ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ถ้าจะกล่าวถึง เท่ง เถิดเทิง หรือ พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ เชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนใดไม่รู้จัก นักแสดงตลกจากแก๊งสามช่า ดาวตลกคับฟ้ายุคนี้ของเมืองไทย ถึงขนาดว่าครึ่งหนึ่งเคยได้รับรางวัล เอเชี่ยน เทเลวิชั่น อวอร์ด 2007 ประเภทนักแสดงตลกฝ่ายชายยอดเยี่ยม เท่ง เถิดเทิง จึงได้รับฉายาว่า "ตลกเอเชีย"และ"ตลกอัจฉริยะ"
นาทีนี้สำหรับเท่ง เถิดเทิง แล้ว ก็หาได้หยุดความโด่งดังของเขาไว้แค่นี้ เพราะมาถึงขณะนี้เชื่อได้ว่าผู้คนจำนวนมากคงจะต้องให้ความสนใจต่อดาวตลกผู้นี้เป็นอย่างมากก็คือสิ่งที่ เท่ง เถิดเทิง แสดงจุดยืนทางการเมืองของเขาออกมาอย่างหมดเปลือกนั้นเอง
เรื่องราวที่ว่าก็คือเมื่อค่ำของคืนวันที่ 4 มิ.ย. เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 38 ของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งมีการจัดงานในชื่อ “เพื่อนพ้องน้องพี่ปีที่ 38” ขึ้นที่ เค รีสอร์ท ถ.ประเสริฐมนูญกิจ เลียบทางด่วนรามอินทรา
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดท หรือ ดีเอ็นเอ็น ของกลุ่มคนเสื้อแดงรายงานว่า งานวันเกิดนายณัฐวุฒิเริ่มคึกคักตั้งแต่เวลา 16.00น. โดยมีคนเสื้อแดง ตัวแทนเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่นายณัฐวุฒิเคยดำรงตำแหน่ง รมช. และกระทรวงพาณิชย์ที่ปัจจุบันนายณัฐวุฒิดำรงตำแหน่ง รมช. ทยอยมาร่วมงาน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีบุคคลระดับแกนนำของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตบเท้าพาเหรดเข้ามาในงานวันเกิดอย่างคับคั่ง อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงคู่หูอย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์
ทีเด็ดของงานนี้ก็คือ การรายงานของเว็บไซต์ dangdd.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการแลกเปลี่ยนข่าวสารของคนเสื้อแดงระบุว่า ในงานวันเกิดนายณัฐวุฒิวานนี้นอกจากแกนนำ-ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานแล้ว ยังมีดาราตลกนักแสดง และพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” หรือ นายพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ นักแสดงตลกจากแก๊งสามช่า ซึ่งสร้างชื่อเสียงจากการเป็นดาวตลกร่วมกับ หม่ำ จ๊กมก และ โหน่ง ชะชะช่า ซึ่งอยู่ในสังกัดของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) มาร่วมงานด้วย
แน่นอน ไฮไลท์ของงานนี้น่าจะโฟกัสไปที่ เท่ง เถิดเทิง ซึ่งได้เลิกเหนียมอาย ประกาศจุดยืนอันแน่แน่วทางการเมืองของตัวเองแบบชัดเจน ชัดถ้อยชัดคำ โดยได้ขึ้นเวทีร้องเพลงอวยพรวันเกิด นายณัฐวุฒิ ปิดท้ายคำว่า "อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน" เท่านั้นเองได้เรียกเสียงกรี๊ดจากคนเสื้อแดงในงานกันสนั่นเลยทีเดียว เรียกว่าได้ใจบรรดาสาวกเสื้อแดงที่แห่แหนไปงานนี้แบบเต็มๆ เอาเป็นว่าแทบจะยกให้เป็นไอดอลคนใหม่ของคนเสื้อแดงก็ไม่น่าจะเคอะเขินด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกัน ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนเสื้อแดงขนาดที่ว่า ได้มีการนำภาพชุดในงานไปโพสต์ โดยระบุว่า ไม่ต้องแค่กินตับหรอกพี่ หัวใจผมก็กล้าให้พี่กิน แถมยังมีภาพในงาน ที่แสดงถึงความสนิทสนมชิดเชื้อ ภาพเป็นเท่ง เถิดเทิง กำลังถือไมค์ยืนอยู่บนเวที อีกภาพเป็นการยืนกอดกันกับนายณัฐวุฒิ อย่างสนิทสนม พร้อมข้อความว่า อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน
ขนาดที่ว่า นายวิสา คัญทัพ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ยังลงทุนออกมาโพสต์เฟซบุ๊ค แสดงความคิดเห็น พร้อมแต่งกลอนมอบให้กับ "เท่ง เถิดเทิง" มีใจความว่าความจริงมีศิลปินที่ยืนอยู่ฟากฝั่งประชาธิปไตยประชาชน ฝ่ายเสื้อแดงนี่แหละ อีกมาก แต่ทว่าเขาไม่เปิดเผยตัว จนกว่าเขาจะทนไม่ไหว ทำไมไม่เปิดเผยตัว ตอบว่า เพราะถ้าเปิดเผยตัว เขาจะมีปัญหาช่องทางทำมาหากินทันที เหมือนกรณี "เอกชัย ศรีวิชัย" เคยโดนถล่มในสถานการณ์หนึ่ง
จำได้ไหม เพราะคนชั้นกลาง ค่อนไปทางสูง ส่วนใหญ่เป็นทุนรับใช้ระบอบอำมาตย์ทั้งนั้น เขาคุมปัจจัยศิลปวัฒนธรรมไว้เป็นด้านหลัก หากศิลปินที่รักความเป็นธรรมและรักประชาธิปไตยออกมาต่อสู้ตรง ก็จะเสี่ยงต่อการดำรงชีวิต ดังนั้น กรณี "เท่ง เถิดเทิง" ถือว่ามีความกล้าหาญยิ่งนัก เรื่องที่พูดนี้สืบทอดไปถึงลูกหลานทายาทของศิลปินด้วย เหมือนทายาทศิลปินฝ่ายเสื้อแดงขณะนี้ก็ถูกกีดกัน ขัดขวาง ไม่ให้มีโอกาสเข้าสู่วงการทุกรูปแบบ ทีวีกระแสหลักแต่ละช่องสกัดกั้นเต็มที่
ทั้งที่ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาล ยังควบคุมสื่อไม่ได้ อำนาจมันซ้อนอำนาจจริงๆครับพี่น้องโดยกลอนมีใจความว่า “ออกกันมาให้มากเถิดศิลปิน อย่าลืมเรามาจากดินจากกอหญ้า เราทำมาหากินกับประชาชนคนธรรมดาที่สามัญ ประชาจะกอด ตะกองไว้ในอ้อมอก ประชาจะปกป้องให้อย่าไหวหวั่น เท่ง เถิดเทิง มีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะเลือกฝั่งฝันอยู่ข้างใด”
อย่างไรก็ตาม ต้องนับว่าเป็นความเสี่ยงไม่น้อยที่ เท่ง เถิดเทิง เปิดหน้าประกาศจุดยืนทางการเมืองของเขาในแบบที่เพิ่งเกิดขึ้น ถ้าจะยกตัวอย่างตามปกติแล้วไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหาก นักการเมืองผู้มีอันจะกินอย่างนายณัฐวุฒิ จะจ้างให้เท่ง เถิดเทิง ไปร้องเพลง ไปเป็นสีสันในงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในสายตาประชาชนคนทั่วไปที่ เท่ง เถิดเทิงจะไปร้องรำทำเพลง โชว์ลีลา เล่นมุขตลกให้เป็นที่ครื้นเครง แต่ที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ก็คือหาก เท่ง เถิดเทิงจะทำหน้าที่รับงานเพียงแค่นั้นไม่ประกาศจุดยืนทางการเมืองชัดเจนที่ว่า "อยากให้ทักษิณกลับบ้าน" ก็คงจะไม่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูเช่นนี้ เพราะจะว่าไปแล้วถ้าเท่ง เถิดเทิง ไม่แสดงจุดยืนทางการเมืองออกมาก็ไม่มีใครว่าด้วยซ้ำ
ดังนั้นคงไม่แปลกใจนักที่ จะมีคนในโซเซียลเน็ทเวริ์คเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย อาทิ ผมว่าตอนนี้คุณเท่งไม่ต้องเป็นห่วงทักษิณหรอกครับว่าจะได้กลับบ้านรึป่าว ถึงมันเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศมันก็มีกินมีใช้ไม่ลำบาก ผมชักจะเป็นห่วงคุณนี่เเหละคุณเท่งเปิดหน้าเปิดตาชัดเจนขนาดนี้ระวังงานจะหดเงินจะหายไม่มีอะไรจะกินเเล้วจะหาว่าไม่เตือน
เป็นครั้งแรกที่เกลียดคุณ คุณเลือกเงิน ผมก็ไม่เลือกคุณ ไม่เอาอีกแล้วเท่ง ไปหาทักษิณแล้วเรียกมันพ่อเลยไป......เกลียด
คุณเท่ง เอ๋ย..งานเข้าแน่ ไม่รู้อะไรบ้างเลย ไม่มีใครห้ามให้ นช.ทักษิณ กลับ มันไม่กับเองต่างหาก ...โง่จริงๆๆ.. เห็นกอดกับไอ้..สั่งเผา ถ้ามันสั่งบ้านเท่งจะกอดแบบนี้ไหม? ...จะว่าไม่รู้ปัญหาบ้านเมืองก็ไม่ใช่ ตามข่าวไม่ทันก็ไม่น่าใช่นะ
ผิดถูกคุณเท่งยังแยกไม่ออกเลย ขอให้คุณพบแต่สิ่งเลว เลว ในชีวิต ฯลฯ
แน่นอนหากมองในมุมของเท่ง เถิดเทิงแล้ว อาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก อาจเป็นเพราะอารมณ์พาไป ที่ต้องการเอาใจคนเสื้อแดงที่ไปในงานแต่สำหรับคนทั่วไปหาใช่แบบนั้นไม่ เพราะหากเท่ง เถิดเทิง มองเหตุการณ์ความเป็นไปของบ้านเมืองออก มองสิ่งใดถูกผิดออกก็จะทราบว่า ทำไมถึงมีกระแสติดลบมาถึงตัวเขามากมายถึงเพียงนี้ เพราะความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยก็คือ ใครต่างก็รู้ว่า ที่นช.ทักษิณ ชินวัตร ยังกลับประเทศไทยไม่ได้นั้นเป็นเพราะถูกต้องโทษในคดีอาญาอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เท่ง เถิดเทิง น่าจะรับรู้ว่าภายใต้การนำพาของระบอบทักษิณ มิได้พาประเทศหรือประชาชนคนไทยให้ไปสู่สิ่งดี สิ่งเจริญ ตรงกันข้ามระบอบทักษิณกลับมีแต่พาประเทศไทยลงเหวไปทุกวี่วันเสียด้วยซ้ำ เป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยที่ไม่ตื้นเขินทางความคิดไปนักคงจะรับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีแน่นอน
ดังนั้นจึงอย่าได้แปลกใจเลยหากเท่ง เถิดเทิง จะพบผลตอนรับด้านลบที่กระหน่ำเข้าสู่ตัวเอง ซึ่งคงไม่ต้องถามว่าเลือกข้างผิดหรือถูกอย่างไร
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก สำหรับการที่เห็นเท่ง เถิดเทิง ไปรับงานที่ได้จัดเต็มในวันเกิดของนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เพราะสำหรับอำมาตย์เต้นนั้น ก็นับว่าเป็นคนที่เติบโตมาจากวงการนักพูด ด้วยการเป็นนักโต้วาทีผู้แทนโรงเรียน จนเป็นแชมป์รายการโต้คารมมัธยมศึกษา ทางไทยทีวีสีช่อง 3และต่อมาเป็นดาราประจำรายการสภาโจ๊ก ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี โดยเป็นเงาเสียงของไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็คาบเกี่ยวกับวงการบันเทิงที่ เท่ง เถิดเทิง ทำงานอยู่ และอย่าได้แปลกใจนักหากจะมีการตั้งคำถามถึงกับว่า เท่ง เถิดเทิง อยากจะก้าวมาสู่เส้นทางการเมืองหรือไม่อย่างไร ก็ขนาดคนอย่างเจ๋ง ดอกจิก ยังได้รับปูนบำเหน็จด้วยตำแหน่งอดีตผู้ช่วยเลขานุการ นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ด้านนายโสภณ องค์การณ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส นักจัดรายการวิทยุ-โทรทัศน์ทาง "เอ เอส ทีวี" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค วิพากษ์วิจารณ์ว่า อืมม์...ไอ้เท่งน่าจะเบื่ออาชีพตลก อยากเป็น ส.ส. เหมือนไอ้เจ๋ง หรือเป็นอำมาตย์แบบ "ไอ้เต้น เล่นไข่" ก็ประกาศตัวว่าอยากเห็นพ่อกลับบ้านให้เร็วที่สุด! มันทำไมฉลาดน้อย เปิดตัวยามขาลงแบบนี้แล้วคงอยากจะไปอยู่เขมร?
สุดท้ายจนฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ต้องออกโรงชี้แจงว่า "เท่ง" ได้รับการติดต่อให้โชว์ในลักษณะถูกว่าจ้าง และเป็นงานส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ
เรียกว่า ออกตัวเสียเสร็จสรรพปัดสวะเลยว่า เป็นเรื่องส่วนตัวมิได้เกี่ยวข้องอันใดกับการไปโชว์ตัวของเท่ง เถิดเทิง และที่จะต้องกล่าวถึงเสียมิได้ก็คือ สำหรับความสัมพันธ์ของ บริษัท เวิร์คพอยท์ กับระบอบทักษิณ ก็หาได้ห่างไกลกันเสียเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ กล่าวคือ รายการ "มติชนข่าวค่ำ" ในช่อง Workpoint TV รายการข่าวที่ผลิตโดยทีมข่าวทีวีมติชน นำโดย สุชาติ ศรีสุวรรณ-สรกล อดุลยานนท์ ทางเวิร์คพอยต์ทีวี ในกล่องต่างๆ อาทิ ช่อง 71 จีเอ็มเอ็มแซท ช่อง 7 ช่องพีเอสไอ มีทั้งข่าว วิเคราะห์ กล่าวง่ายๆก็คือ บริษัท เวิร์คพอยท์เอาบริษัทมติชน มาผลิตข่าวให้นั้นเอง มติชนทีวี คือการใช้ช่อง Workpoint TV ออกอากาศรายการข่าวในช่วงเวลา 19.00 - 19.45 ของทุกวันจันทร์-ศุกร์ เริ่มเมื่อคืนวานนี้ 6 ส.ค.55
สำหรับ นายสรกล อดุลยานนท์ เจ้าของนามปากกา วิหคเหินฟ้า และหนุ่มเมืองจันท์ คนเขียนเปิดตัว ทักษิณเป็นหนังสือ ชื่อ ตาดูดาว เท้าติดดิน อีกต่างหาก ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่ามีสายสัมพันธ์แน่นปึ๊กกับ นช.ทักษิณ เพียงใด
หรือจะเป็น ประภาส ชลศรานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กับปัญญา นิรันดร์กุล ก็ยังเป็นคอลัมม์นิสต์ เขียนบทความ ในคอลัมน์ คุยกับประภาส ในหนังสือพิมพ์มติชนอยู่ทุกสัปดาห์อีกด้วย
มาถึงตรงนี้แล้วถึงแม้ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ของเสี่ยตา จะปัดสวะในส่วนของเท่ง เถิดเทิงว่าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม แต่คาดการณ์ได้ว่าคงจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยกับกระแสการประกาศจุดยืนทางการเมืองของเท่ง เพราะเท่ง เถิดเทิง บัดนี้ เป็นถึงตลกชื่อดังที่ประชาชนรู้จักทั่วประเทศ การออกมาแสดงจุดยืน หรือความคิดเห็นต่างๆ ย่อมมีผลแผ่ออกไปในวงกว้างไปสู่ประชาชน
แน่นอนเป็นสิทธิเสรีภาพอันชอบธรรมของแต่ละคนที่จะเลือกข้าง เลือกจุดยืนทางการเมือง อย่างมีอิสระเสรีภาพ ในมุมกลับกันก็ต้องยอมรับสภาพผลกระทบในการเลือกจุดยืนของตัวเองด้วยเช่นเดียวกันอย่างยากจะปฏิเสธได้