ASTV ผู้จัดการรายวัน - นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์พันธุกรรมแจ้งป.ดำเนินคดี 4 จนท.ห้องแล็ป ปลอมแปลงเอกสาร ทำลายทรัพย์บริษัท เชื่อมีการกลั่นแกล้งเป็นขบวนการ คาดนักธุรกิจอ.ท่าม่วงอยู่เบื้องหลัง หลังมีข้อพิพาทเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค
วานนี้ ( 25 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร อายุ 63 ปี ผู้ก่อตั้งและสร้างสรรค์นวัตกรรม บริษัท ฮาร์ท เจเนติกส์ จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับการตรวจพันธุกรรม (DNA) พร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์ ที่เป็นพนักงานของบริษัท เดินทางแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตพนักงานประจำห้องปฏิบัติการ (แล็ป) วิเคราะห์ระดับพันธุกรรม รวม 4 ราย ในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และทำลายทรัพย์สินจนเกิดความเสียหายแก่บริษัท โดยนำเอกสารรายงานผลการตรวจสุขภาพของลูกค้าและเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสารเคมีและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงานในห้องแล็ป จำนวนมาก มอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
ทั้งนี้ เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงต้นปี 2553 ขณะนั้น พบปัญหาการส่งผลตรวจดีเอ็นเอให้ลูกค้าล่าช้า จนเกิดคดีความฟ้องร้อง ต่อมา ก็เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น การแอบอ้างผลการวิจัยไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต , ถูกปลอมแปลงผลการวิจัยดีเอ็นเอ จนทำให้ไม่สามารถนำไปตรวจวิเคราะห์หาโรคของลูกค้าได้ รวมถึง มีการทำลายสารเคมีด้วยการใส่สิ่งปลอมปนลงไปทั้งนี้ ประเมินว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่า 3-5 ล้านบาท เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ตรวจสอบหลักฐาน และลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อเตรียมสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
“ ทางแล็ปที่ตนดำเนินการนั้นถูกกลั่นแกล้งอย่างจงใจมาโดยตลอด ซึ่งน่าจะมีนักธุรกิจรายหนึ่งใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อยู่เบื้องหลังเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากเขาได้กล่าวหาและร้องเรียนบริษัท ทำให้ตนต้องถูกฟ้องร้องทางคดีคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้มีการขโมยอุปกรณ์ เครื่องมือ ฐานข้อมูลงานวิจัย และเอกสารสำคัญ รวมทั้งการทำลายสารเคมีตามที่กล่าวไว้แล้ว"
วานนี้ ( 25 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร อายุ 63 ปี ผู้ก่อตั้งและสร้างสรรค์นวัตกรรม บริษัท ฮาร์ท เจเนติกส์ จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับการตรวจพันธุกรรม (DNA) พร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์ ที่เป็นพนักงานของบริษัท เดินทางแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตพนักงานประจำห้องปฏิบัติการ (แล็ป) วิเคราะห์ระดับพันธุกรรม รวม 4 ราย ในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และทำลายทรัพย์สินจนเกิดความเสียหายแก่บริษัท โดยนำเอกสารรายงานผลการตรวจสุขภาพของลูกค้าและเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสารเคมีและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงานในห้องแล็ป จำนวนมาก มอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
ทั้งนี้ เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงต้นปี 2553 ขณะนั้น พบปัญหาการส่งผลตรวจดีเอ็นเอให้ลูกค้าล่าช้า จนเกิดคดีความฟ้องร้อง ต่อมา ก็เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น การแอบอ้างผลการวิจัยไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต , ถูกปลอมแปลงผลการวิจัยดีเอ็นเอ จนทำให้ไม่สามารถนำไปตรวจวิเคราะห์หาโรคของลูกค้าได้ รวมถึง มีการทำลายสารเคมีด้วยการใส่สิ่งปลอมปนลงไปทั้งนี้ ประเมินว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่า 3-5 ล้านบาท เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ตรวจสอบหลักฐาน และลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อเตรียมสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
“ ทางแล็ปที่ตนดำเนินการนั้นถูกกลั่นแกล้งอย่างจงใจมาโดยตลอด ซึ่งน่าจะมีนักธุรกิจรายหนึ่งใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อยู่เบื้องหลังเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากเขาได้กล่าวหาและร้องเรียนบริษัท ทำให้ตนต้องถูกฟ้องร้องทางคดีคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้มีการขโมยอุปกรณ์ เครื่องมือ ฐานข้อมูลงานวิจัย และเอกสารสำคัญ รวมทั้งการทำลายสารเคมีตามที่กล่าวไว้แล้ว"
