xs
xsm
sm
md
lg

"เท่ง"หางแดงโผล่ โพล่ง"อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน" โพลหนุนหน้ากากขาวไล่รัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-อ๊อดแอดงานเข้า! โลกออนไลน์รุมถล่ม "เท่ง เถิดเทิง" ยับเยิน หลังเลิกเหนียมขึ้นเวทีงานวันเกิด "อำมาตย์เต้น" ประกาศเอาใจเสื้อแดง "อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน" ด้าน "เหลิม"กุข่าว คนชื่อย่อ ส. ผิวดำ รูปร่างเตี้ย ทำสถานีข่าว ตั้งแก๊งที่สุขุมวิททำแผนล้มรัฐบาล ขู่ผู้ว่าฯ ไม่สกัดม็อบเจอดี โพลเห็นด้วยหน้ากากขาวชุมนุมทางการเมือง "บิ๊กโอ๋" ไม่สน อยากชุมนุมก็ชุมนุมไป ธิดาแดงสั่งลูกหาบเตรียมสู้

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) หลังจากการจัดงานวันเกิด 38 ปี ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดย ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งมีการจัดงานในชื่อ “เพื่อนพ้องน้องพี่ปีที่ 38” ขึ้นที่ เค รีสอร์ท ถ.ประเสริฐมนูญกิจ เลียบทางด่วนรามอินทราในช่วงค่ำของวันที่ 4 มิ.ย.2556 ได้มีกระแสการต่อต้านเกิดขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการแชร์กันในโลกออนไลน์

เริ่มจาก มีการรายงานข่าวว่า ช่วงเย็นของวันที่ 4 มิ.ย. แถบเลียบทางด่วนรามอินทรา มีการนำป้ายบอกทางงานวันเกิด ขนาดเท่าคัทเอาท์หาเสียงเลือกตั้งติดตั้งไว้ตลอดทาง ตั้งแต่แยกเกษตร-นวมินทร์ บอกกระทั่งต้องกลับรถตรงไหน เข้าซอยไหน

ขณะที่ไฮไลท์สำคัญในงาน เจ้าภาพได้เชิญนายพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ หรือเท่ง เถิดเทิง ศิลปินตลกชื่อดัง ขึ้นเวทีร่วมร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับนายณัฐวุฒิ ก่อนที่ "เท่ง เถิดเทิง" จะปิดท้ายด้วยพูดคำว่า "อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน" งานนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากคนในงานกันสนั่นเลยทีเดียว

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการนำภาพชุดในงานไปโพสต์ โดยระบุว่า ไม่ต้องแค่กินตับหรอกพี่ หัวใจผมก็กล้าให้พี่กิน เท่ง เถิดเทิง เลิกเหนียมแล้ว ขึ้นเวทีอวยพรวันเกิดณัฐวุฒิ ที่เค รีสอร์ต โดยในภาพเป็นเท่ง เถิดเทิง กำลังถือไมค์ยืนอยู่บนเวที อีกภาพเป็นการยืนกอดกันกับนายณัฐวุฒิ อย่างสนิทสนม พร้อมข้อความว่า อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่มีข่าวและรูปของ "เท่ง เถิดเทิง" ออกมาสู่โลกสังคมออนไลน์ ที่ออกมาประกาศอยากเห็นทักษิณกลับบ้าน ทำเอาบรรดาแฟนคลับที่ติดตามผลงานของตลกชื่อดัง ต่างผิดหวังและเสียใจ บ้างก็บอกว่า "เท่ง" เลิกเหนียมอายแล้วประกาศตัวเป็นเสื้อแดงเต็มตัว บางคนระบุว่า "ดังเพราะตับ" แต่จะดับ เพราะตังค์" บางส่วนก็ระบุว่า “ร้องเพลงหาพ่อเมิงเหรอ” เป็นต้น

เรื่องนี้ สถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดท หรือดีเอ็นเอ็น ของกลุ่มคนเสื้อแดงรายงานว่า งานวันเกิดนายณัฐวุฒิเริ่มคึกคักตั้งแต่เวลา 16.00น. โดยมีคนเสื้อแดง ตัวแทนเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ทยอยมาร่วมงาน

"ขอให้ท่านรัฐมนตรีณัฐวุฒิ จงมีแต่ความสุขนะคะ ในปีที่ 38 ขอให้ท่านได้เป็นรัฐมนตรีว่าการครั้งต่อไปค่ะ" คนเสื้อแดงคนหนึ่งกล่าว

นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางมาร่วมงานดังกล่าว ยังมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงคู่หูอย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์

ด้านเว็บไซต์ dangdd.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการแลกเปลี่ยนข่าวสารของคนเสื้อแดง เปิดเผยว่า ในงานวันเกิดนายณัฐวุฒินอกจากแกนนำ-ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานแล้ว ยังมีดาราตลกนักแสดง และพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” นักแสดงตลกจากแก๊งสามช่า ซึ่งสร้างชื่อเสียงจากการเป็นดาวตลกร่วมกับหม่ำ จ๊กมก และโหน่ง ชะชะช่า ซึ่งอยู่ในสังกัดของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) มาร่วมงานด้วย

สำหรับ "เท่ง เถิดเทิง" เป็นชาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ปัจจุบันอายุ 47 ปี มีผลงานในวงการบันเทิงจำนวนมากทั้ง รายการชิงร้อยชิงล้าน, รายการระเบิดเถิดเทิง, รายการคุณพระช่วย เป็นต้น และยังผลงานแสดงและกำกับภาพยนตร์ เช่น 18 ฝน คนอันตราย (2541), มือปืน/โลก/พระ/จัน (2544), หลวงพี่เท่ง (2548), โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง (2549), เท่ง โหน่ง คนมาหาเฮีย (2550), เทวดาท่าจะเท่ง (2551), ตุ๊กกี้ เจ้าหญิงขายกบ (2553), เท่ง โหน่ง จีวรบิน (2554) เป็นต้น

***ดุสิตโพลชี้คนเห็นด้วยกับหน้ากากขาว

วานนี้ (5 มิ.ย.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,172 คน ถึง “การแสดงออกทางการเมือง” ของ “กลุ่มหน้ากากขาว”/“กลุ่มหน้ากากแดง” พบว่า ภาพรวมที่เห็นด้วย 20.49% เห็นด้วยกับหน้ากากขาว 22.56% เห็นด้วยกับหน้ากากแดง18.42% โดยสรุปว่า เพราะเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถแสดงออกหรือทำได้ รับรู้ความคิดเห็นของประชาชนมากขึ้น ควรเปิดโอกาสให้กับคนทุกกลุ่ม

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า กลุ่มกาย ฟอว์กส์ (หน้ากากขาว) ได้นัดรวมพลกันอีกครั้งในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยยืนยันเป้าหมายเดิม คือ "รวมพลใหญ่คนหน้ากาก เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อต้านระบอบเผด็จการรัฐสภา และคอรัปชั่น"

**“เหลิม”กุอีก “ส.” จ้องล้มรัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวจ้องล้มรัฐบาลว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นขบวนการเดียวกับเมื่อปี 2548-2549 โดยเมื่อค่ำวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคแล้ว ตนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งพบว่ามีข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่ายตรงกัน

เมื่อถามถึงกรณีของคนที่มีชื่อย่อ “ส.”เกี่ยวข้องด้วย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บุคคลดังกล่าวมีตัวตนอยู่จริง เป็นคนผิวดำ รูปร่างเตี้ย และทำสถานีข่าว โดยเป็นตัวประสานกับแกนนำคนหนึ่งที่เป็นโรคพาร์กินสัน และมักไปสมรู้ร่วมคิดกันที่ย่านสุขุมวิท ตนรู้ละเอียด ไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งคนเหล่านี้ที่จ้องล้มรัฐบาลเป็นการรวมตัวของคนที่มีความอิจฉาริษยาส่วนตัว

เมื่อถามถึงกลุ่มหน้ากากขาวจะมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและขับไล่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 6 มิ.ย. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เราไปห้ามเขาไม่ได้ แต่รัฐบาลจะไม่มีคำสั่งห้ามการชุมนุม และจะไม่มีการเตรียมการเป็นพิเศษ รวมถึงจะไม่มีการใช้ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลมีการเชื่อมโยงกันหมดและเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ แต่ไม่มีปัญหา ตนมีวิธีการรับมือ

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปจัดการแก้ปัญหาให้กับคนที่เดือดร้อนที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ โดยตนได้คาดโทษว่า ถ้าผู้ว่าฯ คนใดไม่ดำเนินการตั้งแต่ต้นจนทำให้ต้องมาชุมนุมในกรุงเทพฯ ตนจะรายงานเรื่องนี้ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบและพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการชุมนุมทางการเมืองจะเพิ่มมากขึ้นในครึ่งปีหลัง แต่ตอนนี้เขากำลังรวมตัวโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เดียว แต่มีการขยายตัว และรอจังหวะว่าจะปลุกขึ้นหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่ายังไม่มีเงื่อนไขใด นายกรัฐมนตรียังอยู่ได้สบายๆ ทั้งนี้ รัฐบาลใจเย็นและยังไม่ใช้กฎหมายจัดการกับผู้ที่จ้องล้มรัฐบาล มิฉะนั้นจะทำให้รัฐบาลไปเร็ว ใครดำน้ำอึด ก็ชนะ

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ที่ทำให้มีเงื่อนไขสร้างความรุนแรงจนเกิดการปฏิวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ที่วิเคราะห์อย่างนั้นเป็นพวกโรคจิต เพ้อเจ้อ เพราะทหารบอกแล้วว่าไม่ปฏิวัติ และเงื่อนไขในอดีตก็ไม่เหมือนกับตอนนี้ และรัฐบาลในอดีตไม่ได้ตามติดเหมือนกับขณะนี้ อีกทั้งตนจับทางถูก รู้หมด แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง และสถานการณ์ทางการเมืองในครึ่งปีหลัง จะมีความเรียบร้อย ไม่ร้อนแรง เพราะกรณีของร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งประเทศ พ.ศ. ... (พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน) ขณะนี้อยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ให้แก้ไข เราก็ไม่แก้ แต่ถ้ามีจังหวะก็มาทำกันใหม่ ต้องทำสถานการณ์ร้อนๆ ให้เป็นปกติ เพราะถ้าเราไปผสมโรง คนอื่นก็จะตกใจ สำหรับกรณีของร่างพ.ร.บ.การสร้างความปรองดองแห่งชาตินั้น ถ้าจังหวะไม่ดี ก็งดพิจารณา ส่วนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็อยู่ระหว่างการรอพิจารณาของสภาฯในวาระที่ 1 ต่อไป

เมื่อถามถึงข่าวที่ว่า กลุ่มหน้ากากขาวจะไปชุมนุมประท้วงนายกรัฐมนตรี ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่ จ.กำแพงเพชร ในวันที่ 9-10 มิ.ย. รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยยังเป็นไปตามปกติ และเจ้าหน้าที่จะดูแลอย่างเรียบร้อย

** “สุกำพล”ไม่กลัวหน้ากากขาวต้าน

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่า บ้านเราอุณหภูมิเหมาะทุกอย่าง ยกเว้นอุณหภูมิภายในที่ไม่เหมาะ คนข้างนอกอยากกระโดดเข้ามาในประเทศไทย แต่แหยงอุณหภูมิภายในที่เป็นตัวถ่วง เรื่องนี้แก้ไขยาก การที่เขาออกมาเคลื่อนไหวเพราะเขาไม่ยอม วันนี้เมื่อวิถีทางการแก้ไข หรือการเดินหน้าของรัฐบาล เป็นวิธีการที่ถูกต้อง ก็อย่าไปกลัว ให้ลุยไปเลย ถ้าทำถูกต้องตามกฎหมายและขั้นตอนก็ให้ลุยไป มิเช่นนั้นจะไม่มีการแก้เกิดขึ้น เพราะมัวแต่ไปกลัวคนพวกนี้ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เพราะเราทำถูกแล้ว มีคนที่คิด และมองเรื่องนี้เงียบๆ หลายคน บางคนอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ควรกลับมาติดคุกก่อน แต่ถามว่า ตั้งแต่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ถูกต้องหรือไม่ กระบวนการยุติธรรมไม่ใช่ว่า ระบบยุติธรรม แล้วคนไม่ยุติธรรมนั้นไม่ได้ หากมีกลุ่มอะไรออกมาเคลื่อนไหว รัฐบาลต้องเดินหน้า กล้าทำ ถ้าคิดว่า รัฐบาลทำถูกต้อง ก็ไม่ต้องห่วง อย่าไปกลัว

เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุวุ่นวายกองทัพจะออกมาดูแลความสงบหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า กองทัพเป็นหนทางสุดท้าย ปัญหาคราวที่แล้วเกิดจากคนมายุ่งกองทัพ สู้กับกองทัพ เหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ใช่คนสองกลุ่มมาตีกัน เพียงแต่คนกลุ่มหนึ่งตีกองทัพ และรัฐบาล ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา กองทัพจะไม่เข้าไปยุ่ง อยากตีก็ตีกันไป ตำรวจจะเป็นผู้แล แต่ถ้าทนไม่ไหว หากต้องใช้กองทัพก็จะต้องมีการร้องขอกำลังสนับสนุน แต่ไม่ใช่ว่า กองทัพจะไปเข้าข้างฝ่ายใด คราวที่แล้วมีการเข้าข้าง ใช้กองทัพในทางที่ไม่ถูกต้อง กองทัพต้องอยู่ตรงกลาง เพื่อไม่ให้สองฝ่ายตีกัน ผบ.เหล่าทัพรู้กันทั้งนั้น เราทำตามกติกา

**อ้างบิ๊กตู่บอก ”ปู” ไม่ต้องห่วงปฏิวัติ

พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก รับปากว่า จะไม่ปฏิวัติในวงกินข้าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีว่า เขาคุยกันธรรมดาในวงกินข้าวถึงเรื่องสถานการณ์ต่างๆ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ท่านทำงานไปเถอะครับ ไม่มีอะไร ซึ่งพูดกันแค่นั้น ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ คงรำคาญ เพราะเรื่องปฏิวัติพูดมาเป็นร้อยเที่ยวแล้ว

“ผมมั่นใจว่า เขาไม่ทำปฏิวัติแน่ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา มีอยู่ว่า การปฏิวัติทำให้ประเทศชาติยุ่งยาก ไม่ได้ทำให้ประเทศดีขึ้นมา แต่อย่าเพิ่งไปพูดว่า การปฏิวัติจะไม่เกิดขึ้น หรือปิดประตูไปเลย เหมือนไม่มีใครพูดว่า ฝนจะตกหรือไม่ตก 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ คิดว่า การปฏิวัติไม่เกี่ยวกับการโยกย้าย เพราะที่ผ่านมา มีเพียงครั้งที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ปฏิวัติเท่านั้น ที่เกี่ยวกับการโยกย้าย ส่วนการปรับย้ายในช่วงเดือนต.ค.นี้ ต้องว่ากันมาตามกติกา ผบ.เหล่าทัพต้องเลือกคนของเขา เพื่อให้ทำงานเข้าขากัน ส่วนผมในฐานะที่ดูกระทรวงกลาโหม ก็ต้องเป็นคนเลือกปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อจะได้มาทำงานร่วมกับผม แต่ผมไม่ได้เข้าไปล้วงลูก เราเคารพกติกากัน เมื่อก่อนมีคนพูดว่า ผมกับพล.อ.ประยุทธ์ จะมีปัญหากัน แต่ถึงขณะนี้ผมกับผบ.ทบ.ก็คุยกันมาตลอด ต่างคนต่างให้เกียรติ วันนี้ผมพูดกับพล.อ.ประยุทธ์ ขอไปร้อยได้กลับมาร้อย แต่ไม่ใช่ว่า จะขอทุกเรื่อง”พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว

เมื่อถามถึงความจำเป็นที่ต้องขยับพล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผบ.ทบ.มา 3 ปีแล้ว พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ลงในรายละเอียดว่า ตำแหน่งผบ.ทบ.จะต้องอยู่ 3 ปีหรือ 4 ปี แต่ส่วนใหญ่ตำแหน่งนี้จะเป็นกันประมาณ 1-2 ปีเท่านั้น แต่เพราะพล.อ.ประยุทธ์ อายุน้อย จึงได้เป็นนาน ส่วนใจตนคิดอย่างไรนั้น ไม่อยากบอกใคร เพราะเรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลา อย่าเพิ่งไปคิด

เมื่อถามว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำงานเข้าตาหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล ย้อนถามว่า มีอะไรที่ไม่เข้าตาบ้าง ผู้สื่อข่าวรู้ดีกว่าตนอีก หากอะไรดีหรือไม่ดีก็เรียกมาพูดคุยกัน แต่ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่เตือน เพราะโตกันแล้ว ตนรู้ตัวดีว่า ตนกำกับนโยบายอยู่ข้างบน อย่าไปยุ่งกับข้างล่างมาก เป็นพ่อบ้าน อย่าไปทำกับข้าว เดี๋ยวเขาจะหารู้ดีกว่าเขา ปล่อยให้ข้างล่างทำหน้าที่กันไป

**นปช.ไม่กังวลหน้ากากขาวล้มรัฐบาล

นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า กลุ่มนปช.ไม่กังวลกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว เพราะสถานการณ์ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง รัฐสภาและรัฐบาลชุดปัจจุบัน มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างถูกต้อง และไม่ใช่เผด็จการรัฐสภา รวมถึงการเปิดตัวกลุ่มไทยสปริงส์ ที่ใช้แนวคิดเดียวกับปรากฏการณ์อาหรับสปริงส์ ปลุกระดมเคลื่อนไหวผ่านโลกไซเบอร์ให้มวลชนออกมาต่อสู้ข้างถนน เพราะกลุ่ม นปช. ต่อสู้ โดยไม่ใช้หน้ากากใดๆ มาปิดบังใบหน้า แต่เปิดเผยตัวตน จึงขอมวลชนคนเสื้อแดงไม่ต้องไปต่อต้าน แต่ให้ไปติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงส่วนกลาง ขณะเดียวกัน นปช.ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในขณะนี้ แต่ขอให้เตรียมพร้อมเคลื่อนไหว พร้อมกันนี้ ขอเตือนกลุ่มต่างๆ ที่ชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญและที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าสามารถชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตกฎหมาย

**"มาร์ค"แนะ“เหลิม”ถอนกม.ปรองดอง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวหาว่ามีบุคคลชื่อย่อ ส. จ้องล้มรัฐบาลว่า ตนไม่ทราบ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมพูดอะไรเยอะมาก ตนตามไม่ทัน ความจริงถ้า ร.ต.อ.เฉลิมไม่อยากให้บ้านเมืองมีปัญหาความขัดแย้ง ก็อย่างสร้างปมความขัดแย้งด้วยการเสนอ พ.ร.บ.ปรองดอง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อทำผิดให้เป็นถูก เพิ่มอำนาจของตัวเอง ช่วยเหลือพรรคพวกตัวเอง ความขัดแย้งในสังคมก็จะดีขึ้น ถ้ารัฐบาลที่รับเลือกตั้งจากประชาชน พยายามแก้ปัญหาประชาชนก็จะไม่มีปัญหา

“ไม่ต้องไปสนใจ ก.ไก่ถึง ฮ.นกฮูก สนใจรัฐบาลดีกว่า ถ้ารัฐบาลลองเอากฎหมาย 7 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ปรองดอง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ออกไป บรรยากาศทุกอย่างก็จะเรียกร้อยดี เพราะรัฐบาลทำงานมา 2 ปี เรื่องที่มีปัญหาจริงๆ ก็มีเรื่องพวกนี้เท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ แม้จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยบ้าง ก็อยู่ในกรอบปกติของการแสดงความเห็นทางการเมือง เห็นชัดอยู่แล้วว่ายิ่งทำก็ยิ่งขัดแย้ง ไม่เห็นนำไปสู่ความปรองดองตรงไหน ทางตัวผมและคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็อยากย้ำคุณเฉลิมว่าไม่เคยเรียกร้องการนิรโทษกรรมฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ทุกฝ่ายควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม” ผู้นำฝ่ายค้านกล่าว

**"สว.สมชาย" แนะรัฐหยุดปรามาสม๊อบ

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยที่มีการแสดงออกทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของรัฐบาล ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการออกมาเคลื่อนไหว ส่วนการที่รัฐบาลออกมาปรามาสกลุ่มผู้ชุมนุน ตนมองว่ารัฐบาลไม่ควรประมาทในประเด็นดังกล่าว พร้อมเสนอให้รัฐบาลควรหลีกเลี่ยงการออกมาเสนอข่าวโจมตีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย แต่ต้องกลับมาทำความเข้าใจถึงปัญหาและพยายามแก้ชนวนเหตุที่จะนำไปสู่ความแตกแยก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะร้อนแรงหลังการนำร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเดือนส.ค.นี้

นอกจากนี้ ยังฝากถึงประชาชนในการออกมาชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตยทุกกลุ่มว่า สามารถชุมนุมได้ แต่ต้องทำภายใต้กรอบของกฏหมาย และต้องปราศจากความรุนแรง รวมถึงต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นด้วย

**“พท.”เหน็บ “กทม.”เชียร์ “ไชยวัฒน์”

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักแผ่นดิน ประกาศจะรวบรวมรายชื่อ 5 ล้านคนยื่นต่อศาลโลก เพื่อปฏิเสธนักการเมือง และจะมีการชุมนุมใหญ่ เพื่อเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล ว่า ตราบเท่าที่การเคลื่อนไหว ไม่เกินจากกรอบกฎหมาย ไม่ล่วงละเมิดผู้ใด เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ รัฐบาลจะไม่ตั้ง ศอฉ.ปราบปรามประชาชน โดยการใช้อาวุธสงคราม กระสุนจริง ยิงใส่ผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน เพื่อแสดงให้เห็นถึงจิตใจและวุฒิภาวะที่เป็นประชาธิปไตยมากกว่า ซึ่งแตกต่างกันกับรัฐบาลชุดก่อน แต่จะไม่ยอมให้นายไชยวัฒน์ กับพวก ทำอะไรอย่างย่ามใจ ไม่ยอมให้ยึดทำเนียบทำนา ยึดสนามบินก่อการร้ายอีกเด็ดขาด

“ขอฝากไปถึงผู้ว่าฯ กรุงเทพ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่แม้จะเป็นพวกเดียวกัน ก็อย่าเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ อย่าส่งเสริมกันออกนอกหน้ามากนัก ทีกับคนเสื้อแดง คนสองคน ขอเฉียดสนามหลวงยังไม่ได้ แต่พอเป็นพวกตัวเอง จัดหนัก จัดเต็ม น้ำไหล ไฟสว่าง รถสุขาวีไอพี แบบนี้ก็ทำกันเกินไป จนไร้มาตรฐาน” รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว

**อัด"เหลิม"อย่าปากกล้าขาสั่น

ที่สำนักงานสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน ได้นำรายชื่อประชาชน ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางต่อสู่คดีพิพาทปราสาทพระวิหาร ปฏิเสธอำนาจศาลโลก และการกระทำต่างๆ ของรัฐบาล จำนวน 4 ล้านรายชื่อ ยื่นต่อเลขาธิการสหประชาชาติ โดยนายปัญญา ห้วยศรีจันทร์ หัวหน้าส่วนความมั่นคงความปลอดภัย เป็นผู้ออกมารับหนังสือแทน

โดยนายไชยวัฒน์ กล่าวว่า หากปลุกไม่ขึ้นทำไมรองนายกฯ พูดบ่อยเหลือเกิน แสดงว่าปากกับใจไม่ตรงกับใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น