ชาวนาโวยรัฐบาลหลอกหลวง โครงการรับจำนำข้าว

สิงหบุรี - ชาวนาร้องรัฐบาลหลอกลวงลดราคารับจำนำข้าว เผยเลือกตั้งครั้งต่อไปชาวนาคงหูตาสว่างขึ้น เหตุบีบให้ชาวนาตายทั้งเป็น

วันนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ มีมติตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ปรับลดราคารับจำนำข้าวจากตันละ 15,000 บาท เหลือ 12,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม และจำกัดรายละไม่เกิน 5 แสนบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนนั้น

นายสมพร (ขอสงวนนามสกุล) ชาวนา จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า การปรับราคารับจำนำทำให้ชาวนาได้รับเงินจริงเพียงตันละประมาณ 9,000 บาท เนื่องจากข้าวที่เก็บเกี่ยวใหม่ความชื้นจะอยู่ที่ 25-30% ไม่ใช่ 15% ตามเกณฑ์ ทำให้ถูกหักราคาตามความชื้น ซึ่งราคานี้ชาวนาอยู่ไม่ได้แน่นอน เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ทั้งค่ายา ค่าปุ๋ย ค่าแรงงาน และค่าเช่าที่นา เพราะบางคนไม่มีที่นาเป็นของตัวเอง อีกทั้งตั้งแต่รัฐบาลปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท สินค้า และบริการต่างๆ ขึ้นราคาไปโดยไม่มีแนวโน้มปรับลดลงเลย

“ปัจจุบันต้นทุนการผลิตข้าวไร่ละ 6,500-7,000 บาท ผลผลิตเฉลี่ยที่ตันละ 9,000 บาท เท่ากับว่าชาวนามีกำไรน้อยมาก”

นายสมพร กล่าวว่า ชาวนายังมีปัญหาเรื่องน้ำ และพื้นที่เพาะปลูก เนื่องจากรัฐบาลกำหนดให้มีการทำโซนนิ่งการเกษตร โดยอ้างเพื่อเแก้ไขญหาการขาดแคลนน้ำ ทำให้จำนวนพื้นที่ทำนาของแต่ละคนลดลงไปด้วย ขณะที่แรงงานภาคอุตสาหกรรมถูกเลิกจ้างเพราะนโยบายค่าแรงงาน 300 บาท ต้องหันกลับมราทำอาชีพเกษตรกรรมในภูมิลำเนา แต่กลับถูกกำจัดพื้นที่ทำนา ทำให้เมีปัญหาสังคมตามมาเป็นลูกโซ่

“ชาวนาที่ผู้บริหารประเทศหลายยุคหลายสมัยบอกว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ กลับต้องถูกย่ำยีเหมือนเป็นคนชั้นสอง เท่ากับบีบให้ชาวนาตายทั้งเป็น” นายสมพรกล่าว และว่า ชาวนายังต้องการโครงการรับจำนำ แต่ควรจะกำหนดราคาที่ชาวนาอยู่ได้ เพราะปัญหาการขาดทุนของรัฐบาลไม่ใช่ความผิดของชาวนา แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ส่งผลให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ รัฐบาลควรที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุมากกว่าปลายเหตุ

นายสมพร กล่าวว่า ในอดีตไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยไม่ได้ดีตามไปด้วย ตอนนี้ไทยอยู่อันดับ 3 แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น ดังนั้น หากรัฐบาลปรับลดราคาจำนำข้าว ชีวิตชาวนาก็คงไม่ต่างจากเมื่อก่อน

นายไพบูลย์ (ขอสงวนนามสกุล) ชาวนาจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า หากถามพวกเราชาวนาว่าพอใจหรือไม่ คงไม่พอใจแน่นอน แต่ชาวนาอย่างพวกเราไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ เนื่องจากชาวนาทั่วประเทศไม่มีความเข้มแข็งที่จะไปต่อรองกับรัฐบาลได้ รัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายเอง แต่ก็อยากจะฝากไว้ว่า ตอนหาเสียงกับประชาชนก็รับปากว่ารับจำนำตันละ 15,000 บาท แต่พอสมประโยชน์แล้วมาต่อรองกับประชาชนนั้นไม่ถูกต้อง

“ชาวนารับไม่ได้ และจะส่งผลกับรัฐบาลเอง ในอนาคตจะไม่มีใครเลือก และไม่มีใครเชื่ออีกต่อไป เพราะการบริหารโครงการขาดทุนเป็นเรื่องที่ฐบาลต้องแก้ปัญหาเอง อยากจะฝากว่า หากจะลดราคารับจำนำข้าวก็ควรจะหาทางช่วยเหลือด้านอื่น เช่น ลดภาระค่าครองชีพ ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน เพราะเดี๋ยวนี้ชาวนาทำนามีต้นทุนต่อไร่สูงมาก จ้างคนทำนา หว่านปุ๋ย ก็ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 บาทต่อคนเช่นกัน”

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในความรู้สึกของชาวนาแล้ว การจำนำข้าวเป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์ต่อชาวนา แต่การบริหารจัดการเป็นเรื่องของรัฐบาล รูปแบบปัจจุบันดีอยู่แล้ว ขอเพียงให้บริหารจัดการให้ดี ไม่มีการทุจริต โครงการนี้ก็จะไปได้ดี