ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจภาค 5 ขยายผลไล่รวบตัวทั้งผู้ค้า-ผู้เสพเครือข่ายค้ายาบ้า 11 ราย พบหัวหมอใช้ "เฟซบุ๊ค-ไลน์" ติดต่อซื้อขาย-นัดส่งของ แถมใช้โค้ดลับ ผบก.สส.ภาค 5 เตือนวัยรุ่นระวังตัว หลังพบเครือข่ายใช้วิธีชวนเล่นเกม-เล่นพนัน พอเงินขาดค่อยชวนขายยา ระบุเครือข่ายลักษณะนี้โตต่อเนื่อง ลั่นขยายผลตามจับกุมพวกที่เหลือ
วานนี้ (1 พ.ค.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา คดีค้ายาบ้าผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คและโปรแกรมสนทนาไลน์ รวม 11 ราย
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจสืบทราบว่านายชลธวัช แปลงวงศ์ หรืออาท อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/95 ถนนช่างหล่อ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มเยาวชน จึงได้วางแผนล่อซื้อ และสามารถจับกุมตัวนายชลธวัชพร้อมพวกอีก 2 คน คือ นายธงชัย ปิยะภาพ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ถนนทิพเนตร ต.หายยา และน.ส.มัทวัน กันจินะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/3 หมู่ 2 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ของกลางยาบ้า 125 เม็ด โดยจับกุมได้ที่หน้าโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พบว่าติดต่อสั่งซื้อและจำหน่ายยาบ้า ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊ค และโปรแกรมสนทนาไลน์ จึงได้ขยายผลวางแผนติดต่อผู้ค้าและผู้เสพรายอื่น ทั้งทางไลน์และเฟซบุ๊ค โดยน.ส.มัทวันให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในการติดต่อ ปรากฏว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งมีพฤติการณ์ทั้งจำหน่ายยาบ้าและเป็นผู้เสพได้อีก 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.พิมพ์พธู บุญทา นายปิยะบุตร เลขา นายวุฒิชัย ขยัน และนายอรอนงค์ อินต๊ะ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลต่อ โดยให้ผู้ต้องหาที่จับกุมเพิ่มได้ 4 คน ติดต่อผู้ซื้อยาบ้าผ่านทางไลน์และเฟซบุ๊ค จนสามารถจับกุมตัวนายยุทธพงษ์ ภวเวช หรือโต้ง ซึ่งเป็นผู้จำหน่าย ของกลางยาบ้า 193 เม็ด นายปรีชา เหมือนทางมาก และนายพัฒนา พรหมเทพ ซึ่งเป็นผู้เสพ ได้ที่ถนนหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี อ.หางดง จ.เชียงใหม่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลจับกุมนายนัฎกิต คำอุ่น หรือต้น ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยาบ้า ของกลางยาบ้า 362 เม็ด และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ผย 161 เชียงใหม่ ได้ที่ถนนหน้ากองพลทหารราบที่ 7 อำ.แม่ริม จ.เชียงใหม่อีกด้วย รวมผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมครั้งนี้ 11 ราย
พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเครือข่ายที่มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด บางคนเป็นผู้เสพยาเสพเองด้วย โดยจะใช้เฟซบุ๊คและไลน์ติดต่อซื้อขาย จากการตรวจสอบพบว่ามีการเปิดเฟซบุ๊คในชื่อ "น้ำหนึ่งหนึ่งเดียวในหนึ่งน้ำ" และ "แกงจืดรสเผ็ด" สำหรับใช้เป็นช่องทางในการติดต่อซื้อ-ขายยาเสพติด ซึ่งจะใช้คำพูดทั่วไป ไม่ใช้ถ้อยคำโจ่งแจ้ง แต่เป็นที่เข้าใจกันภายในกลุ่ม เมื่อตกลงซื้อขายกันแล้ว จะนัดหมายส่งมอบยาเสพติดตามสถานที่ราชการ ส่วนยาเสพติดที่นำมาจำหน่ายนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่ารับมาจากกลุ่มชาวเขา
เครือข่ายยาเสพติดนี้ถือเป็นเครือข่ายใหญ่ และยังมีเครือข่ายสมาชิกอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งขยายผลติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป ขณะเดียวกันขอฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะที่ใช้เฟซบุ๊คและเล่นไลน์ ให้ระมัดระวังกรณีอาจถูกชักชวนให้เข้าร่วมกระทำผิดกฎหมายโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากการสืบสวนพบว่า เครือข่ายเหล่านี้จะชักชวนให้เล่นเกมแลกยา หรือเล่นพนัน เมื่อเหยื่อไม่มีเงินจ่าย ก็ชักชวนให้เสพยาเสพติด เมื่อติดยาก็ให้เป็นผู้ค้ารายย่อย ซึ่งทำให้ผู้ค้าและผู้เสพขยายตัวอย่างรวดเร็ว
วานนี้ (1 พ.ค.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา คดีค้ายาบ้าผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คและโปรแกรมสนทนาไลน์ รวม 11 ราย
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจสืบทราบว่านายชลธวัช แปลงวงศ์ หรืออาท อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/95 ถนนช่างหล่อ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มเยาวชน จึงได้วางแผนล่อซื้อ และสามารถจับกุมตัวนายชลธวัชพร้อมพวกอีก 2 คน คือ นายธงชัย ปิยะภาพ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ถนนทิพเนตร ต.หายยา และน.ส.มัทวัน กันจินะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/3 หมู่ 2 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ของกลางยาบ้า 125 เม็ด โดยจับกุมได้ที่หน้าโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พบว่าติดต่อสั่งซื้อและจำหน่ายยาบ้า ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊ค และโปรแกรมสนทนาไลน์ จึงได้ขยายผลวางแผนติดต่อผู้ค้าและผู้เสพรายอื่น ทั้งทางไลน์และเฟซบุ๊ค โดยน.ส.มัทวันให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในการติดต่อ ปรากฏว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งมีพฤติการณ์ทั้งจำหน่ายยาบ้าและเป็นผู้เสพได้อีก 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.พิมพ์พธู บุญทา นายปิยะบุตร เลขา นายวุฒิชัย ขยัน และนายอรอนงค์ อินต๊ะ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลต่อ โดยให้ผู้ต้องหาที่จับกุมเพิ่มได้ 4 คน ติดต่อผู้ซื้อยาบ้าผ่านทางไลน์และเฟซบุ๊ค จนสามารถจับกุมตัวนายยุทธพงษ์ ภวเวช หรือโต้ง ซึ่งเป็นผู้จำหน่าย ของกลางยาบ้า 193 เม็ด นายปรีชา เหมือนทางมาก และนายพัฒนา พรหมเทพ ซึ่งเป็นผู้เสพ ได้ที่ถนนหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี อ.หางดง จ.เชียงใหม่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลจับกุมนายนัฎกิต คำอุ่น หรือต้น ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยาบ้า ของกลางยาบ้า 362 เม็ด และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ผย 161 เชียงใหม่ ได้ที่ถนนหน้ากองพลทหารราบที่ 7 อำ.แม่ริม จ.เชียงใหม่อีกด้วย รวมผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมครั้งนี้ 11 ราย
พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเครือข่ายที่มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด บางคนเป็นผู้เสพยาเสพเองด้วย โดยจะใช้เฟซบุ๊คและไลน์ติดต่อซื้อขาย จากการตรวจสอบพบว่ามีการเปิดเฟซบุ๊คในชื่อ "น้ำหนึ่งหนึ่งเดียวในหนึ่งน้ำ" และ "แกงจืดรสเผ็ด" สำหรับใช้เป็นช่องทางในการติดต่อซื้อ-ขายยาเสพติด ซึ่งจะใช้คำพูดทั่วไป ไม่ใช้ถ้อยคำโจ่งแจ้ง แต่เป็นที่เข้าใจกันภายในกลุ่ม เมื่อตกลงซื้อขายกันแล้ว จะนัดหมายส่งมอบยาเสพติดตามสถานที่ราชการ ส่วนยาเสพติดที่นำมาจำหน่ายนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่ารับมาจากกลุ่มชาวเขา
เครือข่ายยาเสพติดนี้ถือเป็นเครือข่ายใหญ่ และยังมีเครือข่ายสมาชิกอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งขยายผลติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป ขณะเดียวกันขอฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะที่ใช้เฟซบุ๊คและเล่นไลน์ ให้ระมัดระวังกรณีอาจถูกชักชวนให้เข้าร่วมกระทำผิดกฎหมายโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากการสืบสวนพบว่า เครือข่ายเหล่านี้จะชักชวนให้เล่นเกมแลกยา หรือเล่นพนัน เมื่อเหยื่อไม่มีเงินจ่าย ก็ชักชวนให้เสพยาเสพติด เมื่อติดยาก็ให้เป็นผู้ค้ารายย่อย ซึ่งทำให้ผู้ค้าและผู้เสพขยายตัวอย่างรวดเร็ว