นายทวี แพใหญ่ กรรมการสมาคมประมงทับละมุ ควงอดีตกำนันท้ายเหมือง พร้อมทนาย เข้ารับทราบข้อหาหมิ่นฯแม่ทัพเรือภาค 3 อ้างถูกกลั่นแกล้ง
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. นายทวี แพใหญ่ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/3 หมู่ 5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กรรมการสมาคมประมงทับละมุ และอดีต กำนัน ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง พร้อมด้วย นายชายศักดิ์ บุญรักษ์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.เพื่อรับทราบข้อหาหมิ่นประมาท และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน โดย นายทวี จะส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรมอบให้กับพนักงานสอบสวนภายใน 10 วัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2555 พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ น.ท.พรพรหม สกุลเต็ม นายทหารเรือสังกัดทัพเรือภาคที่ 3 ได้มอบอำนาจให้ทหารพระธรรมนูญ เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายทวี ซึ่งกล่าวพาดพิงการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังทหารเรือทัพภาคที่ 3 กรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารเรือเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวน 98 ราย บนเรือประมง ในพื้นที่ จ.พังงา โดยนายทวีกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่กระทำการเกินกว่าเหตุ และเลือกปฏิบัติ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2555
โดย นายทวี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เนื่องจากตนมีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับ พล.ร.ท.ธราธร จึงถูกกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมาก็มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันอยู่หลายคดี ทั้งที่ศาลจังหวัดพังงา ศาลจังหวัดตะกั่วป่า และศาลจังหวัดภูเก็ต ตนอยากฝากให้ทางผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติ เพราะกองเรือภาคที่ 3 มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ถึง 6 จังหวัดทางภาคใต้ แต่เหตุใดจึงเจาะจงดำเนินการเฉพาะที่อ่าวทับละมุ และทราบดีว่าตนทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งเรือประมง แพปลา รวมทั้งท่าเรือท่องเที่ยว มีการตรวจตราอย่างเข้มงวดจนผิดสังเกต
“ลูกน้องของผมที่เป็นแรงงานต่างด้าวกว่า 100 คน นั้นเป็นแรงงานถูกกฎหมาย สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นผมขอต่อสู้เต็มที่ สำหรับการพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ร.ท.ธราธร นั้น ได้ปรึกษากับทนายความแล้วเห็นว่า หากจะแจ้งความไว้คู่กรณีก็คงประวิงเวลา จึงอาจจะฟ้องศาลแทน” นายทวี กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า เมื่อมีการเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องปล่อยตัวกลับ โดยหลังจากนี้ก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งบุคคลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเห็นส่งฟ้องคดีต่อไป
