วันนี้ (23 พ.ค.) ที่สนามโรงเรียนหัวนาคำจรูญวิทย์ ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกันนำชาวบ้านใน ต.อิตื้อ และ ต.โนนสูง อ.ยางตลาด กว่า 2,000 คน ประกาศเจตนารมณ์รวมพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด
พร้อมมอบเข็มพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแก่ผู้ผ่านการอบรมโครงการตำรวจชุมชนสัมพันธ์สร้างเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแก่แกนนำในหมู่บ้านและชุมชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรโนนสูงจำนวน 300 รายที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อทำหน้าที่เป็นเครือข่ายในการค้นหากดดันผู้ค้าและผู้เสพและแจ้งข้อมูลข่าวสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปปิดล้อม ตรวจค้นจับกุมผู้ค้ายาเสพติดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมาย
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แม้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะทำทุกวิถีทาง ทั้งการเอกซเรย์ สุ่มตรวจปัสสาวะนำผู้เสพเข้าค่ายบำบัดรักษา ตลอดจนมีการป้องกัน ปราบปราม กดดัน ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้กระทำผิดมาโดยตลอดแต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นการแพร่ระบาดให้หมดสิ้นไปได้ เพราะยังคงมีขบวนการจำหน่ายและลักลอบขนย้ายยาเสพติดลักษณะกองทัพมดมาตามแนวตะเข็บชายแดนอยู่จำนวนมาก
ส่วนใหญ่การขนย้ายและจับกุมได้มักจะมีจำนวนหลักพัน หลักหมื่น ล่าสุดที่จังหวัดอุดรธานีตำรวจสามารถจับยาบ้าได้ล็อตใหญ่ 2.3 แสนเม็ด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขบวนการค้ายาเสพติดยังคงใช้เส้นทางขนยาตามแนวตะเข็บชายแดนทางภาคอีสานอยู่ ส่วนผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ก็เน้นการจำหน่าย โดยการพยายามชักจูงกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีมาซื้อและเสพ
ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งป้องกันปราบปรามและสกัดการลักลอบขนยาเสพติดตามแนวตะเข็บชายแดนอย่างเข้มงวดให้มากขึ้น และจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนในพื้นที่จะต้องร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่
สำหรับกิจกรรมวันนี้ สถานีตำรวจภูธรโนนสูงได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จัดโครงการตำรวจชุมชนสัมพันธ์สร้างเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดขึ้น เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจครอบคลุมในทุกพื้นที่มากขึ้น
