xs
xsm
sm
md
lg

เสียงแช่งจาก “บรรพบุรุษของไทย”!(ตอนหนึ่ง)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

หลังสาดน้ำสงกรานต์เย็นฉ่ำใจแล้ว “สงกรานต์การเมือง”ที่เข้าสู่องศาเดือด จะเป็นชนวนระเบิดที่ทำให้ รัฐบาลนี้ล้มครืนลงได้หลายเรื่อง!

เรื่องไทยอาจเสียดินแดนให้เขมร โดยรัฐบาลเหลี่ยมกับรัฐบาลฮุนเซ็น กำลังแสดงละคร “ตบตี”กันในศาลโลก ทั้งๆที่เบื้องหลังละครลวงโลกนี้ เหลี่ยม-ฮุนเซ็น-บุชแอบ “จูบปาก”กันตลอดเวลา

เริ่มจากรัฐบาล “ชวน หลีกภัย”ไปเซ็น MOU 2543 ยอมรับแผนที่เขมรมาตราส่วน1 ต่อ 2 แสน ส่งผลให้ดินแดนไทยทั้ง 4.6 ตร.กม. รอบตัวปราสาทพระวิหาร และตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร อีก 1.8 ล้านไร่ กลายเป็นดินแดนที่รัฐบาลไทยต้องเรียกว่า “พื้นที่ทับซ้อน” ในขณะที่รัฐบาลเขมรเรียกว่า ดินแดนของเขมรที่ถูกทหารไทยยึดไป

นั่นเป็นผลงานของฝรั่งกลุ่ม “บุช” ที่ทำงาน “ใต้ดิน-ใต้โต๊ะ”ผ่านใครบางคน ในรัฐบาล “ชวน”ที่ “ไม่เชื่องช้า”กับการเซ็น MOU 2543 ที่ “เปิดประตูแรก”ให้เขมรได้เปรียบชาติไทย

เมื่อเหลี่ยมเป็นรัฐบาลก็ไม่ยกเลิก MOU 2543 แถมยังทำ MOU 2544 กับฮุนเซ็นเพิ่มอีก หลังโกยหุ้นปตท.มหาศาลไว้ในกำมือได้แล้ว เหลี่ยมเดินหน้าสู่ธุรกิจน้ำมัน ที่ทำเงินได้มากกว่าธุรกิจอื่นๆ ยิ่งเหลี่ยมมีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือด้วยแล้ว ยิ่งง่ายต่อการให้สัมปทานตนเองและต่างชาติครับ

นาย “เตียบัน”รมว.กลาโหมเขมร ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า เหลี่ยมได้ตัดสินใจทำธุรกิจน้ำมันในเขมรโดยเช่าเกาะกงไว้ 99 ปีแล้ว และเหลี่ยมจะตกลงกับฮุนเซ็นในบางเรื่องอีกครั้งหนึ่ง

เหลี่ยม-ฮุนเซ็น-บุชได้วางแผนลับ เพื่อให้ฮุนเซ็นได้ครองดินแดนไทย ตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร1.8 ล้านไร่ ซึ่งครอบคลุมลงไปจนถึงบ่อน้ำมันส่วนใหญ่ ที่อยู่ใต้ทะเลไทย-กัมพูชา ตามแผนที่มาตราส่วน1 ต่อ 2 แสน ใน MOU 2543

ด้วยเหลี่ยม-บุชรู้ว่า หากบ่อน้ำมันส่วนใหญ่เป็นของเขมร การปล้นบ่อน้ำมันใต้ทะเลไทย-เขมรจะง่ายและไร้ปัญหา เนื่องจากเขมรฮุนเซ็นคุมมวลชน-สื่อฯ-รัฐบาล-รัฐสภาเขมร ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจนไม่มีใครกล้าหือ-ถ้าใครหือก็อาจถึงตายได้!

เพราะขืนเหลี่ยม-บุชโกงมโหฬารในไทย โดยเหลี่ยมยังคุมสื่อฯ-มวลชน-ทหารไม่ได้100 % ก็อาจโดนเปิดโปง-โดนชุมนุมประท้วง จนทำให้รัฐบาลของเหลี่ยม ที่เป็นขี้ข้ารัฐบาลกับนายทุนสามานย์อเมริกา อาจล้มครืนลงก็ได้..จริงไหม?

งานนี้เหลี่ยม-บุชจึงแค่ดึงฮุนเซ็นมาร่วมหุ้น จ่ายเงินบนโต๊ะ-ใต้โต๊ะให้ฮุนเซ็นจนหนำใจ ฮุนเซ็นผู้เห็นแก่เงินจึงไม่ลังเลที่จะตอบ OK ครับ

เมื่อฮุนเซ็นต้องลงเลือกตั้งเพื่อเป็นนายกฯอีกครา จึงเกิดแผน “ยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง” โดยให้ฮุนเซ็นประกาศจะเอาดินแดน(ของไทย) 4.6 ตร.กม. รอบตัวปราสาทพระวิหาร เพื่อนำไปขึ้นเป็นมรดกโลก

แถม “เหลี่ยม”ยังขยิบตาให้ฮุนเซ็น ส่งทหารเขมรเข้ามายึดดินแดนไทย โดยเหลี่ยมได้สั่งทหารไทยมิให้ปะทะ ด้วยข้ออ้างว่า..จะเสียหายต่อมิตรภาพอันดีของไทย-กัมพูชา “ไฟเขียว”จากเหลี่ยมนี่เอง ทำให้เขมรตั้งค่ายทหาร-หมู่บ้าน-ตลาด-วัด ในดินแดนไทยได้อย่างถาวรจนทุกวันนี้

ทว่าธุรกิจโกงบ่อน้ำมันยังไม่ทันสำเร็จ รัฐบาลเหลี่ยมที่โกงชาติ ก็ถูกพันธมิตรฯและคนไทยชุมนุมขับไล่ จนเหลี่ยมถูกทหารรัฐประหารโค่นล้มลง ในวันที่ 19 กันยายน 2549

เมื่อรัฐบาลของคณะรัฐประหารจัดให้มีการเลือกตั้ง โดยมิได้ปฏิรูปการเมืองใดๆเลย จึงทำให้เหลี่ยมยังใช้เงินซื้อเสียง จนชนะการเลือกตั้งได้อีกครั้งหนึ่ง เหลี่ยมได้ตั้ง “จมูกชมพู่”ให้เป็นนายกฯนอมีนี และ “ไฟเขียว”ให้ฮุนเซ็นรีบนำตัวปราสาทพระวิหาร ผนวกดินแดน 4.6 ตร.กม.ของไทย ไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงผู้เดียวทันที

โดยรัฐบาล “จมูกชมพู่”ได้ส่งรมต.ต่างประเทศ “ติ๊งเหล่” ไปเซ็นยินยอมให้รัฐบาลเขมรเอาดินแดนไทย ไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกด้วย

เหลี่ยมลงทุนขายชาติสะบั้นหั่นแหลกขนาดนี้ จึงทำให้ฮุนเซ็นชนะการเลือกตั้งในเขมร เหนือคู่แข่งแบบขาดลอย จนได้กลับมาเป็นนายกฯชาติเขมรอีกหน

แต่รัฐบาลนอมมีนี “จมูกชมพู่” และรัฐบาล “ชายกระโปรงแดง” ดำเนินนโยบายโกงชาติ-ขายชาติ-ล้มเจ้า ก็ต้องล้มครืนลงด้วยทหารกลุ่มหนึ่ง “พลิกขั้ว”ทางการเมืองด้วยการดัน“หล่อ” ให้เป็นนายกฯแทนนายกฯ “ชายกระโปรงแดง” แต่หล่อที่ดีแต่จ้อเก่งไปวันๆ ก็มิได้ยกเลิก MOU 2543 ที่รัฐบาลปชป.เซ็นไว้ และไม่ยอมขับไล่ทหารเขมรออกจากดินแดนไทยอีกด้วย

โดย “หล่อ”กับ “เหลี่ยม”อ้างตรงกันเป๊ะเลยว่า ไม่ต้องการทำลายมิตรภาพไทย-กัมพูชาครับ!

ยุครัฐบาลหล่อนี่แหละ ที่ฮุนเซ็นได้ยิงถล่มชายแดนไทย สร้างกรณีพิพาทไทย-เขมรขึ้นมา แล้วส่งเรื่องไปให้ศาลโลกตัดสินชี้ขาด ทั้งๆ ที่ศาลโลกมิใช่ศาลยุติธรรมของโลก แต่เป็นศาลการเมืองที่ชาติมหาอำนาจครอบงำอยู่ และศาลโลกแห่งนี้แหละเคยทำให้ชาติไทย เผชิญกับความอยุติธรรมแบบสุดๆ จนไทย ต้องสูญเสียตัวปราสาทพระวิหาร ให้กับเขมรมาแล้วในปี 2505

แต่รัฐบาลหล่อต่อด้วยรัฐบาลปูกลวงของเหลี่ยม ก็ยังจงใจเดินตามก้นเขมรไปสู่ศาลโลกอีก!

การแถลงปิดคดีไทย-เขมรในศาลโลก เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2556 นายฮอร์ นัมฮง หัวหน้าทีมยึดดินแดนไทยจอมเจ้าเล่ห์ของเขมร ได้อ้างการยอมรับของไทยต่อแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน และยังอ้างถึงชุมชนชาวเขมรว่า ได้อยู่ในดินแดน 4.6 ตร.กม.มานานแล้ว เพราะถ้าเป็นดินแดนของไทย ทำไมรัฐบาลเหลี่ยมและทุกรัฐบาลของไทย จึงไม่คัดค้านหรือขับไล่ชุมชนเขมรล่ะ?

อืม..คำพูดเขมร ฮอร์ นัมฮง แสบสันต์และสะท้อนชัดว่า หลายรัฐบาลไทยได้ขายชาติ ด้วยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ผลักดัน เขมรผู้รุกรานให้ออกจากดินแดนไทย จน “นัมฮง”นำข้อมูลโกหกตอแหลนี้ ใช้อ้างหลอกชาวโลกและศาลโลกอย่างหน้าด้านๆ!

ถ้าปลายปี 2556 ศาลโลกตัดสินคดี ให้ไทยต้องเสียดินแดน 4.6 ตร.กม.กับเขมร โดยรัฐบาล “ปู”ประกาศชัดว่า รัฐบาลนี้จะปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก และเชื่อว่าประชาชนคนไทยจะเห็นด้วย!

การเสียดินแดนไทยให้เขมรแบบไร้เหตุผล โดยฝีมือของนักการเมืองขายชาติ ที่สมคบทั้งกับฮุนเซ็นและบริษัทค้าน้ำมันอเมริกา เป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้แน่นอน อีกทั้งเรื่องเสียดินแดนจะจบแบบง่ายๆ ด้วยคำโกหกพกลมที่ว่า

รัฐบาลนี้ต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก มิฉะนั้นชาวโลกจะบอยคอตชาติไทย ดังรัฐบาลปู-สื่อฯ-นักวิชาการขี้ข้าเหลี่ยม กำลังโหมโฆษณาชวนเชื่ออยู่ในเวลานี้

งานนี้นักการเมืองไทยขายชาติทั้งหลาย ยากที่จะโบ้ยความผิดไปที่ศาลโลกว่า

“เราสู้เต็มที่แล้วนะ”แต่ “ศาลโลกไม่ยุติธรรม” เพราะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ศาลโลกมิใช่ศาลยุติธรรมของโลก แต่เป็นศาลการเมืองระดับโลก ที่อยู่ใต้อิทธิพลของชาติมหาอำนาจครับ

หากศาลโลกตัดสินคดีให้เจ๊าไม่เจ๊ง ก็มิได้หมายความว่านัการเมืองชั่ว และข้าราชการกระทรวงต่างประเทศเก่ง เพราะไม่มีเหตุผลทางบวกใดๆเลย ที่นักการเมืองชั่วจะนำดินแดนไทยมาสู่หนทาง เกือบเสียหรือเสียดินแดนให้กับชาติเขมรแบบนี้

เพราะดินแดนไทยแห่งนี้ พระมหากษัตริย์และคนไทยต้องเสีย ทั้งน้ำตา-เลือด-เนื้อ-ชีวิตนับไม่ถ้วน เพื่อพิทักษ์ปกป้องเอกราชอธิปไตย และดินแดนไทยมาอย่างยาวนาน

ไม่ว่านักการเมืองขายชาติจะทำให้ ชาติไทยเกือบเสียดินแดน หรือต้องเสียดินแดนไทยให้กับเขมร ทั้งๆที่กองทัพเขมรนั้นด้อยกว่ากองทัพไทยมากมาย จึงนับเป็นเรื่องน่าอดสูและน่าอับอาย ต่อวิญญาณบรรพบุรุษของไทยยิ่งนัก!

ไทยมิได้คลั่งชาติ ไทยมิใช่ชาติเอาเปรียบชาติอื่น ไทยเป็นชาติที่รักสงบและสันติ แต่ไทยเป็นชาติที่พร้อมรบพร้อมสละชีวิตปกป้องดินแดนไทย แต่ไทยโชคร้ายที่มีกลุ่มนักการเมืองขายชาติ ซึ่งเห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้-ไม่รักชาติไทย ไทยจึงเผชิญกับการเกือบเสียดินแดน หรือต้องเสียดินแดนให้กับชาติเขมรไงล่ะครับ

เฮ้อ..ผมได้ยินเสียงบรรพบุรุษของไทย ตะโกนสาปแช่งพวกนักการเมืองขายชาติทุกคนว่า

เฮ้ย..ขอให้ไอ้ลูกหลานอัปรีย์จัญไร..จงไปลงนรกซะ..!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น