xs
xsm
sm
md
lg

รง.ยาสูบพัฒนาใบยารับ AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - โรงงานยาสูบตั้งเป้าหมายทำรายได้จากการจำหน่ายยาสูบ 67,000 ล้านมวน เพิ่มจากปี 55 ที่ได้ 62,390 ล้านมวน เดินหน้าปรับปรุงการผลิตต้นกล้าด้วยวิธีใหม่ การพอกเมล็ดยาสูบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมหาใบยาจากประเทศเพื่อบ้านสำรองผลิต เตรียมแผนรับมือการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 58

นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ กล่าวว่า เมื่อเริ่มเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จึงต้องเดินหน้าพัฒนาคุณภาพใบยาสูบให้มีคุณภาพรองรับความต้องการของตลาดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะตลาดยาสูบจะกว้างขึ้นจากเดิมจำกัดตลาดเฉพาะในประเทศ โรงงานยาสูบจึงได้นำระบบการปลูกยาสูบตามหลักการ GAP ( Good Agricultural Plactice) เพื่อให้เกษตรกรผลิตใบยาสูบคุณภาพและทำลายสุขภาพน้อยที่สุด สำหรับป้อนโรงงานยาสูบ ด้วยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปรับปรุงการผลิตต้นกล้าด้วยวิธีใหม่ การพอกเมล็ดยาสูบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อหวังแพร่กระจายไปทั้งประเทศ ต้องใช้ต้นกล้าประมาณ 540 ล้านต้น ลดค่าใช้จ่ายในการย้ายชำได้กว่า 50 ล้านบาท โดยเฉพาะการปลูกใบยาสูบพันธุ์เวอร์ยิเนีย เบอร์เลย์ เตอร์กีช เพื่อสอนชาวไร่ให้รับรู้การดูแลในทุกขั้นตอนไปสู่รายย่อยมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังใช้แนวทางการจัดการสารเคมีทางการเกษตรเพื่อให้มีความปลอดภัย ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกใบยาและและผู้บริโภค โดยไม่ต้องเติมแอมโมเนียและเพิ่มฤทธิ์นิโคติน การพัฒนาโรงบ่มประหยัดพลังงาน จะช่วยลดต้นทุนในการบ่มยาเวอร์ยิเนียได้กว่า 73,000 บาทต่อรายต่อปี เป็นกว่าเงินกว่า 54 ล้านบาท จากชาวไร่ 744 ราย เมื่อใบยามีคุณภาพจะสร้างรายได้ให้กับชาวไร่ได้มากขึ้น เนื่องจากโรงงานยาสูบได้อุดหนุนให้ชาวไร่ 160,000 บาทต่อโรง เพื่อเปลี่ยนมาใช้โรงอบใบยาแบบสมัยใหม่ เพราะจะใช้พลังงานเท่าเดิม แต่ใส่ใบยาสูบได้เพิ่มจาก 3,5000 กิโลกรัม เพิ่มเป็น 6,500-7,5000 กิโลกรัมต่อโรงบ่ม
จากปัจจุบันโรงงานยาสูบ รัฐซื้อใบยาสูบเตอร์กีซประมาณ 12 ล้านกิโลกรัมต่อปี พันธุ์เวอร์ยิเนีย 17 ล้านกิโลกรัมต่อปี เบอร์เลย์ 38 ล้านกิโลกรัมต่อปี รวมเป็นโควต้ารับซื้อใบยาจากชาวไร่ประมาณ 33 ล้านกิโลกรัมต่อปี สร้างรายได้ให้กับเกษตรประมาณ 2,290 ล้านบาท จากพืื้นที่เพาะปลูก 107,000 ไร่ ชาวไร่ 17,865 ราย
สำหรับเป้าหมายการดำเนินการของโรงงานยาสูบในปี 56 คาดว่าจะทำรายได้จากการจำหน่ายยาสูบประมาณ 67,000 ล้านมวน เพิ่มจากปี 55 ซึ่งจำหน่ายได้ 62,390 ล้านมวน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 32,000 ล้านมวนต่อปี โดยปัจจุบันบุหรี่ไทยผลิตจากโรงงานยาสูบมีส่วนแบ่งร้อยละ 33 บุหรี่ต่างประเทศร้อยละ 12 บุหรี่หนีภาษีร้อยละ 10 และบุหรี่มวนเองสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 45
นายต่อศักดิ์กล่าวว่า โรงงานยาสูบยังมีแผนไปสำรวจใบยาในประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่า ลาว และกัมพา เพื่อนาแนวทางการนำเข้าใบยาสูบที่มีคุณภาพเท่าเทียมกับที่ปลูกในไทย เพื่อมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตบุหรี่ เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบยุทธศาสตร์ในการลดพื้นที่เพาะปลูกยาสูบลงจากปัจจุบันที่อยู่ 1 แสนไร่ ซึ่งส่วนใหญ่กระจายในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับเกษตรกรไทยได้ปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกไปเป็นพืชชนิดอื่นที่มีราคาสูงกว่าทดแทนเช่น ข้าวเพื่อเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล.
กำลังโหลดความคิดเห็น