xs
xsm
sm
md
lg

หลิมซัด"แก๊งไอติม"จะทำ"ปู"เจ๊ง บินฮ่องกงเคลียร์แม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.45 น. วานนี้ ( 4 ก.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงแรงงาน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักการเมือง ข้าราชการตำรวจ ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมแสดงความยินดีจำนวนมาก อาทิ นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. นายอดิศร เพียงเกษ และ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเหมือนรัฐมนตรีคนอื่นๆ โดยให้เหตุผลว่า จะขอเวลาในการทำงานและตัดสินใจ 1 เดือนครึ่ง ถ้าอยู่ต่อจึงจะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวกับผู้ที่มาต้อนรับว่า ไม่ได้ถือฤกษ์เวลาใดในการเข้าปฏิบัติงานที่กระทรวง และขอตั้งฉายาตัวเองหลังจากมารับหน้าที่ รมว.แรงงานว่า “จับกัง1” ยืนยันตนไม่เคยพูดว่า กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเกรดต่ำ คนที่พูดถือว่าเป็นนักการเมืองชาติชั่ว ถ้ามองว่าเป็น เกรดเอ เกรดบี หรือ เกรดซี ถือว่ามาหากิน ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 8 ที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็อยากจะมีอีก
“ชีวิตผมเริ่มมาจากลบศูนย์ ศูนย์อยู่หน้าตัวเลขมันไม่น่ากลัว แต่ตราบใดศูนย์อยู่หลังตัวเลข น่ากลัว เช่นวันนี้ชีวิตร.ต.อ.เฉลิม ศูนย์อยู่หลังตัวเลข ผมไม่เคยดูหมิ่น ไม่เคยคิดว่ากระทรวงเกรด B เกรด C เกรด D”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา ผลสำรวจทุกสำนักโพล ยกเว้นนายกรัฐมนตรี ตนเป็นรัฐมนตรีทำงานเป็นอันดับ1 ทุกโพล ดังนั้นตนมีสิทธิ์คิด และถามตัวเองว่า ถูกปรับย้ายเพราะอะไร แต่ตนไม่มีสิทธิน้อยใจ หรือไม่พอใจนายกฯ ทั้งนี้ขอย้ำว่า นายกฯไม่เคยตั้งตนเองเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งหลังจากมีการเปลี่ยนโครงสร้างในการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ก็ได้รับมอบหมายใหแป็นผู้อำนวยการ แต่ก็ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ
"วันนี้มีแก๊งไอติมเต็มทำเนียบฯ กล่าวหาว่า ผมไม่ตั้งใจแก้ไขปัญหาภาคใต้ เช่น กรณีที่สื่อพยายามถามผมว่า เหตุใดจึงไม่ลงพื้นที่ภาคใต้ ผมมองว่า สื่อเข้าใจผิด พร้อมขอฝากไปถึงนักการเมือง อย่าสร้างภาพในเรื่องของการลงพื้นที่ เพียงแค่ไปฟังบรรยายสรุปแล้วกลับ เพราะจะสร้างความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งนี้ยอมรับว่า ผมล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ แต่เพิ่งได้รับตำแหน่งในช่วงเดือน พ.ย.55 ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. ซึ่งไม่มีอำนาจ และไม่มีงบลับใช้เลยแม้แต่บาทเดียว ทำงานด้วยใจ"

** ซัดทุนน้ำเมา เป็ดไก่ บีบพ้นรองนายกฯ

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ตนเองเข้าใจในดุลพินิจการปรับเปลี่ยน เป็นสิทธิอันชอบธรรมของนายกฯ แต่สื่อบอกว่า ตนไปอาศัยพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ผิด ตนไม่ได้อาศัยอย่างเดียว เพราะตนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยปี 2516 ในช่วงปี 2549 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางมาหาตน บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้ไปพบที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ชวนตนเองให้เข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน เพื่อร่วมหาเสียงกับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อปี 2550 เมื่อ นายสมัครได้เป็นนายกฯ อยู่ได้ 8 เดือน มีแก๊งออฟโฟร์ ยุนายสมัคร ในวันนี้ทำเนียบรัฐบาล ก็มีแก๊งไอติม ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเดินต่อไปไม่ได้
“ผู้นำทางการเมืองจะต้องมีเสือตาม ถ้าวันไหนผู้นำทางการเมืองตามด้วยหมา ทุกอย่างจบ ผมพูดเป็นปริศนาธรรม ผมไม่เคยสอพลอนายกฯ ไปต่างประเทศผมไม่เคยไปส่ง และไม่เคยรับกลับจากต่างประเทศ แต่ทำงานให้ท่าน”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
อดีตรองนายกฯ ยังได้ล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า สาเหตุที่กลุ่มผู้ชุมนุมหน้ากากขาวพักการเคลื่อนไหว เนื่องจากกลุ่มนายทุนไม่ให้การสนับสนุน ซึ่งตนเองไม่ได้ไปข่มขู่ วันนี้สถานการณ์การเมืองไม่ปกติ เป็นสงครามสู้รบ ดังนั้นการเดินหน้าออกกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือแม้กระทั่งการเดินหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ยังต้องเจออุปสรรค จากกลุ่มผู้คัดค้านอีกมาก
ดังนั้นเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับของตนต้องเดินหน้าก่อน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.กู้เงิน ให้หยุดก่อน แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ เเละพรรคก็ไม่เห็นด้วย ทั้งนี้มองว่าจากนี้ไป นายกฯ จะเจออุปสรรคขวากหนามทางการเมืองเข้ามาอีกมาก ขอย้ำว่า กลุ่มธุรกิจน้ำเมา บริษัทขายเป็ดขายไก่ เป็นขบวนการส่วนหนึ่งที่ทำลายตนเอง แต่ตนเองไม่โกรธ ไม่เกลียด เพราะการเมืองไทยเป็นแบบนี้ ถ้าทำใจไม่ได้ อยู่ในวงการเมืองต่อไปไม่ได้
ส่วนการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว่า ก่อนที่จะไปพูดคุย จะต้องขออนุมัติคณะกรรมการ ศปก.กปต.ก่อน เมื่อพูดคุยเสร็จก็ต้องมารายงานให้ตนรับทราบ แต่กลับไม่มีการรายงานให้ทราบ มีเพียงการแถลงข่าวที่ประเทศมาเลเซีย ขณะที่ครั้งสุดท้ายที่แตกหักคือ กรณีที่ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำ กลุ่มบีอาร์เอ็น ออกมาระบุผ่านทางเว็บไซต์ยูทูป ว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ฆ่า 6 ศพ ที่ปัตตานี โดยการประชุมก่อนที่ตนเองจะถูกปรับออกจากตำแหน่ง ปรากฏว่า พิสูจน์ทราบได้ว่า 6 ศพ ตายเพราะกระบวนการของกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งตนเองบอกว่า ต้องแถลงให้ประชาชนได้รับทราบ แต่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯศอ.บต. ไม่ยอมแถลง ก็มีการถกเถียงกัน
"สุดท้ายผมก็บอกว่า หาก พ.ต.อ.ทวี เส้นใหญ่ จะทำงานได้ คุณต้องย้ายผมออกจากการดูแล ศปก.กปต. ซึ่งผมไม่ได้ขัดแย้ง หรือทะเลาะ และยืนยันว่า ต้องการให้การเจรจาประสบความสำเร็จ ขณะที่ทุกวันพุธ เวลา 13.00 น. ผมจะมีการวิเคราะห์การเมืองกับสื่อมวลชน เป็นประจำที่กระทรวงแรงงาน”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

** เหลิมบินไปเคลียร์"แม้ว"ที่ฮ่องกง

ร.ต.อ.เฉลิมยังได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนมีกำหนดการเดินทางไปเกาะฮ่องกง ซึ่งมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่นั่น โดยเชื่อว่าไม่น่าจะได้พบ หรือพูดคุย ยืนยันว่าไม่มีการต่อรองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ไปแล้ว ทั้งนี้ไม่น้อยใจ และไม่ได้มองว่าเป็นการลดตำแหน่ง แต่รู้สึกเสียดายเพราะตนเองได้แก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง และถูกที่ ถูกทาง ขณะเดียวกันรู้สึกเป็นห่วงรัฐบาล ที่มีแก๊งไอติม พร้อมเชื่อว่าองค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ผู้มีชื่อเสียงในวงการ จะทำให้รัฐบาลสั่นสะเทือนได้ ถึงขั้นล้มรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง และบุคคลนอกวงการ ที่พูดแล้วประชาชนคล้อยตาม โดยเห็นว่ารัฐบาลจะต้องเหนื่อยมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางมาอยู่ละแวกเอเชีย โดยจะเดินทางไปที่ฮ่องกง และจะอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาส.ส. และคนที่พลาดหวังจากตำแหน่งรัฐมนตรี รวมทั้งผู้ที่หลุดจากตำแหน่ง หรือถูกโยกย้าย ได้เคลียร์ข้อข้องใจ รวมทั้งจัดวางตัวบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ที่จะมีการนำรายชื่อให้ ครม.อนุมัติในการประชุมสัปดาห์หน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็จะลาราชการ เพื่อเดินทางไปฮ่องกงในช่วงนี้ โดยจะลาราชการยาวไปถึงวันที่ 12 ก.ค.นี้ เนื่องจากในวันที่ 9 ก.ค.ได้นัดกับแพทย์ เพื่อผ่าตัดต้อกระจก และต้องพักฟื้นร่างกายอีก 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม ยังมีส่วนของคนที่สมหวังได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ก็เดินทางไปของคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงเช่นกัน อาทินางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พักอยู่แถวๆ ประเทศจีน โดยปฏิเสธที่จะระบุชัดว่า เป็นเมืองใด ส่วนที่มีรายงานว่า จะนัดเคลียร์ใจกับ ร.ต.อ.เฉลิม ที่จะเดินทางไปเกาะฮ่องกง ในช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ค. นั้น นายนพดล กล่าวว่า มิตรภาพระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และร.ต.อ.เฉลิม มีมานาน คงไม่มีปัญหาเพราะเรื่องดังกล่าว ส่วนจะพบกันหรือไม่ ตนไม่ทราบ

**ถกงบฯ 57 ก่อนพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม อย่างเร่งด่วน ว่า เรื่องนี้ก็อยู่ในวาระอยู่แล้ว แต่การเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 ส.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดีนั้น ต้องมีการพิจารณากระทู้ถามสดตามระเบียบวาระอยู่แล้ว จากนั้นก็จะมีการพิจารณากฎหมายที่ค้างอยู่ตามวาระ แต่ขณะนี้ตามปฏิทินการประชุมสภาฯในสัปดาห์ที่สอง ที่จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ยังไม่มีการเสนอเข้าสู่สภาฯ ขณะที่สำนักงบประมาณได้ทำหนังสือมาเพื่อขอพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ในช่วงกลางเดือนส.ค. แล้ว เพราะว่าครบกำหนด 105 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะมีการพิจารณาตามปฏิทินต่อไป หลังจากนั้นจึงจะเข้าสู่การพิจารณา ร่าง พ.ร.บนิรโทษกรรม ในช่วงปลายเดือนส.ค.ตามลำดับต่อไป
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เปิดประชุมสภาฯสมัยหน้า วันที่ 1 ส.ค. พรรคเพื่อไทย จะยังไม่นำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาพิจารณาทันที แม้จะถูกบรรจุในวาระแรก เพราะเป็นวันพฤหัสบดี ที่ตอบกระทู้ต่างๆ ส่วนตัวมองว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ที่จำเป็นต้องนำมาใช้งาน คงจะถูกนำมาพิจารณาก่อน ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อาจจะพิจารณาในวันพุธสัปดาห์ที่ 2 หรือ 3 ของเดือน ส.ค. หรือระหว่างนั้นถ้ามีเรื่องอะไรจำเป็นเร่งด่วน เช่น พ.ร.บ.กู้เงิน 2ล้านล้าน หรือเรื่องอื่นอย่างรัฐธรรมนูญ ก็อาจนำมาพิจารณาก่อนก็ได้
ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ เตือนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องไม่ทิ้งประชาชน ไม่คอร์รัปชันนั้น ก็ดี ถือเป็นการส่งสัญญาณ แม้เสื้อแดงจะสนับสนุนรัฐบาล แต่ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ถ้าไม่ทำตามเงื่อนไข จะไปอุ้มทำไม แต่ไม่ได้หมายความว่า เสื้อแดง พรรคเพื่อไทย แตกแยกกัน เป็นเพียงการส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลเท่านั้น

** "ขวัญชัย"ลั่นไม่มีใครเป็นเจ้าของเสื้อแดง

ด้านนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวว่า คนเสื้อแดงไม่มีเจ้าของ ไม่ใช่ของของใคร และไม่สามารถมีใครชักจูงได้ เห็นได้จากดีเจสถานีวิทยุของคนเสื้อแดง ไปต่อว่ารัฐบาลเพียงนิดหน่อย ก็ถูกกลุ่มคนเสื้อแดง มาต่อว่าหลายคน ให้อบรมดีเจในสังกัด โดยขอให้รัฐบาลอย่าหวาดกลัว เพราะคนเสื้อแดงยังรักรัฐบาลอยู่ นอกจากนี้ตนยังได้ส่งข้อความชื่นชมการตัดสินใจปรับครม.ไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งตนเห็นดีเห็นงาม และเคารพในการตัดสินใจ
“ท่านขอให้ผมไปบอกคนเสื้อแดงว่า ให้เชื่อมั่น และศรัทธาในตัวท่าน และจะกลับมาตอบแทนสิ่งที่พี่น้องไว้วางใจ เพราะสิ่งที่ตัดสินใจทำไปนั้น ดีที่สุดแล้ว และยังมีเรื่องที่ท่านตัดสินใจไปแล้ว แต่บอกไม่ได้ โดยท่านก็ขอให้ทำความเข้าใจกับประชาชน ส่วนเรื่องร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่มีปัญหาอะไร เคลียร์กับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว คนอายุมากแล้วก็อย่างนี้เป็นธรรมดา ต้องมีน้อยใจบ้าง พี่เหลิมยังไงก็ไม่ทิ้งรัฐบาล ยังรักกันดีอยู่” นายขวัญชัย กล่าว
นอกจากนี้นายขวัญชัย กล่าวยืนยันว่าจะไม่มีการชุมนุมใหญ่ในเร็วๆนี้ ขอถามไปยังนปช.ว่า การชุมนุมใหญ่แต่ละครั้ง ต้องใช้ส.ส.เกณฑ์มาใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นการชุมนุมใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ดังนั้นคนเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องไปชุมนุม เพราะวันนี้พรรคที่ชื่นชอบได้เป็นรัฐบาลแล้ว

**นิด้าโพลชี้ 'ปู'ไม่เหมาะควบกลาโหม

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง ครม. ยิ่งลักษณ์ 5 ระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค.56 จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,251 ตัวอย่าง พบว่า
นางปวีณา หงสกุล (รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) มีความเหมาะสม ร้อยละ 75.70 รองลงมา นายจาตุรนต์ ฉายแสง (รมว.ศึกษาธิการ) มีความเหมาะสม ร้อยละ 52.92 พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา (รมช.กลาโหม) มีความเหมาะสม ร้อยละ 44.44 นายสรวงศ์ เทียนทอง (รมช.สาธารณสุข) มีความเหมาะสม ร้อยละ 28.86 นายยรรยง พวงราช (รมช.พาณิชย์) มีความเหมาะสม ร้อยละ 28.22
ส่วนความคิดเห็นต่อรัฐมนตรีที่ถูกโยกย้ายจากตำแหน่งเดิมไปสู่ตำแหน่งใหม่พบว่า ร้อยละ 70.26 เห็นด้วยที่ให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี รองลงมา ร้อยละ 64.75 เห็นด้วยที่ให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 51.40 เห็นด้วยที่ให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 50.36 เห็นด้วยที่ให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ดำรงตำแหน่ง รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ร้อยละ 49.72 เห็นด้วยที่ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน
ความคิดเห็นต่อรายชื่อรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งพบว่า ร้อยละ 67.39 เห็นด้วยที่ให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ พ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ร้อยละ 65.39 เห็นด้วยที่ให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต พ้นจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม ร้อยละ 63.39 เห็นด้วยที่ให้ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข พ้นจากตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรฯ ร้อยละ 63.31 เห็นด้วยที่ให้ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พ้นจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน ร้อยละ 63.23 เห็นด้วยที่ให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก พ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย
ความคิดเห็นต่อการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม อีก 1 ตำแหน่ง พบว่า ประชาชนเกินครึ่ง หรือร้อยละ 56.67 ระบุว่า ไม่เหมาะสมร้อยละ 26.46 ระบุว่า เหมาะสมร้อยละ 12.39 ระบุว่า พอไปได้
ความคิดเห็นต่อการที่ นายวราเทพ รัตนากร (รมต.ประจำสำนักนายกฯ) เข้าดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ อีก 1 ตำแหน่ง พบว่า ร้อยละ 43.41 ระบุว่า ไม่เหมาะสม รองลงมา ร้อยละ 29.90 ระบุว่า เหมาะสม ร้อยละ 16.39 ระบุว่า พอไปได้
ท้ายสุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อภาพรวม ครม. ยิ่งลักษณ์ 5 พบว่า ประชาชน ร้อยละ 44.76 ระบุว่า พอไปได้ รองลงมา ร้อยละ 18.23 ระบุว่า ไม่ค่อยดี ร้อยละ 16.47 ระบุว่า ดูดี และร้อยละ 11.99 ระบุว่า ไม่ดีเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น