วานนี้ (11ก.ค.) เครือข่ายประชาชนอนุรักษ์มรดกโลกเขาใหญ่ ได้ยื่นรายชื่อประชาชน ที่รณรงค์ผ่าน www.change.org จำนวนกว่า 6,000 คน พร้อมต้นกล้า และเมล็ดมะค่าโมงให้กับกรมทางหลวง เพื่อเรียกร้องให้กรมทางหลวง ถอนอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด และร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชน ในการฟื้นฟูริมข้างทาง ถนนทางขึ้นเขาใหญ่ ภายหลังจากที่การขยายถนน ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ และต้นไม้เก่าแก่หลายสิบปี ถูกตัดโค่นไปเป็นจำนวนมาก
นายสราวุธ ทองศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงพร้อมร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อฟื้นฟูถนนธนะรัชต์ ในช่วงที่มีการขยายถนนอย่างเต็มที่ ยืนยันว่ากรมทางหลวงไม่อยู่เฉย ได้เริ่มปลูกต้นไม้ไปแล้ว และเรายินดีรับฟังทุกอย่าง ที่ผ่านมาอาจจะมีผิดพลาดไปบ้าง แต่ตอนนี้ขอให้มองไปข้างหน้า และมาร่วมมือกัน เพื่อให้ระบบนิเวศน์เดิมๆกลับคืนมา
นายสราวุธ ยังกล่าวขอบคุณประชาชนกว่า 6,000 คน ที่ลงชื่อผ่าน change.org ที่มีความห่วงใยธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม นายสราวุธ กล่าวว่าทางกรมทางหลวงยังคงเดินหน้าอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป เพราะเห็นว่าคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จะช่วยสร้างความชัดเจนเรื่องของชนิด และอายุของต้นไม้ ทั้งนี้ ไม่ว่าคำตัดสินจะออกอย่างไร กรมทางหลวงก็พร้อมจะปฏิบัติตาม
ด้านนายธารา บัวคำศรี ตัวแทนเครือข่ายประชาชนอนุรักษ์มรดกโลกเขาใหญ่ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่กรมทางหลวงรับปากว่าจะทำงานกับเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อฟื้นฟูถนนธนะรัชต์ แต่อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายฯ ยืนยันว่า จะเดินหน้าให้กรมทางหลวงถอนอุทธรณ์ ขณะเดียวกันพร้อมร่วมมือในการตั้งคณะทำงานที่ภาคประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูถนนธนะรัชต์อย่างจริงจัง
"การฟื้นฟูธรรมชาติริมทางขึ้นเขาใหญ่ ตามคำสั่งศาลปกครองนั้น สามารถพิจารณาได้หลายแนวทาง เช่น ใช้วิธีการคำนวณมูลค่าทางเศรษฐกิจ และนิเวศวิทยาของต้นไม้ที่ถูกตัดมาเป็นทางเลือกในการวางแผนคืนต้นไม้ โดยจะต้องเกิดขึ้นภายใต้การมีส่วนร่วมจากทุกภาคี ที่ทำงานอนุรักษ์ธรรมชาติในเขตพื้นที่กันชนรอบมรดกโลกเขาใหญ่”นายธารา กล่าว
นายสราวุธ ทองศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงพร้อมร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อฟื้นฟูถนนธนะรัชต์ ในช่วงที่มีการขยายถนนอย่างเต็มที่ ยืนยันว่ากรมทางหลวงไม่อยู่เฉย ได้เริ่มปลูกต้นไม้ไปแล้ว และเรายินดีรับฟังทุกอย่าง ที่ผ่านมาอาจจะมีผิดพลาดไปบ้าง แต่ตอนนี้ขอให้มองไปข้างหน้า และมาร่วมมือกัน เพื่อให้ระบบนิเวศน์เดิมๆกลับคืนมา
นายสราวุธ ยังกล่าวขอบคุณประชาชนกว่า 6,000 คน ที่ลงชื่อผ่าน change.org ที่มีความห่วงใยธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม นายสราวุธ กล่าวว่าทางกรมทางหลวงยังคงเดินหน้าอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป เพราะเห็นว่าคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จะช่วยสร้างความชัดเจนเรื่องของชนิด และอายุของต้นไม้ ทั้งนี้ ไม่ว่าคำตัดสินจะออกอย่างไร กรมทางหลวงก็พร้อมจะปฏิบัติตาม
ด้านนายธารา บัวคำศรี ตัวแทนเครือข่ายประชาชนอนุรักษ์มรดกโลกเขาใหญ่ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่กรมทางหลวงรับปากว่าจะทำงานกับเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อฟื้นฟูถนนธนะรัชต์ แต่อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายฯ ยืนยันว่า จะเดินหน้าให้กรมทางหลวงถอนอุทธรณ์ ขณะเดียวกันพร้อมร่วมมือในการตั้งคณะทำงานที่ภาคประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูถนนธนะรัชต์อย่างจริงจัง
"การฟื้นฟูธรรมชาติริมทางขึ้นเขาใหญ่ ตามคำสั่งศาลปกครองนั้น สามารถพิจารณาได้หลายแนวทาง เช่น ใช้วิธีการคำนวณมูลค่าทางเศรษฐกิจ และนิเวศวิทยาของต้นไม้ที่ถูกตัดมาเป็นทางเลือกในการวางแผนคืนต้นไม้ โดยจะต้องเกิดขึ้นภายใต้การมีส่วนร่วมจากทุกภาคี ที่ทำงานอนุรักษ์ธรรมชาติในเขตพื้นที่กันชนรอบมรดกโลกเขาใหญ่”นายธารา กล่าว