xs
xsm
sm
md
lg

สั่งผู้ว่าฯเร่งแก้ผลไม้ล้นตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ประสานการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรไปสู่ผู้บริโภคขึ้น และตั้งศูนย์ในทุกอำเภอ ในโครงการกระจายสินค้าด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค 74,963 หมู่บ้าน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรในการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคให้ได้อย่างรวดเร็ว กว้างขวางและทั่วถึง เพราะเริ่มเข้าฤดูผลผลิตด้านการเกษตรเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประสบปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด และราคาตกต่ำเป็นประจำทุกปี ส่งผลเสียหายไม่สามารถระบายออกจำหน่ายสู่ตลาดได้ทันตามฤดูกาล ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อน และเกิดการรวมตัวกันเพื่อต่อรองเรียกร้อง สำหรับปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตด้านการเกษตรออกมาจำหน่ายในท้องตลาดมาก และเพื่อให้การกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภคทุกหมู่บ้าน และแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน จึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการหลายมาตรการ
ด้านนายตุ่น จินตะเวส ส.ส.อุบลราชธานี พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า ในการประชุมพรรคได้ขอให้พรรคเร่งแก้ปัญหาการร้องเรียนของผู้ส่งออกและนำเข้าผลไม้ฉายรังสีไปสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้ส่งออกบุกไปร้องเรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงในทำเนียบรัฐบาล และนายกฯ สั่งการให้นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เร่งชี้แจงให้กระจ่าง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตร และอาหารแห่งชาติ (มกอช.)หน่วยงานที่กระทรวงเกษตรฯดูแลอยู่
" ปัญหาเรื่องนี้อยากให้พรรคแก้ปัญหาให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เนื่องจาก สังคมกำลังให้ความสนใจ สื่อมวลชนเสนอข่าวกันอย่างกว้างกวางในลักษณะกระทรวงเกษตรฯ บริหารงานไม่โปร่งใส หากยังไม่ทำให้เกิดความกระจ่างและผู้ส่งออกยังเคลื่อนไหวอยู่จะทำให้พรรคเสื่อมเสีย และพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคเล็กจะถูกพรรคใหญ่ขี่ได้ ซึ่งผู้ส่งออกที่ร้องเรียนก็เปิดเผยตัวอย่างชัดเจนหากเขาไม่ได้รับความเดือดร้อนคงไม่เปิดเผยตัวตนออกมา แต่ปรากฎว่า เมื่อสอบถามในพรรค นายยุคลกลับไม่เข้าร่วมประชุม ให้เลขานุการรมว.เกษตรฯ ชี้แจงแทน ซึ่งก็ไม่ได้รับความกระจ่าง อ้างแต่ว่าทำถูกต้อง จึงอยากเรียกร้องให้นายบรรหาร ศิลปอาชา ผู้ใหญ่ของพรรคลงมาดูแลปัญหานี้ด้วยตัวเอง"
นายตุ่น กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ถึงฤดูการผลไม้ออกมาจำนวนมาก การระบายสินค้าออกไปต่างประเทศได้มากเท่าไรยิ่งดีต่อเกษตรกรและประเทศชาติเท่านั้น แต่การกำกัดให้ผู้ส่งออกส่งได้เพียงรายเดียวจะเกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมได้อย่างไร และทราบมาว่า บริษัทที่มกอช.อนุญาตให้ส่งผลไม้ออกได้เรียกเก็บค่าตรวจผลไม้แพงถึงกก.ละ 26 บาท ขณะที่ผู้ส่งออกรายเดิมหรือ TUCC เรียกเก็บแค่กก.ละ 8 บาทก็ยังได้กำไร เลยทำให้สังคมสงสัยเงินส่วนเกินหายไปไหน ปัญหาแบบนี้กระทบต่อพรรคที่คุมกระทรวงเกษตรฯแน่นอน นอกจากนี้ทราบว่าผลเสียจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ขณะนี้ตลาดผลไม้ไทยถูกบริษัทไต้หวันแย่งไปหมดแล้ว กลายเป็นผู้ส่งออกและนำเข้าแทนคนไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น