ธปท.เตรียมนำธนบัตรชนิด 20 บาทแบบใหม่ออกใช้ คาดเริ่ม 1 เม.ย.นี้ โดยแนวคิดการออกธนบัตรแบบใหม่เพื่อเฉลิมพระเกียรติพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และทดแทนธนบัตรรูปแบบปัจจุบันที่ใช้มาแล้วกว่า 10 ปี เผยคุณสมบัติพิเศษเพิ่มสัญลักษณ์สำหรับผู้มีความบกพร่องทางสายตา โดยพิมพ์เลข 2 ในอักษรเบรล ส่วนธนบัตรเดิมคาดใช้เวลาเก็บหมดใน 1 ปี ด้านปัญหาแบงก์ปลอมเริ่มอยู่ในภาวะทรงตัว แต่ยังแพร่ระบาดแถบจังหวัดชายแดน
นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวเตรียมนำธนบัตรชนิดราคา 20 บาท แบบใหม่ออกใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ โดยแนวคิดการออกธนบัตรแบบใหม่เพื่อเฉลิมพระเกียรติพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และทดแทนธนบัตรรูปแบบปัจจุบันที่ใช้มาแล้วกว่า 10 ปี
สำหรับธนบัตรรุ่นใหม่ ได้พัฒนา และปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้มีรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย มีความเป็นสากลมากขึ้น และได้นำเทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงแบบใหม่มาใช้ เพื่อให้ประชาชนผู้มีความบกพร่องทางสายตา รวมทั้งการตรวจสอบด้วยเครื่องจักรนับคัดธนบัตร และเครื่องรับธนบัตรอัตโนมัติสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น โดยธนบัตรชนิดราคา 20 บาทแบบใหม่ (แบบ 16) มีขนาด และสีเช่นเดียวกับแบบที่ใช้ในแบบปัจจุบัน (แบบ 15) มีขนาดกว้าง 72 มิลลิเมตร ยาว 138 มิลลิเมตร และสีโดยรวมเป็นสีเขียว
ส่วนลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.ลายน้ำพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน และลายน้ำตัวเลขไทย “๒๐” ที่มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อส่องดูกับแสงสว่าง 2.แถบสีเขียวที่ฝังไว้ในเนื้อกระดาษธนบัตรตามแนวยืน ปรากฏให้เห็นเป็นระยะที่ด้านหลังธนบัตรสามารถเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงแดงเมื่อเปลี่ยนมุมมอง
3.ภาพซ้อนทับตัวเลข 20 พิมพ์แยกไว้บนด้านหน้า และด้านหลัง เมื่อยกธนบัตรส่องดูกับแสงสว่างจะเห็นตัวเลข 20 ที่สมบูรณ์ 4.ลายพิมพ์นูนที่ตัวอักษร และตัวเลขแจ้งราคา เมื่อใช้ปลายนิ้วลูบสัมผัสจะรู้สึกสะดุด นอกจากนี้ ยังมีสัญลักษณ์สำหรับผู้มีความบกพร่องทางสายตาเป็นรูปดอกไม้สีเขียวเข้มในแนวตั้ง 2 ดอก มาจากตัวเลข 2 ในอักษรเบรล ทั้งนี้ ธนบัตรชนิดราคา 20 บาทแบบใหม่นี้สามารถแลกได้ที่สาขาธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งทั่วประเทศ ส่วนธนบัตรที่ใช้ในแบบปัจจุบัน และแบบที่ใช้ก่อนหน้านี้ยังคงชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
นางทองอุไร กล่าวอีกว่า ธนบัตรชนิดราคา 20 บาท มีหมุนเวียนอยู่ในระบบ 1,400 ล้านฉบับ จากธนบัตรทั้งหมดที่หมุนเวียนในระบบ 4,000 ล้านฉบับ โดยธนบัตรชนิดราคา 20 บาท แบบใหม่ล็อตแรกจะออกมาใช้หมุนเวียนในระบบประมาณ 200 ล้านฉบับ และจะทยอยออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงจะเข้าไปทดแทนธนบัตรรุ่นเก่าได้ทั้งหมด พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการขาดแคลนธนบัตรชนิดราคา 20 บาทอย่างแน่นอน โดยต้นทุนธนบัตรชนิดราคา 20 บาท อยู่ที่ 80 สตางค์ต่อฉบับ จากต้นทุนธนบัตรเฉลี่ยที่ 1.20 บาท
นอกจากนี้ นางทองอุไร กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2555 ธปท.ได้ประกาศเปลี่ยนแบบธนบัตรใหม่ออกใช้หมุนเวียนแทนธนบัตรแบบปัจจุบันทั้ง 5 ชนิดราคา โดยเริ่มจากธนบัตรชนิดราคา 50 บาท เมื่อปี 2555 ตามมาด้วย ชนิดราคา 20 บาทในปีนี้ ส่วนสาเหตุที่ ธปท.เลือกนำธนบัตรชนิดราคา 50 บาท และ 20 บาท ประกาศใช้ก่อนธนบัตรชนิดราคาอื่นๆ เนื่องจากธนบัตรชนิดราคาดังกล่าวไม่ได้ใช้ในเครื่องเอทีเอ็มจึงมีผลกระทบต่อระบบการเงิน และประชาชนน้อย
นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธปท. กล่าวถึงปัญหาการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอม โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ในภาวะทรงตัว โดยจะพบธนบัตรปลอม 2 ฉบับใน 1 ล้านฉบับที่หมุนเวียนในระบบ โดยจะพบมากตามจังหวัดชายแดนที่มีบ่อนการพนัน ซึ่งส่วนใหญ่จะพบการปลอมธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาทมากที่สุด เพราะจะคุ้มกับค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ก็พบธนบัตรชนิดราคา 50 บาท มีการปลอมมากเช่นกัน แต่หลังจากที่ ธปท. ออกธนบัตร 50 บาทใหม่ ที่มีการปลอมแปลงยากขึ้น ส่งผลให้การปลอมน้อยลง ทั้งนี้ ธปท.ขอให้ประชาชนใช้หลักการสังเกตเบื้องต้น คือ วิธีสัมผัส ยกส่อง และพลิกเอียงในการตรวจสอบธนบัตร
