีตัวเลขขาดทุนสะสมตามสัดส่วนหุ้นของปตท.สผ.แล้ว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) ปรับตัวอยู่สูงเหนือ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และหักมาร์จินลดลงจากเดิม 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเหลือเพียง 18-20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ Net Cash เริ่มเป็นบวก คาดว่าปีหน้าโครงการออยล์ แซนด์น่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้
โครงการออยล์ แซนด์เคเคดี จะมีการลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในแหล่งLeismer เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตบิทูเมนจาก 1.8 หมื่นบาร์เรล/วัน จะเพิ่มขึ้นอีก 2 หมื่นบาร์เรล/วันแล้วเสร็จในปี 2559 และแหล่งCorner จะมีกำลังการผลิต 4 หมื่นบาร์เรล/วันในปี 2561
ส่วนแหล่งมอนทาราคาดว่าปีหน้าจะเริ่มมีกำไรจาการผลิตน้ำมันดิบ แม้ว่ามีการตัดค่าเสื่อมราคาค่อนข้างสูงก็ตาม หากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง แหล่งมอนทาราปริมาณสำรองปิโตรเลียมพิสูจน์แล้วอยู่ที่ประมาณ 30-32 ล้านบาร์เรล และมีอัตราผลตอบแทนการลงทุนต่ำ ซึ่งขณะนี้ได้มีการทยอยสำรวจปิโตรเลียมเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียง 20 บล็อก คาดว่าจะประสบความสำเร็จประมาณ 20%เท่านั้น
นายอัษฎากร กล่าวถึงกรณีที่รัฐจะเปิดให้สัมปานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ว่า บริษัทฯสนใจเข้ายื่นขอสัมปทาน เนื่องจากแหล่งสัมปทานนี้อยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีศักยภาพที่จะพบก๊าซฯแม้ว่าจะเป็นแหล่งปิโตรเลียมที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้มีการลงทุนค่อนข้างสูง หากรัฐมีการเรียบเก็บค่าภาคหลวงและผลคอบแทนที่ไม่สูงมากนักหรือเหมือนเดิมก็น่าจะดึงดูดนักลงทุน
