สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ปราชญ์เรืองนามแห่งตำราพิชัยสงครามทุกคน ล้วนถือ”คน”เป็นปัจจัยชี้ขาดแพ้-ชนะทั้งสิ้น!
คน-ที่ยังไม่ต้องแยกคนดีหรือคนชั่ว หากฝ่ายใดมีคนที่เก่งกว่าและมีคนที่เก่งมากกว่า ย่อมมีโอกาสจะชนะอีกฝ่ายมากกว่าเป็นธรรมดา
เพราะคนเก่งจะสร้างสรรค์การต่อสู้ ทั้งบุ๋นและบู๊ได้ทุกรูปแบบ เพื่อเดินหน้าจากไม่มีสู่มี จากเล็กสู่ใหญ่ จากอ่อนแอสู่แข็งแกร่ง จากไร้อำนาจรัฐสู่การมีอำนาจรัฐไว้ในกำมือ ฯลฯ
ส่วนคนชนะจะใช้อำนาจรัฐไปสร้างผลประโยชน์ ให้กับประชาชนและส่วนรวม หรือใช้อำนาจรัฐอย่างสามานย์เพื่อโกงชาติ และโกยเงินเข้ากร ะเป๋าตนเองกับพวกพ้อง ก่อนจะใช้เงินสกปรกที่โกงชาติ หวนกลับมาซื้ออำนาจรัฐอีกครั้ง เพื่อจะได้โกงชาติอีกครั้ง..อีกครั้ง..และอีกครั้ง..
ปราชญ์ทั้งหลายจึงเน้นเสมอว่า คนชั่วย่อมทำชั่ว คนดีย่อมทำดี!
คนชั่วนี่แหละ..ที่ทำให้การเมืองไทยกลายเป็นวงจรอุบาทว์ ด้วยเหล่ามหาโจรการเมืองปัจจุบันรู้ว่า การลงทุนในธุรกิจการเมืองเพื่อโกงชาตินั้น-คุ้มค่าจริงๆ แหม..แค่เงิน “จำนำข้าว”หรือซื้อข้าวในราคาแพงกว่าท้องตลาด ก็ใช้เงินประชาชนไปไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท จนรัฐต้องขาดทุนกับการโกงไปแล้วถึง 2.6 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นรัฐบาล “ปูแดง” ยังอ้างการแก้ปัญหาน้ำ ทำการกู้เงินอีก 3.5 แสนล้านบาท เท่านั้นไม่พอ.. รัฐบาล “กู้เพื่อพี่-หนี้เพื่อชาติ” ยังกู้เงินก้อนมหึมาอีก 2 ล้านล้านบาท ยังผลให้คนไทยต้องใช้หนี้ต่างชาตินานถึง 50 ปี โดยรัฐบาลอ้างว่า จะนำเงินไปสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน
3 โครงการที่คิดค่าคอมมิชชั่นแค่ 30 % เงินที่ “เฮียเหลี่ยม” กับนักการเมืองชั่ว จะโกยเข้ากระเป๋าก็ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาทแล้ว
นี่ยังไม่รวมเงินงบประมาณแผ่นดินปี 2557 อีกกว่า 2.5 ล้านล้านบาท หากคิดค่า”สุนัขรับประทาน”แค่ 30 % เฮียเหลี่ยมกับพวกจะได้เงินโกงเพิ่มอีก 750,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมาเฮียเหลี่ยมเป็นรัฐบาลแค่ 5 ปี ก็รวยล้นฟ้ามากกว่า 4-5 แสนล้านบาท เงินสกปรกของเฮียเหลี่ยมจึงถูกอายัด ณ ประเทศอังกฤษแห่งเดียวมากถึง 1,400,000 ล้านบาท!
เห็นไหมล่ะว่า..เงินชาติมากมายมหาศาลเหล่านี้แหละ ที่ทำให้บรรดานายทุนขี้โกงทั้งหลาย แห่เข้าวงการเมืองเต็มไปหมด เพื่อแข่งใช้เงินซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐ และใช้กลไกรัฐไปโกงชาติกันไงล่ะครับ
แถมกฏหมายและองค์กรตรวจสอบการโกงชาติ ก็ไร้ประสิทธิภาพในการจับนักการเมืองชั่วเข้าคุกอีกต่างหาก ดังนั้น นักการเมืองขี้โกงจึงยังลอยนวลอยู่ในสังคมสบายใจเฉิบ
ดุจ “เฮียเหลี่ยม” ที่ปล้นชาติปล้นประชาชน จนถูกศาลฯพิพากษาให้จำคุก 2 ปี แต่นักโทษชาย “เหลี่ยม” ก็ยังลอยนวลอยู่ต่างประเทศได้จนทุกวันนี้ แถมยังใช้เงินสกปรกจากการโกงชาติ กลับมาซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือได้อีกด้วย
ประชาธิปไตยอเมริกาและตะวันตก ไม่เคยมีนายทุนของพรรคหน้าไหน โทรศัพท์หรือสไกป์บงการประธานาธิปดีอเมริกา หรือนายกฯประเทศอังกฤษ ให้ทำตามความต้องการของนายทุนพรรคเลย..จริงไหม?
แต่นักโทษชายเฮียเหลี่ยมกลับบงการรัฐบาลและสภา ผ่านโทรศัพท์และสไกป์ตลอดเวลา เพื่อหวังโกงกินโครงการต่างๆในชาติไทย ผ่านระบอบเผด็จการรัฐสภาและรัฐบาลหุ่นเชิด ที่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง จนสังคมไทยเต็มไปด้วยความอยุติธรรม
ความชั่วช้าสามานย์ของเฮียเหลี่ยมเป็นที่ประจักษ์ชัด ต่อชาวไทยและชาวโลกมาตลอด!
ดังนั้น..หากคนดียึดอำนาจรัฐได้ การใช้อำนาจรัฐจะเป็นผลดีต่อส่วนรวม เงินงบประมาณจำนวนมหาศาลของคนไทย จึงสามารถนำไปสร้างความเจริญ ให้กับชาติและประชาชนได้เต็มที่ เพราะไม่มีนักการเมืองชั่วมารุมคอร์รัปชั่นโกงกินชาตินั่นเอง
ทว่าหากมหาโจรการเมืองยึดอำนาจรัฐได้ อำนาจรัฐย่อมถูกใช้ไปในทางชั่วช้าสามานย์ ดังสภาพเลวร้ายที่มหาโจรการเมือง “เหลี่ยมบ้าเงิน” กำลังปล้นชาติปล้นคนไทยอยู่ในขณะนี้ไงล่ะครับ
แน่นอน..ไม่มีชนใดหรือประเทศใดในโลกใบนี้ ยินยอมให้คนชั่วหรือรัฐบาลชั่ว ที่ยึดอำนาจรัฐได้จากการซื้อเสียงและหาเสียงโกหก ด้วยนโยบายประชานิยม ที่ทำได้บ้างทำไม่ได้บ้าง จนผลาญเงินของแผ่นดินอย่างมโหฬาร ไปกับนโยบายที่ก่อผลเสียต่อชาติทั้งระยะสั้น-กลาง-ยาว รวมทั้งยังทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ-การเงิน-การคลังของชาติ ฯลฯ
คน-จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ที่จะนำชาติและประชาชน ไปสู่ความเจริญหรือความล่มสลาย!
หากคนดี-ได้ปกครองบ้านเมือง ชาติและประชาชนจะเจริญรุ่งเรือง!!
หากคนชั่ว-ได้ปกครองบ้านเมือง ชาติและประชาชนจะวินาศสันตะโรอย่างแน่นอน!!!
ดังนั้น ตำราพิชัยสงครามของปราชญ์ทุกคนในโลกนี้ จึงแวดล้อมด้วยหลักการ “คนเป็นปัจจัยชี้ขาดแพ้ชนะ”ทั้งสิ้น แต่ทั้งหมดจะตัดสินชี้ขาดกันตรงที่..
คน-ฝ่ายใดสู้เพื่อผดุงธรรมให้คนส่วนใหญ่ คน-ฝ่ายใดสู้เพื่อเถลิงอำนาจอธรรมให้ตนกับพวกพ้อง!
ส่วนนายทุนสามานย์อย่างเฮียเหลี่ยมนั้น ได้พิสูจน์ตัวตนชัดแจ้งแล้วว่า เขาได้พ่ายแพ้ต่อความละโมบโลภมาก ที่ฝังลึกอยู่ในกมลสันดานของเขา จนไม่มีวันจะลด-ละ-เลิกได้อีกแล้ว นั่นเท่ากับเฮียเหลี่ยมคือผู้ “ขุดหลุมฝังศพ”ด้วยมือตนเอง เพราะ “เหลี่ยมบ้าเงิน” ไม่เคยรู้จักคำว่าพอเพียงครับ
โรคบ้าเงิน-กับ-โรคบ้าอำนาจ เป็นสองโรคที่พึ่งพาอาศัยกันและกัน “เฮียเหลี่ยม”รู้ว่า..ถ้า “อยากมีเงินก็ต้องมีอำนาจ-ถ้าอยากมีอำนาจก็ต้องมีเงิน” การดำเนินชีวิตของพวกบ้าเงินและบ้าอำนาจ จะไม่สนใจใยดีในคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม-ความซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะเฮียเหลี่ยมที่ชั่วแบบเหนือจินตนาการด้วยแล้ว เขาได้กลายเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ และต่อประชาชนคนไทยในทุกมิติไปแล้ว
เฮียเหลี่ยมจึงเป็นตัวอย่างบุรุษสารเลวสุดๆ ที่ใช้ทั้งความเจ้าเล่ห์-ใช้เงิน-ใช้ยศตำแหน่ง เที่ยวล่อซื้ออำนาจและผู้คนมาเป็นขี้ข้าของตน เพื่อช่วยให้เฮียเหลี่ยมทำชั่วต่อชาติอย่างหน้าด้านๆนั่นเอง
แค่โครงการ “โกงกระจาย-รวยกระจุก” หรือโครงการกำมะลอเพื่อการหาเสียง และเพื่อการโกงแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ที่ใช้เงินไปแล้วกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งโกหกกันอย่างหน้าด้านๆว่า “โครงการจำนำข้าวทุกเม็ด” ทั้งๆที่เป็นโครงการ “ซื้อข้าวแพงกว่าตลาดทุกเม็ด” จนวันนี้..ยังไม่เคยมีใครหน้าไหน กำเงินมาไถ่ถอนข้าวที่ “จำนำ” ไว้กับรัฐแม้แต่เม็ดเดียวเลย..จริงไหม?
แถมพรรคพวกรัฐบาลทั้งโรงสีและนักการเมือง ยังแอบขนข้าวจากพม่า-กัมพูชา-ลาว ที่ขายในราคาถูกเพียงตันละ 6-7 พันบาท มาขายให้ทางการไทยในราคาสูงถึงตันละ 15,000 บาท นอกจากนั้นยังมีการขนข้าวในโกดัง มา “เวียนเทียน” ขายให้กับทางการ บางแห่งถึงกับขาย “ข้าวลม” ให้ทางการไทยกันเลยล่ะ
อีกทั้งข้าวมหาศาลที่รัฐบาลซื้อเก็บไว้ในโกดังต่างๆ ก็ไม่สามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้ตามที่โม้ ดังนั้น ข้าวจึงค้างอยู่ในสต็อกไม่ต่ำกว่า 17-18 ล้านตัน จนรัฐบาลต้องจ้างบริษัทเอกชน มาฉีดพ่นยาเคมีป้องกันเชื้อราและแมลงบางชนิด ฯลฯ
ที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นสุดๆ คือ รัฐบาล “ปูเสื้อแดง” ใช้วิธีระบายข้าวไร้คุณภาพ โดยไร้จิตสำนึกที่ดีและไม่มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะ ด้วยการให้บริษัท “โมเดิร์นเทรด” บางแห่ง และหน่วยงานรัฐบาลบางที่ นำข้าวที่ไร้คุณภาพและฉีดยาเคมี ป้องกันเชื้อราและแมลงมาประมูล เพื่อนำ “ข้าวพิษ” ไปบรรจุลงถุงขาย โดยผู้บริโภค “ข้าวพิษ” มีโอกาส จะเป็นโรคมะเร็งตับได้ในอนาคตครับ
ขาดทุนเงินรัฐหรือเงินของประชาชน ในโครงการจำนำข้าวถึง 260,000 กว่าล้านบาท ยังสำคัญไม่เท่ารัฐบาลเป็น “ฆาตกร” คร่าชีวิตประชาชน ไปสู่หุบเหวแห่งความตายโดยไม่รู้ตัว
ข้าว-เรื่องเดียวก็ชั่วสุดๆ เหนือจินตนาการ จนรัฐบาลชั่วๆ ของ “เหลี่ยมบ้าเงิน” อยู่ไม่ได้แล้วครับ!
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ปราชญ์เรืองนามแห่งตำราพิชัยสงครามทุกคน ล้วนถือ”คน”เป็นปัจจัยชี้ขาดแพ้-ชนะทั้งสิ้น!
คน-ที่ยังไม่ต้องแยกคนดีหรือคนชั่ว หากฝ่ายใดมีคนที่เก่งกว่าและมีคนที่เก่งมากกว่า ย่อมมีโอกาสจะชนะอีกฝ่ายมากกว่าเป็นธรรมดา
เพราะคนเก่งจะสร้างสรรค์การต่อสู้ ทั้งบุ๋นและบู๊ได้ทุกรูปแบบ เพื่อเดินหน้าจากไม่มีสู่มี จากเล็กสู่ใหญ่ จากอ่อนแอสู่แข็งแกร่ง จากไร้อำนาจรัฐสู่การมีอำนาจรัฐไว้ในกำมือ ฯลฯ
ส่วนคนชนะจะใช้อำนาจรัฐไปสร้างผลประโยชน์ ให้กับประชาชนและส่วนรวม หรือใช้อำนาจรัฐอย่างสามานย์เพื่อโกงชาติ และโกยเงินเข้ากร ะเป๋าตนเองกับพวกพ้อง ก่อนจะใช้เงินสกปรกที่โกงชาติ หวนกลับมาซื้ออำนาจรัฐอีกครั้ง เพื่อจะได้โกงชาติอีกครั้ง..อีกครั้ง..และอีกครั้ง..
ปราชญ์ทั้งหลายจึงเน้นเสมอว่า คนชั่วย่อมทำชั่ว คนดีย่อมทำดี!
คนชั่วนี่แหละ..ที่ทำให้การเมืองไทยกลายเป็นวงจรอุบาทว์ ด้วยเหล่ามหาโจรการเมืองปัจจุบันรู้ว่า การลงทุนในธุรกิจการเมืองเพื่อโกงชาตินั้น-คุ้มค่าจริงๆ แหม..แค่เงิน “จำนำข้าว”หรือซื้อข้าวในราคาแพงกว่าท้องตลาด ก็ใช้เงินประชาชนไปไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท จนรัฐต้องขาดทุนกับการโกงไปแล้วถึง 2.6 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นรัฐบาล “ปูแดง” ยังอ้างการแก้ปัญหาน้ำ ทำการกู้เงินอีก 3.5 แสนล้านบาท เท่านั้นไม่พอ.. รัฐบาล “กู้เพื่อพี่-หนี้เพื่อชาติ” ยังกู้เงินก้อนมหึมาอีก 2 ล้านล้านบาท ยังผลให้คนไทยต้องใช้หนี้ต่างชาตินานถึง 50 ปี โดยรัฐบาลอ้างว่า จะนำเงินไปสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน
3 โครงการที่คิดค่าคอมมิชชั่นแค่ 30 % เงินที่ “เฮียเหลี่ยม” กับนักการเมืองชั่ว จะโกยเข้ากระเป๋าก็ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาทแล้ว
นี่ยังไม่รวมเงินงบประมาณแผ่นดินปี 2557 อีกกว่า 2.5 ล้านล้านบาท หากคิดค่า”สุนัขรับประทาน”แค่ 30 % เฮียเหลี่ยมกับพวกจะได้เงินโกงเพิ่มอีก 750,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมาเฮียเหลี่ยมเป็นรัฐบาลแค่ 5 ปี ก็รวยล้นฟ้ามากกว่า 4-5 แสนล้านบาท เงินสกปรกของเฮียเหลี่ยมจึงถูกอายัด ณ ประเทศอังกฤษแห่งเดียวมากถึง 1,400,000 ล้านบาท!
เห็นไหมล่ะว่า..เงินชาติมากมายมหาศาลเหล่านี้แหละ ที่ทำให้บรรดานายทุนขี้โกงทั้งหลาย แห่เข้าวงการเมืองเต็มไปหมด เพื่อแข่งใช้เงินซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐ และใช้กลไกรัฐไปโกงชาติกันไงล่ะครับ
แถมกฏหมายและองค์กรตรวจสอบการโกงชาติ ก็ไร้ประสิทธิภาพในการจับนักการเมืองชั่วเข้าคุกอีกต่างหาก ดังนั้น นักการเมืองขี้โกงจึงยังลอยนวลอยู่ในสังคมสบายใจเฉิบ
ดุจ “เฮียเหลี่ยม” ที่ปล้นชาติปล้นประชาชน จนถูกศาลฯพิพากษาให้จำคุก 2 ปี แต่นักโทษชาย “เหลี่ยม” ก็ยังลอยนวลอยู่ต่างประเทศได้จนทุกวันนี้ แถมยังใช้เงินสกปรกจากการโกงชาติ กลับมาซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือได้อีกด้วย
ประชาธิปไตยอเมริกาและตะวันตก ไม่เคยมีนายทุนของพรรคหน้าไหน โทรศัพท์หรือสไกป์บงการประธานาธิปดีอเมริกา หรือนายกฯประเทศอังกฤษ ให้ทำตามความต้องการของนายทุนพรรคเลย..จริงไหม?
แต่นักโทษชายเฮียเหลี่ยมกลับบงการรัฐบาลและสภา ผ่านโทรศัพท์และสไกป์ตลอดเวลา เพื่อหวังโกงกินโครงการต่างๆในชาติไทย ผ่านระบอบเผด็จการรัฐสภาและรัฐบาลหุ่นเชิด ที่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง จนสังคมไทยเต็มไปด้วยความอยุติธรรม
ความชั่วช้าสามานย์ของเฮียเหลี่ยมเป็นที่ประจักษ์ชัด ต่อชาวไทยและชาวโลกมาตลอด!
ดังนั้น..หากคนดียึดอำนาจรัฐได้ การใช้อำนาจรัฐจะเป็นผลดีต่อส่วนรวม เงินงบประมาณจำนวนมหาศาลของคนไทย จึงสามารถนำไปสร้างความเจริญ ให้กับชาติและประชาชนได้เต็มที่ เพราะไม่มีนักการเมืองชั่วมารุมคอร์รัปชั่นโกงกินชาตินั่นเอง
ทว่าหากมหาโจรการเมืองยึดอำนาจรัฐได้ อำนาจรัฐย่อมถูกใช้ไปในทางชั่วช้าสามานย์ ดังสภาพเลวร้ายที่มหาโจรการเมือง “เหลี่ยมบ้าเงิน” กำลังปล้นชาติปล้นคนไทยอยู่ในขณะนี้ไงล่ะครับ
แน่นอน..ไม่มีชนใดหรือประเทศใดในโลกใบนี้ ยินยอมให้คนชั่วหรือรัฐบาลชั่ว ที่ยึดอำนาจรัฐได้จากการซื้อเสียงและหาเสียงโกหก ด้วยนโยบายประชานิยม ที่ทำได้บ้างทำไม่ได้บ้าง จนผลาญเงินของแผ่นดินอย่างมโหฬาร ไปกับนโยบายที่ก่อผลเสียต่อชาติทั้งระยะสั้น-กลาง-ยาว รวมทั้งยังทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ-การเงิน-การคลังของชาติ ฯลฯ
คน-จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ที่จะนำชาติและประชาชน ไปสู่ความเจริญหรือความล่มสลาย!
หากคนดี-ได้ปกครองบ้านเมือง ชาติและประชาชนจะเจริญรุ่งเรือง!!
หากคนชั่ว-ได้ปกครองบ้านเมือง ชาติและประชาชนจะวินาศสันตะโรอย่างแน่นอน!!!
ดังนั้น ตำราพิชัยสงครามของปราชญ์ทุกคนในโลกนี้ จึงแวดล้อมด้วยหลักการ “คนเป็นปัจจัยชี้ขาดแพ้ชนะ”ทั้งสิ้น แต่ทั้งหมดจะตัดสินชี้ขาดกันตรงที่..
คน-ฝ่ายใดสู้เพื่อผดุงธรรมให้คนส่วนใหญ่ คน-ฝ่ายใดสู้เพื่อเถลิงอำนาจอธรรมให้ตนกับพวกพ้อง!
ส่วนนายทุนสามานย์อย่างเฮียเหลี่ยมนั้น ได้พิสูจน์ตัวตนชัดแจ้งแล้วว่า เขาได้พ่ายแพ้ต่อความละโมบโลภมาก ที่ฝังลึกอยู่ในกมลสันดานของเขา จนไม่มีวันจะลด-ละ-เลิกได้อีกแล้ว นั่นเท่ากับเฮียเหลี่ยมคือผู้ “ขุดหลุมฝังศพ”ด้วยมือตนเอง เพราะ “เหลี่ยมบ้าเงิน” ไม่เคยรู้จักคำว่าพอเพียงครับ
โรคบ้าเงิน-กับ-โรคบ้าอำนาจ เป็นสองโรคที่พึ่งพาอาศัยกันและกัน “เฮียเหลี่ยม”รู้ว่า..ถ้า “อยากมีเงินก็ต้องมีอำนาจ-ถ้าอยากมีอำนาจก็ต้องมีเงิน” การดำเนินชีวิตของพวกบ้าเงินและบ้าอำนาจ จะไม่สนใจใยดีในคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม-ความซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะเฮียเหลี่ยมที่ชั่วแบบเหนือจินตนาการด้วยแล้ว เขาได้กลายเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ และต่อประชาชนคนไทยในทุกมิติไปแล้ว
เฮียเหลี่ยมจึงเป็นตัวอย่างบุรุษสารเลวสุดๆ ที่ใช้ทั้งความเจ้าเล่ห์-ใช้เงิน-ใช้ยศตำแหน่ง เที่ยวล่อซื้ออำนาจและผู้คนมาเป็นขี้ข้าของตน เพื่อช่วยให้เฮียเหลี่ยมทำชั่วต่อชาติอย่างหน้าด้านๆนั่นเอง
แค่โครงการ “โกงกระจาย-รวยกระจุก” หรือโครงการกำมะลอเพื่อการหาเสียง และเพื่อการโกงแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ที่ใช้เงินไปแล้วกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งโกหกกันอย่างหน้าด้านๆว่า “โครงการจำนำข้าวทุกเม็ด” ทั้งๆที่เป็นโครงการ “ซื้อข้าวแพงกว่าตลาดทุกเม็ด” จนวันนี้..ยังไม่เคยมีใครหน้าไหน กำเงินมาไถ่ถอนข้าวที่ “จำนำ” ไว้กับรัฐแม้แต่เม็ดเดียวเลย..จริงไหม?
แถมพรรคพวกรัฐบาลทั้งโรงสีและนักการเมือง ยังแอบขนข้าวจากพม่า-กัมพูชา-ลาว ที่ขายในราคาถูกเพียงตันละ 6-7 พันบาท มาขายให้ทางการไทยในราคาสูงถึงตันละ 15,000 บาท นอกจากนั้นยังมีการขนข้าวในโกดัง มา “เวียนเทียน” ขายให้กับทางการ บางแห่งถึงกับขาย “ข้าวลม” ให้ทางการไทยกันเลยล่ะ
อีกทั้งข้าวมหาศาลที่รัฐบาลซื้อเก็บไว้ในโกดังต่างๆ ก็ไม่สามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้ตามที่โม้ ดังนั้น ข้าวจึงค้างอยู่ในสต็อกไม่ต่ำกว่า 17-18 ล้านตัน จนรัฐบาลต้องจ้างบริษัทเอกชน มาฉีดพ่นยาเคมีป้องกันเชื้อราและแมลงบางชนิด ฯลฯ
ที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นสุดๆ คือ รัฐบาล “ปูเสื้อแดง” ใช้วิธีระบายข้าวไร้คุณภาพ โดยไร้จิตสำนึกที่ดีและไม่มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะ ด้วยการให้บริษัท “โมเดิร์นเทรด” บางแห่ง และหน่วยงานรัฐบาลบางที่ นำข้าวที่ไร้คุณภาพและฉีดยาเคมี ป้องกันเชื้อราและแมลงมาประมูล เพื่อนำ “ข้าวพิษ” ไปบรรจุลงถุงขาย โดยผู้บริโภค “ข้าวพิษ” มีโอกาส จะเป็นโรคมะเร็งตับได้ในอนาคตครับ
ขาดทุนเงินรัฐหรือเงินของประชาชน ในโครงการจำนำข้าวถึง 260,000 กว่าล้านบาท ยังสำคัญไม่เท่ารัฐบาลเป็น “ฆาตกร” คร่าชีวิตประชาชน ไปสู่หุบเหวแห่งความตายโดยไม่รู้ตัว
ข้าว-เรื่องเดียวก็ชั่วสุดๆ เหนือจินตนาการ จนรัฐบาลชั่วๆ ของ “เหลี่ยมบ้าเงิน” อยู่ไม่ได้แล้วครับ!