xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำร่วง650บ.รายย่อยทุ่มซื้อหุ้นพุ่ง39จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – หุ้นไทยรีบาวนด์ต่อ ดีดเพิ่ม 39 จุด รายย่อย-สถาบัน-พอร์ตบล. ควงแขนซื้อ ขณะที่ต่างชาติยังขายไม่เลิกอีก 1.6 หมื่นล้านบาท โบรกฯมองแรงหนุนจาก Windows dressing สถานการณ์แบงก์จีนคลี่คลายน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯดูดี แต่เตือนความผันผวนยังมีสูง แนะจับตาคำสั่งศาลปกครองกรณีแผนบริหารจัดการน้ำ3.5แสนล้าน ด้านทองคำร่วง 650 บาท จ่อหลุด 18,000 บาท เหตุสถาบันการเงินต่างชาติปรับลดคาดการณ์ราคาทั้งปี “วายแอลจี”เชื่อมีโอกาสรีบาวนด์เหมือนหุ้น

สรุปภาวะหุ้นไทยวานนี้(26 มิ.ย.) ปิดที่ระดับ1,424.38 บวก39.75 จุด หรือ 2.87% จุดสูงสุด1,425.01 จุดต่ำสุด1,390.37 มูลค่าการซื้อขาย74,975.45ล้านบาท ภาพรวมตลาดหุ้นบวกกว่า39จุด เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค ทั้งตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
โดยมูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 12,573.33 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,540.27 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 794.85 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 16,908.45 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ฯ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวขึ้นในแดนบวกตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้า ภาพรวมดัชนีรีบาวด์จากนักลงทุนคลายความกังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE) หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด และคลายวิตกสถานการณ์ขาดสภาพคล่องในจีนหลังธนาคารกลางจีนออกมาย้ำว่าจีนไม่ได้ขาดสภาพคล่อง ซึ่งในส่วนของอัตราดอกเบี้ยก็ยังมีการดูแลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ประกอบกับ มีการทำ Windows dressing ช่วงปิดงบไตรมาส 2/56

สำหรับแนวโน้มดัชนีวันนี้(27 มิ.ย.)คาดว่ายังมีความผันผวน โดยมีประเด็นที่ต้องติดตาม คือ ศาลปกครองนัดฟังคำสั่งในคดีที่สมาคมต่อต้านโลกร้อนขอให้เพิกถอนแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล พร้อมให้กรอบแกว่งตัว 1,390--1,450 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,962.97 ล้านบาท ปิดที่ 180.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,357.77 ล้านบาท ปิดที่ 276.00 บาท เพิ่มขึ้น 13.00 บาท KTB มูลค่าการซื้อขาย 3,133.35 ล้านบาท ปิดที่ 19.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,463.86 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท และINTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,108.92 ล้านบาท ปิดที่ 82.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

**ทองร่วง650บาท ใกล้18,000บาท
ขณะเดียวกัน สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง 96.5% ว่า ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 18,150 ขายบาทละ 18,250 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 17,888.80 ขายบาทละ 18,650 ระหว่างวันมีการปรับราคา 10 ครั้ง สรุปปรับลดลง 650 บาท
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ จำกัด กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้ และทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยลบสำหรับราคาทองคำ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 5 วันติดต่อกัน หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกหนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสหรัฐ และตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 3.5% แล้ว ในปีนี้เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ซึ่งดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นโดยรักษาระดับอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ หลังจากมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจาก ธนาคารหลายแห่งปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองคำลงโดยธนาคารเครดิต สวิสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยปีนี้เหลือ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จาก 1,580 ดอลลาร์

ส่วนโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ว่าราคาทองคำ ณ สิ้นปี 2556 จะอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งลดลง 9.4% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปี 2556 ลงเหลือ 1,409 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับ 1,487 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับกองทุนทองคำ SPDR ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ยังคงมีการขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย โดยมีถือครองทองคำในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยถือครองทองคำต่ำกว่าระดับต่ำ 969.501 ตัน โดยลดการถือครองทองคำลงภายในวันเดียวถึง 16.232 ตัน ตัวเลขดังกล่าวได้สะท้อนมุมมองที่เป็นลบในตลาดทองคำมากยิ่งขึ้น

โดยกลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นเพื่อหวังเก็งกำไรจากดีดตัว โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,220 หรือ 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรก ซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,255 หรือ 1,268 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น