xs
xsm
sm
md
lg

เสนอ 3 แนวทางแก้ปัญหาจำนำข้าว ห่วงปัญหาความไม่โปร่งใสกระทบความน่าเชื่อถือประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หอการค้าไทย” เสนอรัฐบาล 3 แนวทางปรับปรุงการรับจำนำข้าว เพื่อประโยชน์สูงสุด ห่วงปัญหาความไม่โปร่งใสกระทบความน่าเชื่อถือประเทศ ต้องรับจํานําในราคาตลาด เฉพาะข้าวนาปี สนับสนุนลดต้นทุน พร้อมจัดโซนนิ่ง เร่งระบายออกอย่างโปร่งใส เปิดเผยและเป็นธรรม เพื่อไม่ให้มูดี้ส์ลดเครดิตประเทศ

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ควรออกมาชี้แจงให้ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความมั่นใจต่อสังคมทุกภาคส่วน โดยขอให้มีการเปิดเผยตัวเลขการรับจำนำข้าวโดยละเอียด ไม่มีความลับ ทั้งปริมาณและมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินที่ใช้ไปในการรับซื้อ สต๊อกข้าว และค่าใช้จ่ายการบริหารและจัดเก็บ รวมถึงราคาที่ระบาย พร้อมกันนี้ยังได้เสนอแนะให้รัฐบาลทบทวนและปรับปรุงโครงการรับจำนำข้าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกภาคส่วน 3 ข้อ ได้แก่

1. ขอให้รัฐบาลรับจำนำข้าวในราคาตลาดและรับจำนำเฉพาะข้าวนาปีเท่านั้น รวมถึงต้องจำกัดการรับจำนำข้าวต่อครอบครัวในจำนวนที่เหมาะสม (ดูจากพื้นที่ของแต่ละรายและผลผลิตเฉลี่ยของพื้นที่นั้นๆ) นอกจากนั้น หากมีราคารับจำนำใกล้เคียงกับราคาตลาด เกษตรกรที่ประกอบการปลูกพืชชนิดอื่นจะไม่สามารถต่อว่ารัฐบาลได้ และนำไปเป็นเงื่อนไขสำหรับพืชผลการเกษตรชนิดอื่น ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลจัดงบประมาณเข้าไปสนับสนุนในการพัฒนาประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิต เช่น การจัดหาแหล่งน้ำ ปุ๋ย พันธุ์ข้าว การส่งเสริมการรวมแปลง เพื่อให้ชาวนาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระยะยาวและรองรับการเปิด AEC ในปี 2558

2. ขอให้รัฐบาลมีการจัดโซนนิ่งพื้นที่เพาะปลูกข้าวอย่างจริงจัง มีการแบ่งแยกคุณภาพ และพันธุ์ข้าวให้ชัดเจน ซึ่งข้าวคุณภาพดีจะต้องมีราคารับจำนำที่แตกต่างจากข้าวที่มีคุณภาพต่ำหรือด้อยกว่า พร้อมส่งเสริมให้ชาวนาควบคุมคุณภาพของพันธุ์ข้าว

3. ขอให้มีการเร่งระบายข้าวอย่างเปิดเผยและให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายข้าวมาเข้าร่วมการประมูล เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด ซึ่งจะเป็นการช่วยเร่งระบายสต๊อกข้าวที่มีอยู่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของข้าว รวมถึงค่าใช้จ่ายและสถานที่ในการจัดเก็บ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

“การจัดตั้งโครงการเพื่อช่วยเหลือชาวนาของภาครัฐเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะสามารถช่วยเหลือชาวนาที่ยากจน สามารถลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ อย่างไรก็ตาม ในฐานะภาคเอกชนก็รู้สึกห่วงใยในกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหาตัวเลขการซื้อ-ขาย สต๊อกข้าว และผลกำไร-ขาดทุนที่แท้จริง ที่ไม่ชัดเจน ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการขาดความมั่นใจ อีกทั้งจากข่าวที่ว่ามูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ได้ออกมาเตือนว่าอาจจะมีการลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเนื่องจากการขาดทุนของโครงการฯ จำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนในการกู้เงินของรัฐบาล ผู้ประกอบการ และความน่าเชื่อถือของประเทศ”


กำลังโหลดความคิดเห็น