นครปฐม - ตำรวจภูธรนครปฐม เผยสถิติการจับกุมยาเสพติดเพิ่มขึ้น แต่ผู้ค้า-ผู้เสพไม่ลดลง ส่งครูตำรวจให้ความรู้นักเรียน ป้องกันและลดจำนวนผู้เสพรายใหม่
วันนี้ (17 ก.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ แจ่มสว่าง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า สถานการณ์ยาเสพติดในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า การแพร่ระบาดยังคงมีอยู่ สถิตการจับกุมสูงขึ้น แต่จำนวนผู้ค้าและผู้เสพยังไม่ลดลง จากการรายงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. พบว่า ยาเสพติดที่ประเทศเพื่อนบ้านผลิตเตรียมไว้มีอยู่ในปริมาณมาก และพร้อมที่จะลำเลียงเข้ามาในประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะจับกุมได้ 10 ล้านเม็ดในวันนี้ ก็จะมีอีก 10 ล้านเม็ดเข้ามาทดแทนทันที
ด้านผู้เสพยายังคงมีจำนวนมาก อีกทั้งผู้เสพรายใหม่มีมากขึ้นเช่นกัน และมีแนวโน้มของอายุผู้เสพที่ลดลง ทำให้ยาเสพติดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหน้าที่หลักของตำรวจ คือ ปราบปราม ขณะเดียวกัน ต้องช่วยบำบัดรักษา และการป้องกันกลุ่มเสี่ยง โดยในส่วนของการบำบัดรักษาได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นำผู้เสพเข้ารับการบำบัด ส่วนการป้องกันกลุ่มเสี่ยง ได้นำครูตำรวจเข้าไปสอน และให้ความรู้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งกำลังจะเข้าสู่วัยเสี่ยง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ระยะเวลา 13 สัปดาห์ เพื่อลดจำนวนผู้เสพรายใหม่ นอกจากนี้ ได้จัดชุดปฏิบัติการไปสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ซึ่งครูตำรวจทุกคนผ่านการอบรมที่ได้มาตรฐานสูง และผ่านการประเมินผลจากการสอนแล้ว ถือว่าได้ผลทุกโรงเรียน
สำหรับการปราบปราม และจับกุมผู้ค้ายาเสพติด จังหวัดซึ่งถือเป็นแหล่งพักยาก่อนที่จะกระจายไปสู่จังหวัดข้างเคียง และลงสู่ภาคใต้ ส่วนใหญ่จะจับกุมได้แต่ผู้ค้ารายย่อย เนื่องจากขณะนี้ผู้ค้ามีการทำงานที่ซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม ระดับนายทุนจะอยู่เบื้องหลัง ห่างจากผู้ค้ารายย่อยมาก จึงต้องใช้ความพยายามติดตามความเชื่อมโยง บางคดีสามารถหาหลักฐานการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ หลักฐานการโอนเงิน และออกหมายจับได้
วันนี้ (17 ก.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ แจ่มสว่าง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า สถานการณ์ยาเสพติดในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า การแพร่ระบาดยังคงมีอยู่ สถิตการจับกุมสูงขึ้น แต่จำนวนผู้ค้าและผู้เสพยังไม่ลดลง จากการรายงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. พบว่า ยาเสพติดที่ประเทศเพื่อนบ้านผลิตเตรียมไว้มีอยู่ในปริมาณมาก และพร้อมที่จะลำเลียงเข้ามาในประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะจับกุมได้ 10 ล้านเม็ดในวันนี้ ก็จะมีอีก 10 ล้านเม็ดเข้ามาทดแทนทันที
ด้านผู้เสพยายังคงมีจำนวนมาก อีกทั้งผู้เสพรายใหม่มีมากขึ้นเช่นกัน และมีแนวโน้มของอายุผู้เสพที่ลดลง ทำให้ยาเสพติดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหน้าที่หลักของตำรวจ คือ ปราบปราม ขณะเดียวกัน ต้องช่วยบำบัดรักษา และการป้องกันกลุ่มเสี่ยง โดยในส่วนของการบำบัดรักษาได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นำผู้เสพเข้ารับการบำบัด ส่วนการป้องกันกลุ่มเสี่ยง ได้นำครูตำรวจเข้าไปสอน และให้ความรู้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งกำลังจะเข้าสู่วัยเสี่ยง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ระยะเวลา 13 สัปดาห์ เพื่อลดจำนวนผู้เสพรายใหม่ นอกจากนี้ ได้จัดชุดปฏิบัติการไปสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ซึ่งครูตำรวจทุกคนผ่านการอบรมที่ได้มาตรฐานสูง และผ่านการประเมินผลจากการสอนแล้ว ถือว่าได้ผลทุกโรงเรียน
สำหรับการปราบปราม และจับกุมผู้ค้ายาเสพติด จังหวัดซึ่งถือเป็นแหล่งพักยาก่อนที่จะกระจายไปสู่จังหวัดข้างเคียง และลงสู่ภาคใต้ ส่วนใหญ่จะจับกุมได้แต่ผู้ค้ารายย่อย เนื่องจากขณะนี้ผู้ค้ามีการทำงานที่ซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม ระดับนายทุนจะอยู่เบื้องหลัง ห่างจากผู้ค้ารายย่อยมาก จึงต้องใช้ความพยายามติดตามความเชื่อมโยง บางคดีสามารถหาหลักฐานการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ หลักฐานการโอนเงิน และออกหมายจับได้
