xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปค.ล้มรง.ถ่านหินสมุทรสาคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 18 ก.ค.) ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร ดำเนินการให้บริษัท เทคนิทีม (ประเทศไทย) จำกัด แก้ไขการขออนุญาตก่อสร้างอาคารให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 รวมทั้งให้อบต.ท่าทราย และสำนักงานอุตสาหกรรม จ.สุมทรสาคร ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงาน และกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขตามอำนาจหน้าที่ของตน ในการสั่งห้ามมิให้บริษัท เทคนิทีมฯ ใช้อาคารที่ก่อสร้างประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับการทำเชื้อเพลิงก้อน หรือ เชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากถ่านหิน ในท้องที่ต.ท่าทราย ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด
ทั้งนี้คำพิพากษาดังกล่าวมาจากการที่ นายทองนาค เสวกจินดา กับพวกรวม 3 คน ฟ้องอบต.ท่าทราย กับพวกรวม 3ราย ว่า ละเลยต่อหน้าที่ปล่อยให้บริษัทเทคนิทีม (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินกิจการขนถ่าย ขนส่ง และกักเก็บถ่านหิน ตลอดจนก่อสร้างท่าเทียบเรือ เพื่อขนส่งถ่านหิน บริเวณริมแม่ท่าจีน ต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร ทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการดังกล่าว และถ่านหินเป็นวัตถุอันตราย มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน ทำให้ผู้อาศัยบริเวณดังกล่าวเดือดร้อน เสียหาย และทำให้นายทองนาค ที่เป็นแกนนำคัดค้านเรื่องดังกล่าว ถูกยิงเสียชีวิต
ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาระบุว่า เนื่องจาก บริษัทเทคนิทีม ไม่ได้ยื่นแผนผังบริเวณแบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน หรือรายการคำนวณอาคารที่จะก่อสร้าง รวมทั้งอาคารที่จะทำการก่อสร้างเป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ซึ่งต้องระบุไว้ในใบอนุญาต แต่ก็ไม่พบว่า อบต.ท่าทราย ได้มีการเรียกตรวจเอกสารดังกล่าว จึงเท่ากับว่าการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารให้กับบริษํทเทคนิคทีม ของอบต.ท่าทราย ไม่ชอบด้วยกฎกหมาย
ขณะที่สถานประกอบการของบริษัทเทคนิทีม ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า บริษัทประกอบกิจการค้าถ่านหินบิทูนิมัส ผงถ่านหินอัดเป็นก้อนรูปเหลี่ยม รูปไข่ และเชื้อเพลิงแข็งที่คล้ายกัน ซึ่งเป็นการผลิตจากถ่านหิน โดยใช้กำลังเครื่องจักร จึงย่อมถือเป็นการประกอบกิจการโรงงานประเภท หรือชนิด ที่ 50(3) ของกฎกระทรวงออกตามความใน พ.ร.บ.โรงงาน 2535 และเมื่อสถานประกอบการของบริษัทเทคนิทีม ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ต.ท่าทรายทั้ง 5 แปลง อยู่ในบังคับผังเมืองรวมตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสมุทรสาคร 2550 ที่กำหนดเป็นพื้นที่สีเขียวประเภทชนบทและเกษตรกรรมข้อ 13 ที่กำหนดห้ามมิให้มีการตั้งโรงงาน หรือประกอบอุตสากรรมใด เว้นแต่โรงงานบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน
ดังนั้น เมื่อบริษัทเทคนิทีมใช้อาคารคลังสินค้าดังกล่าว เป็นสถานประกอบการซึ่งถือเป็นโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน 2535 การจะดำเนินการได้ก็ต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานอุตสาหกรรม จ.สุมทรสาคร ก่อนเท่านั้น อบต.ท่าทราย และสำนักงานอุตสาหกรรม จ.สมุทรสาคร จึงมีหน้าที่ต้องให้บริษัทเทคนิทีม ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่กลับปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการ เป็นเหตุให้บริษัทเทคนิทีม ประกอบกิจการโรงงานประเภทดังกล่าวในพื้นที่สีเขียวประเภทชนบทและเกษตรกรรมมาตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 51 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทเทคนิทีม ได้รับอนุญาตก่อสร้างอาคารอันเป็นที่ตั้งโรงงานดังกล่าวจาก อบต.ท่าทราย จึงต้องถือว่า วันที่ 8 ก.พ. 51 เป็นวันที่บริษัทเทคนิทีม เริ่มใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นโรงงานเกี่ยวกับการทำเชื้อเพลิงก้อน เชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากถ่านหินที่แต่งแล้ว โดยไม่ชอบด้วย มาตรา 27 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ผังเมือง 2518 พฤติการณ์ของอบต.ท่าทราย และสำนักงานอุตสาหกรรมจ.สมุทรสาคร จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ จึงมีคำพิพากษาดังกล่าว
ทั้งนี้ระหว่างที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้คำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ที่ให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณี ทั้งการลำเลียง การเก็บกอง การขนถ่าย การขนส่งหรือการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ อบต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นั้นมีผลใช้บังคับต่อไป จนกว่าจะพ้นระยะเวลาอุทธรณ์ หรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
หลังมีคำพิพากษาด้านนางจอมขวัญ เสวกจินดา ภรรยาของนายทองนาค กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ลมหายใจของสามีสามารถต่ออายุให้กับพี่น้อง ลูกหลานต่อไป เนื่องจากโรงงานดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น