วานนี้ ( 29 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการสร้างรั้วชายแดนจังหวัดภาคใต้ว่า อยากให้มองด้านความมั่นคงเป็นภาพใหญ่ ถ้าเราแก้ปัญหาเป็นชิ้นๆ จะเปลืองงบประมาณ ก่อนหน้านี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ใช้งบประมาณภาคใต้ไม่คุ้มค่า ซึ่งการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้ปลอดภัยนั้น ต้องดูนานาชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา อิสราเอล ซึ่งเขาสมารถแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงอย่างยั่งยืนมีประสิทธ์ภาพ ใช้คนน้อย เราต้องมองอนาคต ว่าจะอยู่กันอย่างไร ถ้าเรามีรั้วที่มีความชัดเจน จะสามารถลดจำนวนกำลังพลลงได้ ส่วนรั้วดังกล่าว ก็ไม่ได้สร้างให้ใหญ่โตเหมือนกำแพงเมืองจีน ขอแค่รั้วที่สามารถแบ่งอาณาเขตอย่างชัดเจน อย่างน้อยทำให้การข้ามไปข้ามมา ทำได้ยากขึ้น
“วันนี้ต้องประหยัดงบประมาณด้านการทหาร รวมถึงลดกำลังพลตามแนวชายแดน แต่อาจต้องลงทุนเพื่อทำรั้วในพื้นที่ที่มีเขตปักปันชัดเจน และต้องหารือกับประเทศเพื่อนบ้านว่าเห็นด้วยหรือไม่ เพราะวันนี้ปัญหาในภาคใต้มีทั้ง ระเบิด การทำผิดกฎหมาย ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดยมี 7 ท่าเรือข้ามที่ถูกกฎหมาย และมีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง แต่ยังมีกว่า 90 ท่าข้ามเรือ ที่ต้องควบคุม ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ จึงให้ทหารไปเฝ้า ก็ไม่สามารถเฝ้าได้ทั้ง 24 ชั่วโมง แต่ถ้ามีรั้วขึ้นมา และมีการบุกรุกก็จะมีสัญญาณเตือน ทหารเราก็มีชุดเคลื่อนที่เร็ว สามารถเข้าไปแก้ปัญหาได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้กองภาคที่ 4 สำรวจพื้นที่และกำหนดรายละเอียด โดยเน้นในจุดที่เป็นพื้นที่ราบ ที่มีการข้ามไปมาสะดวก ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีนโยบายในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเอารั้วลวดหนามไปขวางกัน ขณะนั้นมองว่าไม่ได้ผล แต่ปรากฏว่า ได้ผลดี เรียกว่าเป็นการเบนทิศทางของฝ่ายข้าศึกในพื้นที่ที่เราควบคุมได้ ต่อไปในอนาคตจะมีการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน ค้าขายยาเสพติด แรงงานต่างด้าว มากขึ้น ขอให้มองยุทธศาสตร์ระยะยาว อย่ามองสั้นๆ วันนี้เราเป็นกองทัพ ที่ประชาชนให้ความหวัง และตนก็จะทำให้ดีที่สุด ในเรื่องของผลประโยชน์ต่างๆ ต้องขจัดออกไปให้ได้ ต้องมีความโปร่งใสพอสมควร ทุกอย่างต้องผ่านระเบียบ อย่างมองว่าเป็นการทุจริตไปหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็นรั้วแบบไหน เพราะมีหลายแบบเช่น รั้วลวดหนาม คอนกรีต รั้วเหล็ก หรือรั้วที่เป็นต้นไม้ที่มีหนามเราก็เคยปลูกตามแนวชายแดน ที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และถ้าเน้นประหยัด ก็จะใช้ต้นไม้ที่เป็นเครื่องกีดขวางตามธรรมชาติ ส่วนไหนที่เบาหน่อยก็ใช้รั้วลวดหนาม ส่วนไหนที่เข้มแข็ง ก็ต้องใช้รั้วคอนกรีต
“วันนี้ต้องประหยัดงบประมาณด้านการทหาร รวมถึงลดกำลังพลตามแนวชายแดน แต่อาจต้องลงทุนเพื่อทำรั้วในพื้นที่ที่มีเขตปักปันชัดเจน และต้องหารือกับประเทศเพื่อนบ้านว่าเห็นด้วยหรือไม่ เพราะวันนี้ปัญหาในภาคใต้มีทั้ง ระเบิด การทำผิดกฎหมาย ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดยมี 7 ท่าเรือข้ามที่ถูกกฎหมาย และมีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง แต่ยังมีกว่า 90 ท่าข้ามเรือ ที่ต้องควบคุม ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ จึงให้ทหารไปเฝ้า ก็ไม่สามารถเฝ้าได้ทั้ง 24 ชั่วโมง แต่ถ้ามีรั้วขึ้นมา และมีการบุกรุกก็จะมีสัญญาณเตือน ทหารเราก็มีชุดเคลื่อนที่เร็ว สามารถเข้าไปแก้ปัญหาได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้กองภาคที่ 4 สำรวจพื้นที่และกำหนดรายละเอียด โดยเน้นในจุดที่เป็นพื้นที่ราบ ที่มีการข้ามไปมาสะดวก ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีนโยบายในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเอารั้วลวดหนามไปขวางกัน ขณะนั้นมองว่าไม่ได้ผล แต่ปรากฏว่า ได้ผลดี เรียกว่าเป็นการเบนทิศทางของฝ่ายข้าศึกในพื้นที่ที่เราควบคุมได้ ต่อไปในอนาคตจะมีการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน ค้าขายยาเสพติด แรงงานต่างด้าว มากขึ้น ขอให้มองยุทธศาสตร์ระยะยาว อย่ามองสั้นๆ วันนี้เราเป็นกองทัพ ที่ประชาชนให้ความหวัง และตนก็จะทำให้ดีที่สุด ในเรื่องของผลประโยชน์ต่างๆ ต้องขจัดออกไปให้ได้ ต้องมีความโปร่งใสพอสมควร ทุกอย่างต้องผ่านระเบียบ อย่างมองว่าเป็นการทุจริตไปหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็นรั้วแบบไหน เพราะมีหลายแบบเช่น รั้วลวดหนาม คอนกรีต รั้วเหล็ก หรือรั้วที่เป็นต้นไม้ที่มีหนามเราก็เคยปลูกตามแนวชายแดน ที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และถ้าเน้นประหยัด ก็จะใช้ต้นไม้ที่เป็นเครื่องกีดขวางตามธรรมชาติ ส่วนไหนที่เบาหน่อยก็ใช้รั้วลวดหนาม ส่วนไหนที่เข้มแข็ง ก็ต้องใช้รั้วคอนกรีต
