เอเจนซีส์ – รัฐบาลวอชิงตันยกย่องปานามาที่เข้าสกัดและตรวจค้นเรือสินค้าเกาหลีเหนือ ที่ซุกซ่อนอาวุธปะปนกับน้ำตาล ซึ่งทางคิวบาออกรับว่า เป็นอาวุธที่ส่งไปให้เปียงยางซ่อมบำรุงให้แต่ถึงกระนั้นความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้กระตุ้นให้เกิดความกังวลรอบใหม่ว่า โสมแดงกำลังเยาะเย้ยมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็น
เจ้าหน้าที่ปานามาเปิดเผยว่าเข้าตรวจค้น “เรือชอง ชอน กัง”ระวางบรรทุก 14,000 ตัน ขณะล่องจากคิวบาผ่านคลองปานามา ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกที่เชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกและแอตแลนติก โดยเตรียมมุ่งหน้าสู่เกาหลีเหนือ พร้อมสินค้าต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ใต้กองน้ำตาล
วันจันทร์ที่ผ่านมา (15) ประธานาธิบดีริการ์โด มาร์ติเนญีของปานามา เปิดเผยรายละเอียดเรื่องนี้บนทวิตเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่ได้ค้นเรือลำดังกล่าวในคลองปานามาฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เนื่องจากสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติด โดยผู้นำปานามายังโพสต์ภาพวัตถุขนาดยาวสีเขียวที่อยู่บนเรือที่ดูเหมือนเป็นเรือสินค้า
นีล แอชดาวน์ นักวิเคราะห์ของไอเอชเอส เจนส์ ซึ่งเป็นนิตยสารรายสัปดาห์ด้านการทหารของอังกฤษ ระบุว่า ภาพเรือชอง ชอน กังที่มาร์ติเนญีโพสต์นั้น เผยให้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนเรดาร์ควบคุมการยิงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบต่อต้านขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศของเกาหลีเหนือ
โฮเซ่ ราอูล มูลิโน รัฐมนตรีความมั่นคงปานานาเสริมว่า กัปตันเรือลำดังกล่าวพยายามฆ่าตัวตาย และลูกเรือ 35 คนที่ “แสดงความเป็นศัตรู" กับเจ้าหน้าที่ปานามาและพยายามทำลายเรือเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบได้ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้
มูลิโนสำทับว่า ปานามากำลังติดต่อขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ในการตรวจสอบเรือลำนี้ซึ่งสตีฟ แอตติสส์ อดีตเสนาธิการหน่วยศุลกากรและการปกป้องพรมแดนสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลปานานาคาดว่า ต้องใช้เวลาราว 5-7 วัน
ด้านรัฐบาลคิวบาออกแถลงการณ์ว่า ภายในเรือที่บรรทุกน้ำตาล 10,000 ตันมาด้วยนั้น มีระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน 2 ชุด ชิ้นส่วนและอะไหล่ขีปนาวุธ รวมทั้งเครื่องบินขับไล่มิก-21 ซึ่งจัดส่งเพื่อการซ่อมบำรุงภายใต้ข้อตกลงที่ตอบสนองความต้องการของคิวบาในการรักษาแสนยานุภาพทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศคิวบายังแถลงว่า สาธารณรัฐคิวบายังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อสันติภาพ การปลดอาวุธที่รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ และการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ดี การยึดเรือชอง ชอน กัง กระตุ้นให้เกิดความกังวลรอบใหม่ว่า เกาหลีเหนืออาจกำลังเยาะเย้ยมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่มุ่งลงโทษโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยาง โดยมาตรการดังกล่าวห้ามเกาหลีเหนือซื้อหรือขายขีปนาวุธนำวิถีหรือเทคโนโลยีนิวเคลียร์
แอตคิสส์ หุ้นส่วนคอมมานด์ คอนซัลติง กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาในวอชิงตันสำทับว่าเกาหลีเหนือนั้นมีประวัติในการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นเพื่อปกป้องการขายระบบอาวุธของตน และยังบอกอีกว่า อาจมีการขนระบบขีปนาวุธลงเรือก่อนเข้าเทียบท่าในคิวบาเพื่อขายให้ประเทศอื่น
ด้านชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกโรงยกย่องว่า รัฐบาลปานามา “กระทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ในการสกัดเรือของเกาหลีเหนือ
ขณะที่แพทริก เวนเทรลล์ รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า อเมริกาสนับสนุนอย่างแรงกล้าต่อการตัดสินใจของปานามาครั้งนี้ และยินดีให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบเรือลำดังกล่าว
อนึ่ง เมื่อต้นเดือน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเพิ่งกล่าวยกย่องรัฐบาลจีน ที่พยายามกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากรัฐบาลเปียงยางทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนที่จะเสนอรื้อฟื้นการเจรจากับโซลและวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ปานามาเปิดเผยว่าเข้าตรวจค้น “เรือชอง ชอน กัง”ระวางบรรทุก 14,000 ตัน ขณะล่องจากคิวบาผ่านคลองปานามา ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกที่เชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกและแอตแลนติก โดยเตรียมมุ่งหน้าสู่เกาหลีเหนือ พร้อมสินค้าต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ใต้กองน้ำตาล
วันจันทร์ที่ผ่านมา (15) ประธานาธิบดีริการ์โด มาร์ติเนญีของปานามา เปิดเผยรายละเอียดเรื่องนี้บนทวิตเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่ได้ค้นเรือลำดังกล่าวในคลองปานามาฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เนื่องจากสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติด โดยผู้นำปานามายังโพสต์ภาพวัตถุขนาดยาวสีเขียวที่อยู่บนเรือที่ดูเหมือนเป็นเรือสินค้า
นีล แอชดาวน์ นักวิเคราะห์ของไอเอชเอส เจนส์ ซึ่งเป็นนิตยสารรายสัปดาห์ด้านการทหารของอังกฤษ ระบุว่า ภาพเรือชอง ชอน กังที่มาร์ติเนญีโพสต์นั้น เผยให้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนเรดาร์ควบคุมการยิงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบต่อต้านขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศของเกาหลีเหนือ
โฮเซ่ ราอูล มูลิโน รัฐมนตรีความมั่นคงปานานาเสริมว่า กัปตันเรือลำดังกล่าวพยายามฆ่าตัวตาย และลูกเรือ 35 คนที่ “แสดงความเป็นศัตรู" กับเจ้าหน้าที่ปานามาและพยายามทำลายเรือเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบได้ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้
มูลิโนสำทับว่า ปานามากำลังติดต่อขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ในการตรวจสอบเรือลำนี้ซึ่งสตีฟ แอตติสส์ อดีตเสนาธิการหน่วยศุลกากรและการปกป้องพรมแดนสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลปานานาคาดว่า ต้องใช้เวลาราว 5-7 วัน
ด้านรัฐบาลคิวบาออกแถลงการณ์ว่า ภายในเรือที่บรรทุกน้ำตาล 10,000 ตันมาด้วยนั้น มีระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน 2 ชุด ชิ้นส่วนและอะไหล่ขีปนาวุธ รวมทั้งเครื่องบินขับไล่มิก-21 ซึ่งจัดส่งเพื่อการซ่อมบำรุงภายใต้ข้อตกลงที่ตอบสนองความต้องการของคิวบาในการรักษาแสนยานุภาพทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศคิวบายังแถลงว่า สาธารณรัฐคิวบายังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อสันติภาพ การปลดอาวุธที่รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ และการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ดี การยึดเรือชอง ชอน กัง กระตุ้นให้เกิดความกังวลรอบใหม่ว่า เกาหลีเหนืออาจกำลังเยาะเย้ยมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่มุ่งลงโทษโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยาง โดยมาตรการดังกล่าวห้ามเกาหลีเหนือซื้อหรือขายขีปนาวุธนำวิถีหรือเทคโนโลยีนิวเคลียร์
แอตคิสส์ หุ้นส่วนคอมมานด์ คอนซัลติง กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาในวอชิงตันสำทับว่าเกาหลีเหนือนั้นมีประวัติในการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นเพื่อปกป้องการขายระบบอาวุธของตน และยังบอกอีกว่า อาจมีการขนระบบขีปนาวุธลงเรือก่อนเข้าเทียบท่าในคิวบาเพื่อขายให้ประเทศอื่น
ด้านชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกโรงยกย่องว่า รัฐบาลปานามา “กระทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ในการสกัดเรือของเกาหลีเหนือ
ขณะที่แพทริก เวนเทรลล์ รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า อเมริกาสนับสนุนอย่างแรงกล้าต่อการตัดสินใจของปานามาครั้งนี้ และยินดีให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบเรือลำดังกล่าว
อนึ่ง เมื่อต้นเดือน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเพิ่งกล่าวยกย่องรัฐบาลจีน ที่พยายามกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากรัฐบาลเปียงยางทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนที่จะเสนอรื้อฟื้นการเจรจากับโซลและวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว