จับตาสินค้าจ่อขึ้นราคาอีกระลอก "กกร."ขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นปี เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน พร้อมเบรกน้ำตาลทราย ซีอิ้ว นมสดพร้อมดื่มขึ้นราคา ยันต้นทุนขึ้นเล็กน้อย เล็งจัดธงฟ้าทั่วประเทศจำหน่ายสินค้าราคาถูก ส่วนขึ้นก๊าซหุงต้ม กระทบจานด่วนเล็กน้อย อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้พิจารณาแนวโน้มสถานการณ์ราคาสินค้า พบว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ต้นทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น จนกระทบกับต้นทุนการผลิต จึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการดูแลราคาสินค้า โดยจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าไปจนถึงสิ้นปี เพื่อดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยกรมการค้าภายใน จะทำหนังสือไปยังผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือต่อไป
ส่วนกรณีที่มีสินค้ายื่นขอปรับราคาเข้ามายังกรมการค้าภายใน 3 รายการ ได้แก่ น้ำตาลทรายบรรจุถุง ซีอิ้ว และนมสดพร้อมดื่ม โดยอ้างเหตุผลเรื่องต้นทุนเพิ่มขึ้นนั้น ได้มีการพิจารณาแล้วพบว่าต้นทุนขึ้นเพียงเล็กน้อย สามารถใช้การบริหารจัดการภายในดูแลต้นทุนสินค้าได้ จึงจะขอความร่วมมือตรึงราคาไปจนถึงสิ้นปีเช่นเดียวกัน แต่หากรายการไหนต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากจนแบกรับภาระไม่ไหวจริงๆ ก็พร้อมที่จะพิจารณาให้เป็นรายๆ ไป
นอกจากนี้ ยังขอให้ดำเนินการจัดโครงการลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยใช้โครงการธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูกทั่วประเทศ ให้ประสานงานกับห้างค้าปลีกในการจัดสินค้าราคาพิเศษขายให้กับประชาชน และให้ติดตามความเคลื่อนราคาสินค้าในตลาด หากเห็นว่าสินค้ารายใดมีความเคลื่อนไหวมาผิดปกติ ให้นำมาเสนอเป็นรายการสินค้าควบคุม เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายดูแลต่อไป
สำหรับการปรับขึ้นค่าก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือน ในวันที่ 1 ก.ย.56 ที่อาจจะกระทบต่อต้นทุนอาหารจานด่วน ยืนยันว่ารัฐบาลมีมาตรการในการดูแลผลกระทบจากต้นทุนก๊าซหุงต้มให้กับผู้ค้ารายย่อยแล้ว และการปรับขึ้นก๊าซหุงต้มก็ทยอยปรับ จะไม่กระทบต่อต้นทุนอาหารจานด่วนเพิ่มขึ้นมากนัก จึงได้กำชับให้ตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาอาหารจานด่วนชัดเจน
ทั้งนี้ จะมีมาตรการให้ร้านอาหารธงฟ้าลดราคาขายสินค้าอาหารภายในร้านทุกชนิดลงมาจานละ 5 บาท จากจานละ 25 บาท เหลือจานละ 20 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยกระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวถุงธงฟ้าไปจำหน่ายให้ร้านอาหารธงฟ้าในราคาพิเศษถุง (5 กก.) ละ 70 บาท ช่วยลดต้นทุนให้พร้อมกันนี้ ที่ประชุมกกร.ยังได้มีมติเกี่ยวกับการใช้มาตรการดูแลสินค้าข้าว โดยคงห้ามมิให้มีการขนย้ายข้าวสารบรรจุกระสอบตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไปข้ามจังหวัด ก่อนได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิในโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ของรัฐบาล ยกเว้นข้าวที่บรรจุถุงไม่เกิน 50 กิโลกรัมสามารถเคลื่อนย้ายได้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในที่ประชุม กกร. ได้มีการประเมินสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 โดยสินค้าที่มีแนวโน้มจะปรับราคาสูงขึ้น ได้แก่ อาหารปรุงสำเร็จ เพราะต้นทุนค่าแรงและค่าเช่าสูงขึ้น ซีอิ๊ว วัตถุดิบนำเข้า คือ ถั่วเหลืองมีราคาสูงขึ้น เครื่องแบบนักเรียน น้ำตาลทราย 1 กก. นมสด มีแนวโน้มต้นทุนสูงขึ้นจากต้นทุนค่าแรงปรับขึ้น และก๊าซหุงต้ม กระทรวงพลังงานจะปรับขึ้นราคา 1 ก.ย.2556
จากการสำรวจของASTVผู้จัดการรายวัน พบว่าสินค้าอาอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมานานแล้ว หลังจากที่มีต้นทุนเรื่องค่าแรง 300 บาท/ วัน โดยเฉพาะอาหารจานด่วนในร้านค้าทั่วไปเฉลี่ยจานละ 40-50 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของร้านค้า และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับขึ้นอีกระลอกโดยผู้ค้าส่วนใหญ่จะอ้างว่าต้นทุนก๊าซหุงต้มปรับเพิ่มขึ้นซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นสินค้าไม่ต่ำกว่าจานละ 3-5 บาท ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นไปหมดแล้ว โครงการธงฟ้าที่รัฐบาลจัดทำขึ้นนั้นก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในบางจุดเท่านั้น ส่วนที่ยืนยันไม่ให้ปรับราคาอุปโภคบริโภคนั้นกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถเข้าไปควบคุมผู้ค้าได้ทั้งหมด จะทำได้ก็เพียงขอความร่วมมือจากผู้ค้าในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ซึ่งผู้ค้าให้ความร่วมมือก็จะต้องมีการปรับลดปริมาณหรือคุณภาพลง
นอกจากนี้ อยากให้กระทรวงพาณิชย์ออกตรวจสินค้าต่าง ๆ ที่วางจำหน่ายว่ามีการปรับราคาสินค้าขึ้นไป หรือมีการแอบลดปริมาณการบรรจุให้ลดลง โดยที่ผู้บริโภคไม่รู้ตัว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ควรออกมาตรวจสอบด้วย เพราะต้นทุนสินค้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกชนิดหลังจากมาตรการค่าแรง 300 บาททำให้ผู้ค้าบางรายต้องมีการปิดตัวลง เพราะไม่สามารถปรับตัวอยู่ได้ ร้านอาหารต่าง ๆ จำเป็นต้องขึ้นราคา หากไม่ขึ้นราคาก็ต้องเลิกกิจการไปในที่สุด.
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้พิจารณาแนวโน้มสถานการณ์ราคาสินค้า พบว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ต้นทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น จนกระทบกับต้นทุนการผลิต จึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการดูแลราคาสินค้า โดยจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าไปจนถึงสิ้นปี เพื่อดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยกรมการค้าภายใน จะทำหนังสือไปยังผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือต่อไป
ส่วนกรณีที่มีสินค้ายื่นขอปรับราคาเข้ามายังกรมการค้าภายใน 3 รายการ ได้แก่ น้ำตาลทรายบรรจุถุง ซีอิ้ว และนมสดพร้อมดื่ม โดยอ้างเหตุผลเรื่องต้นทุนเพิ่มขึ้นนั้น ได้มีการพิจารณาแล้วพบว่าต้นทุนขึ้นเพียงเล็กน้อย สามารถใช้การบริหารจัดการภายในดูแลต้นทุนสินค้าได้ จึงจะขอความร่วมมือตรึงราคาไปจนถึงสิ้นปีเช่นเดียวกัน แต่หากรายการไหนต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากจนแบกรับภาระไม่ไหวจริงๆ ก็พร้อมที่จะพิจารณาให้เป็นรายๆ ไป
นอกจากนี้ ยังขอให้ดำเนินการจัดโครงการลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยใช้โครงการธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูกทั่วประเทศ ให้ประสานงานกับห้างค้าปลีกในการจัดสินค้าราคาพิเศษขายให้กับประชาชน และให้ติดตามความเคลื่อนราคาสินค้าในตลาด หากเห็นว่าสินค้ารายใดมีความเคลื่อนไหวมาผิดปกติ ให้นำมาเสนอเป็นรายการสินค้าควบคุม เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายดูแลต่อไป
สำหรับการปรับขึ้นค่าก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือน ในวันที่ 1 ก.ย.56 ที่อาจจะกระทบต่อต้นทุนอาหารจานด่วน ยืนยันว่ารัฐบาลมีมาตรการในการดูแลผลกระทบจากต้นทุนก๊าซหุงต้มให้กับผู้ค้ารายย่อยแล้ว และการปรับขึ้นก๊าซหุงต้มก็ทยอยปรับ จะไม่กระทบต่อต้นทุนอาหารจานด่วนเพิ่มขึ้นมากนัก จึงได้กำชับให้ตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาอาหารจานด่วนชัดเจน
ทั้งนี้ จะมีมาตรการให้ร้านอาหารธงฟ้าลดราคาขายสินค้าอาหารภายในร้านทุกชนิดลงมาจานละ 5 บาท จากจานละ 25 บาท เหลือจานละ 20 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยกระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวถุงธงฟ้าไปจำหน่ายให้ร้านอาหารธงฟ้าในราคาพิเศษถุง (5 กก.) ละ 70 บาท ช่วยลดต้นทุนให้พร้อมกันนี้ ที่ประชุมกกร.ยังได้มีมติเกี่ยวกับการใช้มาตรการดูแลสินค้าข้าว โดยคงห้ามมิให้มีการขนย้ายข้าวสารบรรจุกระสอบตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไปข้ามจังหวัด ก่อนได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิในโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ของรัฐบาล ยกเว้นข้าวที่บรรจุถุงไม่เกิน 50 กิโลกรัมสามารถเคลื่อนย้ายได้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในที่ประชุม กกร. ได้มีการประเมินสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 โดยสินค้าที่มีแนวโน้มจะปรับราคาสูงขึ้น ได้แก่ อาหารปรุงสำเร็จ เพราะต้นทุนค่าแรงและค่าเช่าสูงขึ้น ซีอิ๊ว วัตถุดิบนำเข้า คือ ถั่วเหลืองมีราคาสูงขึ้น เครื่องแบบนักเรียน น้ำตาลทราย 1 กก. นมสด มีแนวโน้มต้นทุนสูงขึ้นจากต้นทุนค่าแรงปรับขึ้น และก๊าซหุงต้ม กระทรวงพลังงานจะปรับขึ้นราคา 1 ก.ย.2556
จากการสำรวจของASTVผู้จัดการรายวัน พบว่าสินค้าอาอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมานานแล้ว หลังจากที่มีต้นทุนเรื่องค่าแรง 300 บาท/ วัน โดยเฉพาะอาหารจานด่วนในร้านค้าทั่วไปเฉลี่ยจานละ 40-50 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของร้านค้า และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับขึ้นอีกระลอกโดยผู้ค้าส่วนใหญ่จะอ้างว่าต้นทุนก๊าซหุงต้มปรับเพิ่มขึ้นซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นสินค้าไม่ต่ำกว่าจานละ 3-5 บาท ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นไปหมดแล้ว โครงการธงฟ้าที่รัฐบาลจัดทำขึ้นนั้นก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในบางจุดเท่านั้น ส่วนที่ยืนยันไม่ให้ปรับราคาอุปโภคบริโภคนั้นกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถเข้าไปควบคุมผู้ค้าได้ทั้งหมด จะทำได้ก็เพียงขอความร่วมมือจากผู้ค้าในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ซึ่งผู้ค้าให้ความร่วมมือก็จะต้องมีการปรับลดปริมาณหรือคุณภาพลง
นอกจากนี้ อยากให้กระทรวงพาณิชย์ออกตรวจสินค้าต่าง ๆ ที่วางจำหน่ายว่ามีการปรับราคาสินค้าขึ้นไป หรือมีการแอบลดปริมาณการบรรจุให้ลดลง โดยที่ผู้บริโภคไม่รู้ตัว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ควรออกมาตรวจสอบด้วย เพราะต้นทุนสินค้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกชนิดหลังจากมาตรการค่าแรง 300 บาททำให้ผู้ค้าบางรายต้องมีการปิดตัวลง เพราะไม่สามารถปรับตัวอยู่ได้ ร้านอาหารต่าง ๆ จำเป็นต้องขึ้นราคา หากไม่ขึ้นราคาก็ต้องเลิกกิจการไปในที่สุด.