ASTVผู้จัดการรายวัน-"ประภัสร์"ฉุน "พีรกันต์" ปูดข่าวรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์กระเป๋าฉีก จ่ายเงินเดือนพนักงานได้แค่พ.ค.นี้ ลั่นกำลังแก้สัญญา และมีเงินจ่ายให้ทันมิ.ย.แน่ เตรียมชงบอร์ดรฟท.วันนี้ ยุบบริษัท รถไฟฟ้า เป็นหน่วยธุรกิจของ รฟท.
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้า ตนจะไปมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เพื่อให้การทำงานสอดคล้องและมีความเข้าใจตรงกันว่าหน้าที่และวิธีการปฏิบัติงานเป็นอย่างไร โดยยืนยันว่า รฟท.ในฐานะบริษัทแม่ที่ถือหุ้นบริษัท รถไฟฟ้าฯ 100% ต้องการผลักดันให้การทำงานของบริษัท รถไฟฟ้าฯ เดินหน้าไปได้ด้วยดี
ส่วนกรณีที่ นายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้าฯ ระบุว่าจะไม่มีเงินจ่ายพนักงานในเดือน มิ.ย.นี้ เนื่องจาก รฟท. ยังไม่จ่ายเงินให้บริษัทนั้น ก่อนหน้าที่ตนได้แจ้งให้ นายพีรกันต์ ทราบแล้วว่าขณะนี้ รฟท. อยู่ระหว่างการปรับแก้สัญญาจ้างเพื่อจ่ายเงินประมาณ 200 ล้านบาท ให้กับบริษัท รถไฟฟ้าฯ ซึ่งการจ่ายเงินทันเดือน มิ.ย.นี้ แน่นอน เพราะยังมีเวลากว่าจะถึงสิ้นเดือน มิ.ย. แต่ไม่เข้าใจว่าการที่ผู้บริหารต้องการอะไรจึงออกมาพูดเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนจะเสนอเรื่องการยุบบริษัท รถไฟฟ้าฯ เป็นหน่วยธุรกิจของ รฟท. ในการประชุมคณะกรรมการ รฟท.วันนี้ (31 พ.ค.) เพราะเห็นว่าจะช่วยแก้ปัญหาและสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน โดยพนักงานทั้งหมดของบริษัท รถไฟฟ้าฯ จะเข้าทำงานกับ รฟท. และได้รับเงินเดือนเท่าเดิม
"การยุบบริษัท รถไฟฟ้าฯ เป็นหน่วยธุรกิจ เป็นเรื่องของนโยบาย ตนในฐานะผู้บริหาร รฟท. มีแนวคิดดังกล่าว เพราะเห็นว่าแนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางที่ดีต่อหน่วยงาน และจะได้เสนอให้ผู้กำกับนโยบายพิจารณาต่อไป ส่วนลูกจ้างตามสัญญาจ้างไม่สมควรที่จะวิจารณ์นโยบาย แต่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดี และปฏิบัติตามขั้นตอน หากต้องการเสนอโครงการใดๆ ให้ทำเรื่องเสนอให้ รฟท.พิจารณา ไม่ใช่เสนอผ่านสื่อ"นายประภัสร์กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายพีรกันต์ ได้ระบุภายหลังการตรวจเยี่ยมสถานีมักกะสันเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ว่า บริษัทไม่เหลือเงินงบประมาณที่จะนำมาจ่ายให้กับพนักงานในเดือนมิ.ย.นี้ หลังจากนำทุนจดทะเบียนการจัดตั้งบริษัทจำนวน 140 ล้านบาท จ่ายให้กับพนักงานตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการมาประมาณ 2 ปี 8 เดือน ซึ่งเดือน พ.ค. จะเป็นเดือนสุดท้ายที่บริษัทสามารถจ่ายเงินให้พนักงานได้ โดยสาเหตุที่ไม่มีเงินจ่าย เพราะต้องนำรายได้ทั้งหมดส่งให้ ร.ฟ.ท. คิดเป็นเงินปีละประมาณ 600 ล้านบาท แต่ร.ฟ.ท. ไม่เคยแบ่งเงินที่ได้ให้กับบริษัท เพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้พนักงานที่มีอยู่ประมาณ 400 คน
ทั้งนี้ นายพีรกันต์กล่าวไว้อีกว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องเงินเดือนคิดเป็นเงินเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท เมื่อรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะคิดเป็นเงินปีละประมาณ 200 ล้านบาท และตั้งแต่เปิดบริษัทในปี 2553 ร.ฟ.ท.จ่ายเงินเดือนให้บริษัทเพียง 3 เดือนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องนำทุนจดทะเบียนมาจ่ายเป็นเงินเดือนให้พนักงานแทน ร.ฟ.ท.ไม่เคยให้เงินมาจ่ายพนักงานทั้งที่บริษัทสามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี
ส่วนกรณีที่นายประภัสร์ จะยุบบริษัท โดยให้มีสถานะเป็นหน่วยธุรกิจของ ร.ฟ.ท.นั้น เชื่อว่าเป็นแนวคิดของนายประภัสร์เพียงคนเดียว เพราะคณะกรรมการ ร.ฟ.ท.ยังไม่ทราบแนวคิดดังกล่าว และที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ศึกษาเรื่องการแยกบริษัทออกมาจาก ร.ฟ.ท. เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้า ตนจะไปมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เพื่อให้การทำงานสอดคล้องและมีความเข้าใจตรงกันว่าหน้าที่และวิธีการปฏิบัติงานเป็นอย่างไร โดยยืนยันว่า รฟท.ในฐานะบริษัทแม่ที่ถือหุ้นบริษัท รถไฟฟ้าฯ 100% ต้องการผลักดันให้การทำงานของบริษัท รถไฟฟ้าฯ เดินหน้าไปได้ด้วยดี
ส่วนกรณีที่ นายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้าฯ ระบุว่าจะไม่มีเงินจ่ายพนักงานในเดือน มิ.ย.นี้ เนื่องจาก รฟท. ยังไม่จ่ายเงินให้บริษัทนั้น ก่อนหน้าที่ตนได้แจ้งให้ นายพีรกันต์ ทราบแล้วว่าขณะนี้ รฟท. อยู่ระหว่างการปรับแก้สัญญาจ้างเพื่อจ่ายเงินประมาณ 200 ล้านบาท ให้กับบริษัท รถไฟฟ้าฯ ซึ่งการจ่ายเงินทันเดือน มิ.ย.นี้ แน่นอน เพราะยังมีเวลากว่าจะถึงสิ้นเดือน มิ.ย. แต่ไม่เข้าใจว่าการที่ผู้บริหารต้องการอะไรจึงออกมาพูดเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนจะเสนอเรื่องการยุบบริษัท รถไฟฟ้าฯ เป็นหน่วยธุรกิจของ รฟท. ในการประชุมคณะกรรมการ รฟท.วันนี้ (31 พ.ค.) เพราะเห็นว่าจะช่วยแก้ปัญหาและสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน โดยพนักงานทั้งหมดของบริษัท รถไฟฟ้าฯ จะเข้าทำงานกับ รฟท. และได้รับเงินเดือนเท่าเดิม
"การยุบบริษัท รถไฟฟ้าฯ เป็นหน่วยธุรกิจ เป็นเรื่องของนโยบาย ตนในฐานะผู้บริหาร รฟท. มีแนวคิดดังกล่าว เพราะเห็นว่าแนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางที่ดีต่อหน่วยงาน และจะได้เสนอให้ผู้กำกับนโยบายพิจารณาต่อไป ส่วนลูกจ้างตามสัญญาจ้างไม่สมควรที่จะวิจารณ์นโยบาย แต่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดี และปฏิบัติตามขั้นตอน หากต้องการเสนอโครงการใดๆ ให้ทำเรื่องเสนอให้ รฟท.พิจารณา ไม่ใช่เสนอผ่านสื่อ"นายประภัสร์กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายพีรกันต์ ได้ระบุภายหลังการตรวจเยี่ยมสถานีมักกะสันเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ว่า บริษัทไม่เหลือเงินงบประมาณที่จะนำมาจ่ายให้กับพนักงานในเดือนมิ.ย.นี้ หลังจากนำทุนจดทะเบียนการจัดตั้งบริษัทจำนวน 140 ล้านบาท จ่ายให้กับพนักงานตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการมาประมาณ 2 ปี 8 เดือน ซึ่งเดือน พ.ค. จะเป็นเดือนสุดท้ายที่บริษัทสามารถจ่ายเงินให้พนักงานได้ โดยสาเหตุที่ไม่มีเงินจ่าย เพราะต้องนำรายได้ทั้งหมดส่งให้ ร.ฟ.ท. คิดเป็นเงินปีละประมาณ 600 ล้านบาท แต่ร.ฟ.ท. ไม่เคยแบ่งเงินที่ได้ให้กับบริษัท เพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้พนักงานที่มีอยู่ประมาณ 400 คน
ทั้งนี้ นายพีรกันต์กล่าวไว้อีกว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องเงินเดือนคิดเป็นเงินเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท เมื่อรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะคิดเป็นเงินปีละประมาณ 200 ล้านบาท และตั้งแต่เปิดบริษัทในปี 2553 ร.ฟ.ท.จ่ายเงินเดือนให้บริษัทเพียง 3 เดือนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องนำทุนจดทะเบียนมาจ่ายเป็นเงินเดือนให้พนักงานแทน ร.ฟ.ท.ไม่เคยให้เงินมาจ่ายพนักงานทั้งที่บริษัทสามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี
ส่วนกรณีที่นายประภัสร์ จะยุบบริษัท โดยให้มีสถานะเป็นหน่วยธุรกิจของ ร.ฟ.ท.นั้น เชื่อว่าเป็นแนวคิดของนายประภัสร์เพียงคนเดียว เพราะคณะกรรมการ ร.ฟ.ท.ยังไม่ทราบแนวคิดดังกล่าว และที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ศึกษาเรื่องการแยกบริษัทออกมาจาก ร.ฟ.ท. เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้