xs
xsm
sm
md
lg

"สุภา"แฉจำนำข้าว ขาดทุนยับ2.2แสนล. พิจิตรฉาวอีกข้าวเน่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "ยิ่งลักษณ์" แถมีข้อมูลใหม่ จำนำข้าว 1.5 หมื่น ไม่เสียวินัยการเงิน การคลัง "สุภา" รองปลัดคลัง แฉซ้ำยับ แจงที่ประชุมกมธ.วุฒิฯ จำนำข้าวโกงทุกขั้นตอน ซัดพาณิชย์ปกปิดสต็อกข้าว 3 ฤดูกาล เจ๊งยับกว่า 2.2 แสนล. ขณะที่สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ห่วงใช้งบไม่เหมาะสม กระทบเครดิตประเทศ ปชป.ตั้งคำถาม 8 ข้อ ให้"ปู"ตอบ ซัดขาดทุนมหาศาลเพราะโกงกินถึง 70 เปอร์เซนต์ ศุลกากรแม่สอดร่วมกับทหาร และฝ่ายปกครอง จับกุมข้าวสารเถื่อนจากพม่า 25 ตัน ซุกใต้กากมันสำปะหลัง บรรทุกเต็มรถ 18 ล้อ สารภาพส่งเข้านครสวรรค์-กำแพงเพชร พิจิตรฉาวไม่จบ พบข้าวเน่าโผล่เต็มโกดัง ราขึ้น-แมลงวันตอมหึ่ง ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง

หลังการประชุมครม.เมื่อวานนี้ (2ก.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบตามมติของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ให้ปรับราคารับจำนำข้าวจากตันละ 12,000 บาท เป็น 15,000 บาท เหมือนเดิม ทั้งนี้จะไม่ทำให้เสียวินัยทางการเงินและการคลัง

"จากที่ฟัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รายงานว่า กขช.มีการติดตามเรื่องรายงานของข้าวอยู่แล้ว จึงเป็นที่มาของการตั้งอนุกรรมการปิดบัญชี โดยหลังจากที่ทราบตัวเลข ก็มีการปรับปรุงตัวเลขในส่วนของข้าวนาปรังลง และจากการที่มีการตรวจสต็อกต่างๆ และการปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ทำให้เห็นว่า ตัวเลขจำนวนข้าวนาปรัง ที่เข้ามานั้นอยู่ในข่ายที่พอจะรับได้ คือ ประมาณ 2 แสนราย และมีการควบคุมในเรื่องของปริมาณการรับจำนำข้าวต่อรายลงไป จึงเชื่อว่า ในการที่เราดูแลสองตัวนี้ จะทำให้สามารถจะกลับมาอยู่ในเรื่องของสมดุลที่พอจะช่วยเหลือชาวนาได้สำหรับในรอบนาปรังนี้ "

อย่างไรก็ตาม ถ้าข้าวชนิดไหนที่สามารถจะสอดคล้องกับราคาตลาดโลกได้ แล้วพี่น้องเกษตรกรก็ปลูกได้ และมีคุณภาพที่ดี เราก็อยากจะที่คงให้ แต่อะไรที่มีส่วนต่างมากเกินไป อาจจะต้องขอมาพิจารณาปรับความสมดุล ซึ่งในเบื้องต้นทางคณะกรรมการกขช.คงจะลงไปทำงานกับทีมงานอยู่ แล้วคงจะนำเสนออีกครั้ง ด้วยความรอบคอบ

***"โต้ง"รับยากจำนำหมื่นห้า ฤดูกาลหน้า

แหล่งข่าวจากที่ประชุมครม. เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.รัฐมนตรีใหม่แสดงความเห็นกับแทบทุกคน โดยเฉพาะเรื่องการปรับเพิ่มราคาจำนำข้าวกลับไปที่ 15,000 บาทต่อตัน ทำให้รัฐมนตรีทุกคนโล่งใจ ทั้งนี้ นายกิตติรัตน์ ยอมรับต่อที่ประชุมครม.ว่า การกำหนดราคาให้คงไว้ที่ 15,000 บาทต่อตัน ในฤดูกาลถัดไปหลังจากนี้ เป็นเรื่องยาก อาจทำได้เฉพาะข้าวบางประเภท ขณะเดียวกันการกำหนดราคาครั้งต่อไป จะต้องเชิญชาวนามาร่วมหารือด้วย หลังจากโดนตำหนิจากครั้งที่แล้วว่าไม่มีการสอบถามก่อนปรับราคา

นายกิตติรัตน์ ยังระบุว่า น่าเสียใจที่ก่อนหน้านี้มีการรั่วไหลของข้อมูลจากคณะอนุฯปิดบัญชี แถมตัวเลขยังไม่ถูกต้อง บอกว่าขาดทุนถึง 2.6 แสนล้านบาทสร้างความเสียหายต่อรัฐบาล

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข กล่าวเสริมว่า ต้องอุดรอยรั่วของโครงการจำนำข้าว ที่ทำให้ชาวนาได้รับประโยชน์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ต้องแก้ปัญหาอาทิ กรณีโรงสีกันโควตาจำนำของชาวนาเอาไว้ แล้วไปเอาข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสต็อกเก็บไว้ เพื่อหาประโยชน์

**"สุภา"แฉซ้ำโกงทุกขั้นตอน-เจ๊ง2.2แสนล.

วานนี้(2) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เพื่อพิจารณาเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยเชิญ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เข้าชี้แจงตัวเลขเลขขาดทุนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด รวมถึงการทุจริต และแนวทางการระบายข้าวค้างสต็อกกว่า 18 ล้านตัน

น.ส.สุภา กล่าวยอมรับว่า การรับจำนำข้าวทุกเมล็ด เกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจดทะเบียนเกษตรกร ที่แจ้งตัวเลขเกินความจริง โดยการสุ่มตรวจได้เพียงร้อยละ10 เนื่องจากขาดกำลังคน รวมทั้งมีการนำข้าวเปลือกมาเวียนในโครงการ เพราะขั้นตอนการสีแปรข้าว ต้องเก็บที่โรงสีประมาณ 50 วัน เพราะข้าวมีจำนวนมากเกินความสามารถในการสีแปรของโรงสี จึงมีมติให้รับข้าวได้ 50 เท่าของความสามารถของโรงสี

ส่วนตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลผลิต คือฤดูกาลผลิตปี 54/55 ฤดูกาลผลิตปี 55 และฤดูกาลผลิตปี 55/56 เบื้องต้นตัวเลขขาดทุน 220,968 ล้านบาท หากรวมการดำเนินการถึงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขการขาดทุนอาจจะมากกว่าที่ประมาณการจากฝ่ายต่างๆ ที่มีการปิดตัวเลข วันที่ 31 ม.ค. 56 ใช้วงเงินกว่า 4 .96 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลต้องจ่ายคืนให้ธ.ก.ส.

น.ส.สุภา กล่าวต่อว่า การคำนวณตัวเลขต้นทุนการขายข้าว ต้องใช้ราคาขายข้าวต่ำสุด กับสูงสุด จาก 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคำนวณ เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆไม่ได้แจ้งตัวเลขต้นทุน ซึ่ง อตก. และ อคส. แจ้งบัญชีข้าวสารแปรรูปร้อยละ 24 จากที่ควรจะได้ข้าวร้อยละ 59-61 ทำให้ไม่สามารถคำนวณตัวเลขได้ จึงต้องรอตัวเลขจากหน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง

ส่วนตัวเลขข้าวค้างสต็อกของรัฐบาล 11 ล้านตัน แต่ อตก.และ อคส. ระบุว่า มีข้าวค้างสต็อก 18 ล้านตัน ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ทวงถามตัวเลขการขายข้าวแล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่าเป็นความลับ และมีผู้ทราบข้อเท็จจริงเพียง 3 คน คือ รมว.พาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถนำตัวเลขดังกล่าวมาคำนวณปิดบัญชี โดยเฉพาะสัญญาขายข้าว 10 ล้านตัน เป็นสัญญาขายข้าวให้กับส่วนใด

** ปชป.ตั้งคำถาม 8 ข้อ ให้รัฐบาลตอบ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าช่วงที่เปลี่ยนแปลงจาก 15,000 บาท เป็น 12,000 บาท นั้น รัฐบาลอ้างว่าไม่มีเงินเพียงพอ แต่ความจริงเป็นเพราะมีการโกงสูงถึง 70 % ซึ่งทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ไม่มีใครพูดถึงการแก้ปัญหาการทุจริต แต่การกลับมาที่ 15,000 บาทนั้น เป็นการแก้เพื่อการเมือง ดังนั้น จึงตั้งคำถาม 8 ข้อถึงรัฐบาล คือ

1. ถ้ายืนยันว่าสภาวะการคลังสามารถรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาทถึง 15 ก.ย.56 วันที่ 18 มิ.ย.56 ลดราคาจำนำเหลือ 12,000 บาท จนเกิดความสับสนทำไม

2. นายกฯระบุว่า การลดราคาจำนำเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต ราคาตลาดโลก และให้เกิดความสมดุลทางการคลัง ภายใน 12 วันที่ผ่านมามีเงื่อนไขใดเปลี่ยนแปลง ที่จะทำให้กลับมาดำเนินการรับจำนำในราคา 15,000 บาท

3 .ตนทราบว่าการประชุม กขช.นั้น ข้าราชการเสนอให้ยืนที่ตันละ 12,000 บาท แต่ถูกกดดันจากรองนายกฯ และรมว.คลัง และรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ให้จำนำในราคา 15,000 บาท จนถึงวันที่ 15 ก.ย.56 ทำให้ข้าราชการต้องยอมรับ ทั้งที่ทราบว่าไม่มีเงินมากพอที่จะทำโครงการต่อได้จริงหรือไม่

4 .การเดินหน้ารับจำนำข้าว 15,000 บาท จะทำให้กรอบวงเงินที่กำหนดไม่เกิน 5 แสนล้านบาท อาจจะเกินกว่ากรอบดังกล่าว ทำให้ปิดบัญชีไม่ได้ รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร

5 .นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ อ้างว่า การระบายข้าวจะดีขึ้น ทั้งจากจีทูจี และสินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยตั้งเป้าหมายว่าจะขายข้าวได้ 72,000 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบมีแค่จีนประเทศเดียว ที่มีสัญญาซื้อขายกับประเทศไทย ส่วนประเทศอื่นยังไม่มีการทำสัญญาแต่อย่างใด ดังนั้นสมมติฐานที่อ้างว่าจะขายข้าวได้เพียงพอมาจำนำข้าวกับเกษตรกร เป็นแค่ตัวเลขที่ตั้งความหวัง และมองโลกในแง่ดีจนเกินไป

6 .จากรายงาน กขช.ยืนยันชัดว่า มีสต็อกข้าวในโกดังไม่น้อยกว่า 20 ล้านตัน คือ ข้าวสารแปรสภาพแล้ว 19 ล้านตัน และข้าวเปลือกที่ยังไม่ได้สีอีก 3 ล้านตัน รวมแล้วจะมีสต็อกข้าวสูงกว่า 20 ล้านตัน จึงสรุปได้ว่า ข้าวยังไม่มีการระบายออกตามที่มีการกล่าวอ้าง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญว่าทำไมรัฐบาลจึงถังแตก และไม่มีเงินเพียงพอที่จะจำนำข้าวในราคา 15,000 บาท ในฤดูกาลต่อไป

7 .นายกิตติรัตน์ ระบุว่า การจำนำข้าวจะมีความยืดหยุ่นได้ ยิ่งสร้างความสับสน เพราะราคาที่รัฐบาลจะรับซื้อจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งจะสร้างความเสียหายไม่ใช่เฉพาะตลาดค้าข้าวในประเทศ แต่จะไปถึงต่างประเทศด้วย

และ 8 .ปัญหาการทุจริตจากโครงการรับจำนำข้าว ทั้งการนำข้าวคุณภาพต่ำมาจำนำ สวมสิทธิ เวียนเทียน แต่รัฐบาลไม่พูดถึง สิ่งที่ทำให้โครงการนี้ล้มเหลว สาเหตุหลักคือ การเข้าไปโกงกินของนักการเมือง โรงสี และพ่อค้า หากรัฐบาลไม่แก้ไขก็คงปฏิเสธคำครหาที่ว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตด้วยไม่ได้

**เอกชนผวาไทยเสี่ยงถูกลดเครดิต

นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวถึงการมายืนรับจำนำข้าวที่ 15,000 บาทว่า อาจส่งผลต่อเครดิตของประเทศ เนื่องจากสถาบันจัดอันดับเครดิต เคยประเมินแล้วว่า โครงการรับจำนำข้าว มีผลเสียต่องบประมาณ ซึ่งเครดิตของประเทศจะมีผลต่อแผนการลงทุนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท เพราะจะมีผลต่อต้นทุนดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า เสถียรภาพทางการเงินของไทย ยังคงมีความมั่นคง จากทุนสำรองที่สูง ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพี อยู่ที่กว่าร้อยละ 40 ยังไม่เกินขีดความสามารถในการชำระหนี้

***ยึดข้าวเถื่อน25ตันคาด่านแม่สอด

วานนี้ (2 ก.ค.56) เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ฝ่ายปกครองแม่สอด ประจำจุดตรวจร่วมห้วยหินฝน บนถนนแม่สอด-ตาก สกัดจับรถบรรทุก 18 ล้อ ทะเบียน 80-8203 ตาก ที่บรรทุกข้าวสารเต็มคันรถ พร้อมจับกุมนายถนอม พูกานทอง อายุ 44 ปี คนขับรถ และนายสุธิพงษ์ อิสแมน อายุ 34 ปี ที่นั่งมาในรถด้วย

นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่า รถบรรทุก 18 ล้อคันดังกล่าว เดินทางออกจากชายแดนแม่สอด ผ่านมาที่ด่านห้วยหินฝน เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจึงเรียกตรวจสอบ แต่คนขับอ้างว่าบรรทุกกากน้ำมันสำปะหลัง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้น กลับพบว่ามีข้าวสาร 25,000 กิโลกรัม หรือ 25 ตัน ซุกซ่อนอยู่ใต้กากมันสำปะหลัง ลักษณะคล้ายปลายข้าว ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าจะขนไปที่ จ.นครสวรรค์ และจ.กำแพงเพชร

ทั้งนี้ มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า ข้าวสารจำนวนดังกล่าวนำเข้ามาจากพม่า และอาจส่งไปสวมสิทธิในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล

**พิจิตรฉาวอีก!พบข้าวเน่าเต็มโกดัง

วันนี้ (2 ก.ค.) ชาวนาจาก ต.ฆะมัง ต.สายคำโห้ และ ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร ที่นำข้าวเข้าจำนำผ่านโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ต.ท่าบัว อ.โพทะเล ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับใบประทวน ต่อมาเมื่อมีการตรวจสอบโกดังของโรงสี พบว่าทั้งข้าวของชาวนา และข้าวเปลือก ข้าวสารขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ถูกขนออกไปจนหมด และได้ทยอยเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเพื่อให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่เดินทางมาสอบสวนคดีโกงข้าวฉาวแล้วนั้น

เจ้าหน้าที่ ปปง.แจ้งว่าต้องสอบสวนให้ชัดเจนก่อนเพื่อจะได้พิจารณาตามยึดทรัพย์ผู้ที่ฉ้อโกงชาวนา และยักยอกทรัพย์ข้าวเปลือก ข้าวสารของ อ.ต.ก.กว่า 8,000 ตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทต่อไป แต่ขอเวลาทำงานก่อน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีชาวบ้านแจ้งผู้สื่อข่าวให้ช่วยตรวจสอบข้าวสารปริศนาที่เอกเกษตรคลังสินค้า บ้านดงชะพู หมู่ 6 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งในอดีตเป็นโกดังเก็บข้าวสารและเป็นโรงสีใหญ่ แต่เกือบ 3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการโรงสีแห่งนี้ประสบปัญหาด้านการเงิน จึงถูกธนาคารฟ้องยึดทรัพย์ และประกาศขายทอดตลาด

โดยพบภายในโกดังมีป้ายข้อความว่าเป็นคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) มีข้าวสารเก่าค้างปี คาดว่าไม่น้อยกว่า 5 ปี ถูกปล่อยทิ้งไว้ในโกดังร้างที่ชำรุดทรุดโทรม และหลังคารั่วทำให้ฝนตกใส่ข้าวสารจนเปียกชื้นขึ้นรา มีแมลงวันตอมเป็นจำนำมาก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งจนชาวบ้านทนไม่ไหว.
กำลังโหลดความคิดเห็น