สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ใครบางคนสรุปว่า..สภาฯ-รัฐบาลเป็นเช่นไร..ประชาชนก็เป็นเช่นนั้น!
หากประชาชนส่วนใหญ่ดี-ก็จะต้องเลือกคนดีเข้าสภา หากสภาฯดี-ก็ต้องมีสส.ดีมากกว่าสส.เลว หากรัฐบาลดี-ก็ต้องมีนายกฯและคณะรัฐมนตรีเป็นคนดี
วันนี้ชาติไทยอยู่ในสภาพตรงข้าม เพราะความจริงในชาติไทย คือ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อม กับประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบตะวันตก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ยังฉลาดไม่เท่าทันเล่ห์นักการเมืองชั่ว ยังรับรู้และวิเคราะห์ข่าวสารที่ถูกต้องได้ไม่พอ ยังเห็นแก่อามิสสินจ้างจากนักการเมืองที่ซื้อเสียง ฯลฯ
ที่สำคัญ..ประชาชนคนส่วนใหญ่ยังเห็นแก่ตัว-ไม่เห็นแก่ส่วนรวม!
แต่“ปรีดี พนมยงค์”เชื่อว่า ประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบตะวันตก จะทำให้ชาติไทยเจริญและทันสมัยเหมือนชาติตะวันตก จึงร่วมกับทหารก่อการรัฐประหาร โค่นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ลง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปี 2475
ดังนั้น ไทยหลัง ปี 2475 พระมหากษัตริย์จึงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ “ปรีดีฯ”จึงพาชาติไทยเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า “ประชาธิปไตย”อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากนั้นคนไทยก็วนเวียนอยู่ในวงจร การเลือกตั้งผู้แทนฯ ครั้งแล้วครั้งเล่ากว่า 80 ปี
“ปรีดีฯ”ในวันนั้นคงไม่คาดคิดว่า ความไม่พร้อมของคนไทยส่วนใหญ่ในทุกมิติ จะนำปัญหาใหญ่หลวงมาสู่ชาติไทยในวันนี้!
การเลือกตั้งแบบตะวันตก ในสภาพที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่พร้อม ทำให้ชาติไทยได้รัฐบาลส่วนใหญ่จากการเลือกตั้งที่บ้าอำนาจและโกงชาติ จนถูกทหารทำรัฐประหารกว่า 13 ครั้ง แต่รัฐบาลเผด็จการทหารก็จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ทุกครั้ง
ทว่า..ทั้งรัฐบาลเลือกตั้งและเผด็จการทหาร ไม่เคยปฏิรูปชาติไทยในทุกมิติแม้แต่น้อย การเมืองไทยจึงชั่วช้าเลวทรามลงเป็นลำดับ
เมื่อคนไทยส่วนใหญ่ไม่พร้อม จึงตกเป็นเหยื่อนายทุนสามานย์ ที่เห็นแก่ตัว-ขี้โกง-โกหกหลอกลวงเก่ง จนประชาชนแยกแยะไม่ออกว่า นักการเมืองคนใดดี-คนใดชั่ว จนหลงไปเลือกพวกสส.ชั่วเข้าสภามากขึ้นเรื่อยๆ
จากการซื้อเสียงในอดีตแค่แจกน้ำปลา-ปลาทู-รองเท้า ฯลฯ ภายหลังมีการซื้อเสียงจาก15 บาท 120 บาท เป็น 500 บาท ส่วนตัวสส.พรรคการเมืองจะซื้อคนละ 5 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10 ล้านบาท กระทั่ง 15-20 ล้านบาท
พอมหาเศรษฐี”เหลี่ยม”เข้ามาเล่นการเมือง ก็มีการจ่ายเงินสส.ต่อคนต่ำสุด 30 ล้านบาท บางเขตจ่ายสูงถึง 50-60 ล้านบาท และจ่ายเงินซื้อเสียงผู้คนต่อหัวถึง 1,500-3,000 บาท การหาเสียงก็โกหกแบบหน้าด้านๆ ว่า จะยุบกองทุนน้ำมัน-ลดราคาน้ำมัน กระชากราคาสินค้าแพงลงทันที ฯลฯ แต่รัฐบาล”เฮียเหลี่ยม-ปูกลวง”ไม่ทำตามคำหาเสียง
วันนั้น-ประชาธิปไตยการเลือกตั้งแบบตะวันตก ที่”ปรีดีฯ”นำมาให้ชาติไทยใช้ทั้งดุ้น ในสภาพคนไทยส่วนใหญ่ไม่พร้อม จึงเป็นช่องทางให้นายทุนสามานย์ ใช้เงินซื้อสส.ซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดสภาและอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติบ้านเมืองได้ใน-วันนี้
เพราะนายทุนอย่าง”เฮียเหลี่ยม”ลงทุนด้วยเงิน ก็ต้องโกยเงินถอนทุนบวกกำไรทบท่าวทวีคูณ!
เลือกตั้งเป็น”ที่มา”ของการได้คนดีหรือคนชั่วเข้าสภา เมื่อมีการโกงและใช้เงินซื้อเสียงได้ คนชั่วจึงได้เข้าสภาฯมากกว่าคนดีตลอด
สภาฯเสมือน”หัวใจ” เพราะสภาฯจะเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี สภาฯจะเป็นผู้ออกกฏหมาย-แก้กฏหมาย-ยกเลิกกฏหมาย ฯลฯ ตรวจสอบการทำงานรัฐบาลแต่นั่นเป็นหลักการประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เท่านั้น
แต่ในชาติไทยนั้น..นายทุนสามานย์”เหลี่ยม” คุมสภาฯและรัฐบาลได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สภาฯกับรัฐบาลจึงเป็นเครื่องมือของ"มหาโจรเหลี่ยม”เป็น”ซ่องโจร”ที่ "มหาโจรเหลี่ยม”กับสมุน ใช้เป็นสถานที่สุมหัวกันปล้นชาติ-ปล้นประชาชนแบบถูกกฏหมาย
ผมเชื่อ 100 % ว่า “ปรีดีฯ”ไม่ต้องการให้สภา กับรัฐบาลเป็นพวกเดียวกัน เพราะสิ่งที่“ปรีดีฯ”เห็นและต้องการนั้น สถาบันตุลาการ-ศาล สถาบันนิติบัญญัติ-สภา สถาบันบริหาร-รัฐบาล ต้องเป็นอิสระจากกันเพื่อตรวจสอบกันและกัน ฯลฯ
วันนี้"สภาส้นตีนแดง”กับ”รัฐบาลชิน”เป็นพวกเดียวกัน ที่สำคัญ..ทั้งสภาและรัฐบาลนี้ ยังยอมตนเป็นขี้ข้านักโทษชายหนีคุก ”เฮียเหลี่ยม”แบบเต็ม 100 % อีกด้วย
แต่นายกฯหญิงคนแรกของชาติไทย ที่เป็นน้องสาวของ”เฮียเหลี่ยม” กลับกล้า”แตหลอ”อย่างหน้าด้านๆ ว่าเรื่องที่เข้าสู่สภาฯเพื่อลงมตินั้น เป็นเรื่องของสภาฯล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลเลย..
แถม”เฮียเหลี่ยม”กับพวกยังพยายาม จะแก้กฏหมายรัฐธรรมนูญเพื่อลดบทบาท และเข้าครอบงำหรือยุบศาลบางแห่งอีกด้วย
ระบอบประชาธิปไตยแท้จริงที่ ปรีดี พนมยงค์ กับเหล่า”คณะราษฎร์”ต้องการ คงมิใช่การเมืองปัจจุบันที่ฉ้อฉล จนทำให้นายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง อยู่ในตำแหน่งแค่ 4 ปี แต่มีเงินไม่โปร่งใส 3-4 แสนล้านบาท ถูกศาลฯไทยยึดกว่า 4 หมื่นล้านบาท และถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดอีกกว่า 1 แสนล้านบาท..จริงไหม?
หาก“ปรีดีฯ”มีชีวิตอยู่ในระบอบ ประชาธิปไตยทุนสามานย์“เฮียเหลี่ยม” ที่สุดแสนจะสกปรกโสมมดังในวันนี้ “ปรีดีฯ”จะทำเช่นไร กับการที่”เฮียเหลี่ยม”จะล้มรัฐบาลฝ่ายตรงข้ามตน ด้วยการใช้”คนเสื้อแดง”เผาศาลากลาง-เผาบ้านเมือง ใช้อาวุธสงครามฆ่าทหารและประชาชน?
“ปรีดีฯ”จะขำกลิ้งไหม ที่”เฮียเหลี่ยม”กับพวกกลับดำเป็นขาวว่า การใช้ความรุนแรงอย่างป่าเถื่อนเช่นนั้น เป็นการต่อสู้อย่างสันติและตามวิถีทางประชาธิปไตยเสียด้วย?
น่าสงสาร”ปรีดีฯ”ที่หวังให้ชาติไทย เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ความต้องการ”ปรีดีฯ”ต้องเป็น”หมัน” จนทำให้การเสี่ยงชีวิตของ"ปรีดีฯ”ไม่คุ้มค่า ด้วย"เฮียเหลี่ยม”กับพวกได้ทำลาย ระบอบประชาธิปไตยที่"ปรีดีฯ” หวัง-อยากได้-ต้องการจนย่อยยับ ด้วยการสถาปนาระบอบเผด็จการรัฐสภาฯ ที่โกงชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นแล้ว
ว่าไหม..ถ้า ปรีดี พนมยงค์ มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ “ปรีดีฯ”กับเพื่อนๆ”คณะราษฏร์”คงเสียใจ และก่นด่า”เฮียเหลี่ยม”กับพวกแน่ โดยเฉพาะนักวิชาการบางคนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่”ปรีดีฯ”ก่อร่างสร้างขึ้นหลังเหตุการณ์ 2475 อย่างป่นปี้
โทษฐานที่นักวิชาการไปเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จึงหุบปากไม่พูดความจริงว่า ชาติไทยวันนี้มิได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย หากแต่เป็นระบอบเผด็จการรัฐสภา ของนายทุนสามานย์”เฮียเหลี่ยม” ที่ทำลายประชาธิปไตยและชาติบ้านเมือง
อีกทั้ง”ปรีดีฯ”ที่ชาญฉลาด คงไม่ยอมเอาชีวิตไปเสี่ยงตาย เพื่อให้”เฮียเหลี่ยม”และนักการเมืองชั่ว ใช้เงินซื้อเสียงเข้ามายึดสภาฯ และทำให้สภาฯ กลายเป็นขี้ข้า ของนายทุนสามานย์เพียงคนเดียวแน่นอน!
ที่สำคัญ“ปรีดีฯ”กับเหล่า”คณะราษฎร์” จะไม่มีวันยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อได้ประชาธิปไตยจอมปลอมแบบนี้ เพราะเปิดช่องให้คนชั่วอย่าง”เฮียเหลี่ยม”และพวก ใช้เงินซื้อเสียง-ยึดสภา-ตั้งรัฐบาลชั่วครองเมือง เพื่อปล้นชาติปล้นประชาชนเด็ดขาด
ผมเชื่อโดยส่วนตัวนะว่า “ปรีดีฯ”กับเพื่อนๆ”คณะราษฏร์” ยอมเสี่ยงชีวิตเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ก็เพื่อจะให้คนดีได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง มิใช่ให้คนชั่วขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดิน..จริงไหม..?
ถ้า“ปรีดีฯ”รู้ว่า ชาติ ไทยจะเป็นประชาธิปไตย”ส้นตีนแดง” ที่ตอบสนองความโลภ”เฮียเหลี่ยม” ให้โกงกินชาติอย่างชั่วช้าเช่นนี้ ฟันธงเปรี้ยงได้เลยว่า..
“ปรีดี พนมยงค์”คงไม่ยอมเสี่ยงตาย ให้คนชั่วอย่าง “เฮียเหลี่ยม”ครองเมืองแน่นอน!
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ใครบางคนสรุปว่า..สภาฯ-รัฐบาลเป็นเช่นไร..ประชาชนก็เป็นเช่นนั้น!
หากประชาชนส่วนใหญ่ดี-ก็จะต้องเลือกคนดีเข้าสภา หากสภาฯดี-ก็ต้องมีสส.ดีมากกว่าสส.เลว หากรัฐบาลดี-ก็ต้องมีนายกฯและคณะรัฐมนตรีเป็นคนดี
วันนี้ชาติไทยอยู่ในสภาพตรงข้าม เพราะความจริงในชาติไทย คือ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อม กับประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบตะวันตก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ยังฉลาดไม่เท่าทันเล่ห์นักการเมืองชั่ว ยังรับรู้และวิเคราะห์ข่าวสารที่ถูกต้องได้ไม่พอ ยังเห็นแก่อามิสสินจ้างจากนักการเมืองที่ซื้อเสียง ฯลฯ
ที่สำคัญ..ประชาชนคนส่วนใหญ่ยังเห็นแก่ตัว-ไม่เห็นแก่ส่วนรวม!
แต่“ปรีดี พนมยงค์”เชื่อว่า ประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบตะวันตก จะทำให้ชาติไทยเจริญและทันสมัยเหมือนชาติตะวันตก จึงร่วมกับทหารก่อการรัฐประหาร โค่นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ลง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปี 2475
ดังนั้น ไทยหลัง ปี 2475 พระมหากษัตริย์จึงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ “ปรีดีฯ”จึงพาชาติไทยเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า “ประชาธิปไตย”อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากนั้นคนไทยก็วนเวียนอยู่ในวงจร การเลือกตั้งผู้แทนฯ ครั้งแล้วครั้งเล่ากว่า 80 ปี
“ปรีดีฯ”ในวันนั้นคงไม่คาดคิดว่า ความไม่พร้อมของคนไทยส่วนใหญ่ในทุกมิติ จะนำปัญหาใหญ่หลวงมาสู่ชาติไทยในวันนี้!
การเลือกตั้งแบบตะวันตก ในสภาพที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่พร้อม ทำให้ชาติไทยได้รัฐบาลส่วนใหญ่จากการเลือกตั้งที่บ้าอำนาจและโกงชาติ จนถูกทหารทำรัฐประหารกว่า 13 ครั้ง แต่รัฐบาลเผด็จการทหารก็จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ทุกครั้ง
ทว่า..ทั้งรัฐบาลเลือกตั้งและเผด็จการทหาร ไม่เคยปฏิรูปชาติไทยในทุกมิติแม้แต่น้อย การเมืองไทยจึงชั่วช้าเลวทรามลงเป็นลำดับ
เมื่อคนไทยส่วนใหญ่ไม่พร้อม จึงตกเป็นเหยื่อนายทุนสามานย์ ที่เห็นแก่ตัว-ขี้โกง-โกหกหลอกลวงเก่ง จนประชาชนแยกแยะไม่ออกว่า นักการเมืองคนใดดี-คนใดชั่ว จนหลงไปเลือกพวกสส.ชั่วเข้าสภามากขึ้นเรื่อยๆ
จากการซื้อเสียงในอดีตแค่แจกน้ำปลา-ปลาทู-รองเท้า ฯลฯ ภายหลังมีการซื้อเสียงจาก15 บาท 120 บาท เป็น 500 บาท ส่วนตัวสส.พรรคการเมืองจะซื้อคนละ 5 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10 ล้านบาท กระทั่ง 15-20 ล้านบาท
พอมหาเศรษฐี”เหลี่ยม”เข้ามาเล่นการเมือง ก็มีการจ่ายเงินสส.ต่อคนต่ำสุด 30 ล้านบาท บางเขตจ่ายสูงถึง 50-60 ล้านบาท และจ่ายเงินซื้อเสียงผู้คนต่อหัวถึง 1,500-3,000 บาท การหาเสียงก็โกหกแบบหน้าด้านๆ ว่า จะยุบกองทุนน้ำมัน-ลดราคาน้ำมัน กระชากราคาสินค้าแพงลงทันที ฯลฯ แต่รัฐบาล”เฮียเหลี่ยม-ปูกลวง”ไม่ทำตามคำหาเสียง
วันนั้น-ประชาธิปไตยการเลือกตั้งแบบตะวันตก ที่”ปรีดีฯ”นำมาให้ชาติไทยใช้ทั้งดุ้น ในสภาพคนไทยส่วนใหญ่ไม่พร้อม จึงเป็นช่องทางให้นายทุนสามานย์ ใช้เงินซื้อสส.ซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดสภาและอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติบ้านเมืองได้ใน-วันนี้
เพราะนายทุนอย่าง”เฮียเหลี่ยม”ลงทุนด้วยเงิน ก็ต้องโกยเงินถอนทุนบวกกำไรทบท่าวทวีคูณ!
เลือกตั้งเป็น”ที่มา”ของการได้คนดีหรือคนชั่วเข้าสภา เมื่อมีการโกงและใช้เงินซื้อเสียงได้ คนชั่วจึงได้เข้าสภาฯมากกว่าคนดีตลอด
สภาฯเสมือน”หัวใจ” เพราะสภาฯจะเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี สภาฯจะเป็นผู้ออกกฏหมาย-แก้กฏหมาย-ยกเลิกกฏหมาย ฯลฯ ตรวจสอบการทำงานรัฐบาลแต่นั่นเป็นหลักการประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เท่านั้น
แต่ในชาติไทยนั้น..นายทุนสามานย์”เหลี่ยม” คุมสภาฯและรัฐบาลได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สภาฯกับรัฐบาลจึงเป็นเครื่องมือของ"มหาโจรเหลี่ยม”เป็น”ซ่องโจร”ที่ "มหาโจรเหลี่ยม”กับสมุน ใช้เป็นสถานที่สุมหัวกันปล้นชาติ-ปล้นประชาชนแบบถูกกฏหมาย
ผมเชื่อ 100 % ว่า “ปรีดีฯ”ไม่ต้องการให้สภา กับรัฐบาลเป็นพวกเดียวกัน เพราะสิ่งที่“ปรีดีฯ”เห็นและต้องการนั้น สถาบันตุลาการ-ศาล สถาบันนิติบัญญัติ-สภา สถาบันบริหาร-รัฐบาล ต้องเป็นอิสระจากกันเพื่อตรวจสอบกันและกัน ฯลฯ
วันนี้"สภาส้นตีนแดง”กับ”รัฐบาลชิน”เป็นพวกเดียวกัน ที่สำคัญ..ทั้งสภาและรัฐบาลนี้ ยังยอมตนเป็นขี้ข้านักโทษชายหนีคุก ”เฮียเหลี่ยม”แบบเต็ม 100 % อีกด้วย
แต่นายกฯหญิงคนแรกของชาติไทย ที่เป็นน้องสาวของ”เฮียเหลี่ยม” กลับกล้า”แตหลอ”อย่างหน้าด้านๆ ว่าเรื่องที่เข้าสู่สภาฯเพื่อลงมตินั้น เป็นเรื่องของสภาฯล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลเลย..
แถม”เฮียเหลี่ยม”กับพวกยังพยายาม จะแก้กฏหมายรัฐธรรมนูญเพื่อลดบทบาท และเข้าครอบงำหรือยุบศาลบางแห่งอีกด้วย
ระบอบประชาธิปไตยแท้จริงที่ ปรีดี พนมยงค์ กับเหล่า”คณะราษฎร์”ต้องการ คงมิใช่การเมืองปัจจุบันที่ฉ้อฉล จนทำให้นายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง อยู่ในตำแหน่งแค่ 4 ปี แต่มีเงินไม่โปร่งใส 3-4 แสนล้านบาท ถูกศาลฯไทยยึดกว่า 4 หมื่นล้านบาท และถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดอีกกว่า 1 แสนล้านบาท..จริงไหม?
หาก“ปรีดีฯ”มีชีวิตอยู่ในระบอบ ประชาธิปไตยทุนสามานย์“เฮียเหลี่ยม” ที่สุดแสนจะสกปรกโสมมดังในวันนี้ “ปรีดีฯ”จะทำเช่นไร กับการที่”เฮียเหลี่ยม”จะล้มรัฐบาลฝ่ายตรงข้ามตน ด้วยการใช้”คนเสื้อแดง”เผาศาลากลาง-เผาบ้านเมือง ใช้อาวุธสงครามฆ่าทหารและประชาชน?
“ปรีดีฯ”จะขำกลิ้งไหม ที่”เฮียเหลี่ยม”กับพวกกลับดำเป็นขาวว่า การใช้ความรุนแรงอย่างป่าเถื่อนเช่นนั้น เป็นการต่อสู้อย่างสันติและตามวิถีทางประชาธิปไตยเสียด้วย?
น่าสงสาร”ปรีดีฯ”ที่หวังให้ชาติไทย เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ความต้องการ”ปรีดีฯ”ต้องเป็น”หมัน” จนทำให้การเสี่ยงชีวิตของ"ปรีดีฯ”ไม่คุ้มค่า ด้วย"เฮียเหลี่ยม”กับพวกได้ทำลาย ระบอบประชาธิปไตยที่"ปรีดีฯ” หวัง-อยากได้-ต้องการจนย่อยยับ ด้วยการสถาปนาระบอบเผด็จการรัฐสภาฯ ที่โกงชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นแล้ว
ว่าไหม..ถ้า ปรีดี พนมยงค์ มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ “ปรีดีฯ”กับเพื่อนๆ”คณะราษฏร์”คงเสียใจ และก่นด่า”เฮียเหลี่ยม”กับพวกแน่ โดยเฉพาะนักวิชาการบางคนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่”ปรีดีฯ”ก่อร่างสร้างขึ้นหลังเหตุการณ์ 2475 อย่างป่นปี้
โทษฐานที่นักวิชาการไปเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จึงหุบปากไม่พูดความจริงว่า ชาติไทยวันนี้มิได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย หากแต่เป็นระบอบเผด็จการรัฐสภา ของนายทุนสามานย์”เฮียเหลี่ยม” ที่ทำลายประชาธิปไตยและชาติบ้านเมือง
อีกทั้ง”ปรีดีฯ”ที่ชาญฉลาด คงไม่ยอมเอาชีวิตไปเสี่ยงตาย เพื่อให้”เฮียเหลี่ยม”และนักการเมืองชั่ว ใช้เงินซื้อเสียงเข้ามายึดสภาฯ และทำให้สภาฯ กลายเป็นขี้ข้า ของนายทุนสามานย์เพียงคนเดียวแน่นอน!
ที่สำคัญ“ปรีดีฯ”กับเหล่า”คณะราษฎร์” จะไม่มีวันยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อได้ประชาธิปไตยจอมปลอมแบบนี้ เพราะเปิดช่องให้คนชั่วอย่าง”เฮียเหลี่ยม”และพวก ใช้เงินซื้อเสียง-ยึดสภา-ตั้งรัฐบาลชั่วครองเมือง เพื่อปล้นชาติปล้นประชาชนเด็ดขาด
ผมเชื่อโดยส่วนตัวนะว่า “ปรีดีฯ”กับเพื่อนๆ”คณะราษฏร์” ยอมเสี่ยงชีวิตเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ก็เพื่อจะให้คนดีได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง มิใช่ให้คนชั่วขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดิน..จริงไหม..?
ถ้า“ปรีดีฯ”รู้ว่า ชาติ ไทยจะเป็นประชาธิปไตย”ส้นตีนแดง” ที่ตอบสนองความโลภ”เฮียเหลี่ยม” ให้โกงกินชาติอย่างชั่วช้าเช่นนี้ ฟันธงเปรี้ยงได้เลยว่า..
“ปรีดี พนมยงค์”คงไม่ยอมเสี่ยงตาย ให้คนชั่วอย่าง “เฮียเหลี่ยม”ครองเมืองแน่นอน!