xs
xsm
sm
md
lg

กนง.คงดอกเบี้ย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ตามคาด! กนง.ประกาศคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3%ต่อปี ด้วยมติไม่เป็นเอกฉันท์ 3 ต่อ 2 เสียง ให้เหตุผลเศรษฐกิจโลกอ่อนแอกว่าที่คาดกระทบส่งออกและการเบิกจ่ายด้านการคลังที่ล่าช้า แต่อุปสงค์ในประเทศของภาคเอกชนแรงดีอยู่ สั่งจับตาสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย หลังขยายตัวสูงผิดปกติ และคาดปีหน้า เศรษฐกิจไทยลดลงต่ำกว่า 5%

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้(5 ก.ย.) ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ 3%ต่อปี ด้วยเสียง 3 ต่อ 2 เสียง โดยมติเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยชะลอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนค่อนข้างน้อยและล่าช้ากว่าที่ธปท.ประมาณการณ์ไว้ แต่อุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน แรงกระตุ้นด้านการคลังยังดีอยู่
“การผ่อนคลายนโยบายการเงินในขณะนี้ไม่สามารถชดเชยการส่งออกชะลอตัวและการเบิกจ่ายด้านการคลังที่ล่าช้า และการกระตุ้นอุปสงค์ที่สูงอยู่แล้วอาจจะเกิดผลเสียได้ อีกทั้งปัจจุบันเศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับที่น่าพอใจอยู่แล้ว ถือว่าใกล้เคียงศักยภาพและตัวเลขไม่ต่างจากเดิมที่ประมาณการไว้ จึงควรระมัดระวังในการใช้นโยบายการเงินเพิ่มเติม
แต่ควรใช้สนับสนุนเศรษฐกิจในภาวะเกิดความจำเป็นอนาคตดีกว่า ดังนั้น ขณะนี้ภาวะการเงินยังผ่อนปรนเหมาะสมกับเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า”ความเห็นของกรรมการเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม
นอกจากนี้ข้อสังเกตสำคัญอย่างหนึ่ง กรรมการบางท่านได้หยิบยกขึ้นมา คือ ช่วงนี้สถาบันการเงินมีการแข่งขันค่อนข้างสูง สินเชื่อขยายตัวมาก ซึ่งมีแรงผลักดันจากด้านดีมานส์และซัพพลาย รวมไปถึงการแข่งขันระดมเงินฝากที่มีความเข้มข้น การใช้นโยบายการเงินผ่อนปรนมากขึ้นด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายไม่น่าส่งผลให้สถาบันการเงินลดดอกเบี้ยตาม
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเกรงว่าจะเป็นการเปลืองกระสุนได้ ทำให้การลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลเต็มที่นัก
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ บอร์ด กนง.เห็นว่าสินเชื่อเติบโตค่อนข้างสูงสะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ในประเทศที่มีแรงส่งที่ดีอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถรองรับการชะลอการส่งออกและส่ง ผ่านมายังอุปสงค์ในประเทศในระยะต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม กำชับให้ธปท.เฝ้าติดตามการขยายตัวสินเชื่อที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน พบว่า สินเชื่อโดยรวมขยายตัวสูงทั้งเกิดจากภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเป็นสำคัญ โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีหลายส่วนขยายตัวค่อนข้างมากผิดปกติทั้งในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อที่ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง ซึ่งกรรมการบางท่านตั้งข้อสังเกตว่าอย่างสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวสูงถึง 31%
ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจไทยในขณะนี้ก่ำกึ่งระหว่างปัจจัยบวกและปัจจัยลบ โดยปัจจัยบวกที่ดีต่อเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ เศรษฐกิจจริงของไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ออกมาสูงกว่าที่หลายสำนักคาดการณ์ไว้ อีกทั้งแรงส่งอุปสงค์ในประเทศ แม้ด้านต่างประเทศและด้านการคลังชะลอตัว แต่เมื่อหักลบกลบกันแล้ว ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังไม่ต่างกับที่ธปท.ประมาณการไว้ แต่ปีหน้าภาพเศรษฐกิจอ่อนตัวกว่าเดิมที่ธปท.ประเมินไว้ ความเห็นแตกต่างเรื่องประสิทธิภาพการใช้นโยบายการเงิน ซึ่งในส่วนของกรรมการ 2 เสียงให้มีมติคงดอกเบี้ยไว้ โดยให้น้ำหนักผลกระทบเศรษฐกิจโลกต่อการส่งออกและเศรษฐกิจในประเทศมากกว่า และในการประชุมครั้งนี้กรรมการ 2 ท่านติดภาระกิจที่ต่างประเทศ คือ นายศิริ การเจริญดี และนายอัศวิน คงสิริ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธปท.ได้ประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดในรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อประจำเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าปี 55 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 5.7% และปี 56 เศรษฐกิจไทยขยายตัวลดลงเหลือ 5% ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มองว่าปีหน้าภาพรวมเศรษฐกิจไทยแผ่วลงกว่าที่ประมาณการ นอกจากนี้ ในการนี้นางทองอุไร ลิ้มปิติ ได้นั่งเป็นกรรมการในบอร์ด กนง.ครั้งแรก แทนนายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ที่ไปนั่งผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก.
กำลังโหลดความคิดเห็น