xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

มติครม.ช่วยรถน้ำท่วม โบนัสพริตตีอีก7- 8 เดือนหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-สัปดาห์ที่แล้ว คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ที่คาบเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบ“มหาอุทกภัย” ครั้งใหญ่ของประเทศ เมื่อปี 2554

ประกอบด้วย ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ที่ได้รับจากการซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมของผู้ประสบภัยน้ำท่วม)

อีกฉบับ เป็น ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการยกเว้นภาษีอากรให้แก่กลุ่มประชาชนที่รับจัดทำอาหารช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย)

ทั้ง 2 ฉบับที่ประชุม ครม.ระบุว่าเป็นการฟื้นฟูความเสียหายหลังน้ำลด เสนอโดย “กระทรวงการคลัง” ร่างกฎกระทรวงการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ที่ได้รับจากการซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมของผู้ประสบภัยน้ำท่วม

กระทรวงการคลัง ร่ายในเอกสารเสนอครม.ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม โดยกำหนดให้มีมาตรการรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมขึ้นด้วยวิธีการให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วมเป็นจำนวนเท่ากับภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ที่ซื้อตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 4 มกราคม 2555

ดังนั้น เพื่อบรรเทาภาระของผู้ประสบภัยน้ำท่วมซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการภาษีสำหรับการซื้อรถยนต์คันแรก สมควรกำหนดให้เงินได้ที่ได้รับจากรัฐอันเนื่องมาจากการได้มาซึ่งรถยนต์ใหม่ เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมของผู้มีเงินได้เป็นจำนวน เท่ากับภาษีสรรพสามิตของรถยนต์คันดังกล่าว แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ขณะที่สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ระบุว่า

1.กำหนดให้เงินได้ที่ได้รับจากรัฐ อันเนื่องมาจากการซื้อรถยนต์ใหม่ เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายของผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วมตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2555 เป็นจำนวนเท่ากับภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ที่ซื้อแต่ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นเงินได้ พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

2.การยกเว้นภาษีเงินได้ข้างต้น ให้เป็นการยกเว้นสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป

ส่วน ร่างพระราชกฤษฎีกา มาตรการยกเว้นภาษีอากรให้แก่กลุ่มประชาชนที่รับจัดทำอาหารช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย)

กระทรวงการคลัง แจ้งว่า เนื่องจากประเทศไทยประสบภัยพิบัติอุทกภัยเมื่อปี 2554 โดยมีพื้นที่ประสบภัยพิบัติกว่า 60 จังหวัด และรัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งมีส่วนราชการต่าง ๆ เข้าร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักประสานงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือน และรับผิดชอบเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม และจัดตั้งโรงครัวในศูนย์พักพิงและในชุมชน

โดยที่สถานการณ์อุทกภัยดังกล่าวมีระยะเวลาอันยาวนานทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวน
มาก โดยส่วนใหญ่ไม่สามารถปรุงอาหารรับประทานเองได้ต้องรอความช่วยเหลือจากภาครัฐและเอกชน แต่ บางท้องที่ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากและไม่ทั่วถึง จึงมีการรวมกลุ่มกันเฉพาะกิจในลักษณะจิตอาสาของประชาชนในชุมชนเพื่อจัดทำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยพิบัติดังกล่าว โดยรัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งจะจ่ายในลักษณะเหมาจ่ายเป็นจำนวนรายผู้ประสบภัยและต้องมีตัวแทนรับเงินไปจากรัฐ จึงทำให้มีเงินได้ที่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และบางรายมีรายรับถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้รับจัดทำอาหารดังกล่าว สมควรยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการรับจัดทำอาหารดังกล่าว

ขณะที่สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา ฉบับนี้ ระบุว่า

ให้ยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บุคคลธรรมดา กรณีการให้บริการรับจัดทำอาหารเพื่อนำไปแจกผู้ประสบอุทกภัย ที่ประสบภัยอุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้หรือค่าบริการที่ได้รับจากรัฐ ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554

ถือว่าเป็น 2 ส่วน ล่าสุดที่รัฐบาลมีมาตรการด้านภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ก่อนหน้านั้น มีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล(ผู้ประสบภัยฯ) ,ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับผู้ประสบภัยที่ได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากบริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันภัย และยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ประสบภัยที่มีเงินได้ตามมาตรา 40 (5) (6) (7) หรือ (8) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ก็มีคำถามตามมาว่า ทำไมถึงเพิ่งจะมีมติ ครม. ออกมาในจังหวะที่ “โครงการรถคันแรก” เริ่มมีปัญหายอดถอนสิทธิ์เพิ่มขึ้น

หากดูจากตัวเลขที่ปิดโครงการรถคันแรก มีประชาชนมาขอใช้สิทธิ์ 1,255,942 คัน คิดเป็นเงินภาษีที่ต้องคืน 91,061 ล้านบาท

ปัญหายอดถอนสิทธิ์“นายสมชาย พูลสวัสดิ์”อธิบดีกรมสรรพสามิต คนปัจจุบันยอมรับว่า ขณะนี้มีผู้สละสิทธิขอคืนเงินรถยนต์คันแรก 3 พันราย นับเป็นตัวเลขที่ไม่สูงหากเทียบกับยอดรวมกว่า 1.25 ล้านคัน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการประเมินการทิ้งใบจองจะมีไม่ถึง 2 แสนคัน

พบว่าการคืนเงินแก่ผู้ใช้สิทธิโครงการรถคันแรกล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 1.9 แสนราย ใช้วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท แต่หากมีการทิ้งใบจองกันมากขึ้น อาจส่งผลให้กรมสามารถปรับลดวงเงินงบประมาณในการจ่ายคืนแก่ผู้มีสิทธิลงจากเดิม

เฉพาะในปีงบ 2556 คาดว่าใช้งบ 4.5 หมื่นล้านบาท และปี 2557 ใช้งบประมาณอีกราว 4 หมื่นล้านบาท แต่ปี 2556 งบที่ตั้งไว้ 7,250 ล้านบาท ไม่เพียงพอ

จึงต้องใช้เงินคงคลัง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุมัติไว้ทั้งสิ้น 3.1 หมื่นล้านบาทแล้วในปีนี้

ดังนั้น จะสรุปได้หรือไม่ว่า การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ที่ได้รับจากการซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมของผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นการต่ออายุ “โครงการรถคันแรก” ของรัฐบาลกลายๆ แม้โครงการนี้จะสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่ ต้นปี 2556 เพื่อประโยชน์ใคร!

เชื่อว่าผู้ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยส่วนใหญ่ซื้อรถไปก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่โครงการรถคันแรก เพราะรถล้านกว่าคันที่ขายออกไป ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่ดีรับผลกระทบจากมหาอุทกภัยเลย

กำลังจะมีคนเข้าใจผิดว่า มติครม.นี้จะช่วยรถน้ำท่วม หรือช่วยคงยอดให้บริษัทผลิตรถ ปีนี้จะได้มีโบนัส7 - 8 เดือนอีก.



กำลังโหลดความคิดเห็น