วานนี้(21 พ.ค.56) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าครม.มีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมฯ ฝ่ายไทย เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องเสนอ โดย เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง โดยให้สำนักงานพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) เป็นผู้เข้าร่วมจัดตั้งและร่วมลงทุนในบริษัท ทวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเมนท์ จำกัด กับหน่วยงานของเมียนมาร์ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทวงเงินไม่เกิน 1 ร้อยล้านบาท และให้ สพพ. พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ร่วมกับ Foreign Economic Relation Department (FERD) ของเมียนมาร์ ในสัดส่วนร้อยละ 50 วงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยให้รับไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โดยผลการประชุมคณะทำงานฝ่ายไทย- โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2556 ที่ประชุมได้พิจารณาทบทวนและเห็นชอบร่างสัญญาข้อตกลงผู้ถือหุ้น (Shareholders Agreement) สำหรับการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle: SPV) โดยจะมี สพพ. และ Foreign Economic Relation Department (FERD) เป็นผู้ถือหุ้นฝ่ายไทยและเมียนมาร์ตามลำดับ และร่างข้อบังคับของบริษัทจำกัด (Article of Association) รวมทั้งร่างกรอบความตกลง (Framework Agreement) สำหรับการลงนามระหว่าง SPV กับคณะกรรมการบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone Management Committee: DSEZ MC) เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในภาพรวมอย่างเป็นระบบ
ที่ประชุมได้รับทราบผลการศึกษาของคณะผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นที่ทำการศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงการทวายในภาพรวม โดยเสนอให้รัฐบาลเมียนมาร์พิจารณารูปแบบการลงทุนแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ สำหรับโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน คือ ท่าเรือและถนน เพื่อให้โครงการมีความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์และสามารถหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนได้ ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนดังกล่าว ควรคำนึงถึงสถานะการคลังของรัฐบาลเมียนมาร์และการลงทุนควรแบ่งออกเป็นระยะ ๆ ซึ่งฝ่ายไทยและเมียนมาร์ได้ชักชวนให้ภาครัฐและเอกชนญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมให้การสนับสนุนต่อโครงการ อาทิ การให้ความช่วยเหลือการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistant: ODA) แก่รัฐบาลเมียนมาร์
ที่ประชุมได้ตกลงกันในเรื่อง Relocation ว่า รัฐบาลเมียนมาร์จะเป็นผู้วางแผนและดำเนินการโยกย้ายคน โดยที่ SPC จะเป็นผู้จ่ายเงินผ่าน SPV และแผนการเคลื่อนย้ายคนจะต้องได้รับความเห็นชอบโดย SPV และเป็นไปตามมาตรฐานสากล
โดยเบื้องต้นจะลงทุนฝ่ายละ 10 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการ และส่งเสริมให้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอย่างเป็นระบบ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า โครงการลงทุนก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวายทำให้ลดต้นทุนการขนส่งได้กว่าร้อยละ 20 คาดการส่งออกไทยไปพม่าเพิ่มเป็นร้อยละ 45 จากที่คาดไว้ร้อยละ 30
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.นี้ ว่า นายกรัฐมนตรีจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กับคณะนักลงทุนชาวญี่ปุ่น เรื่องการลงทุนของประเทศไทย โครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในประเทศเมียนมาร์ เพราะมีข่าวที่ออกมาหลายข่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทยและญี่ปุ่น โดยเราเห็นว่าการสื่อสารกันยังมีช่องว่างของข้อมูล นายกรัฐมนตรีจึงจะใช้โอกาสนี้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ส่วนการหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในวันที่ 23 พ.ค.นั้น นายอาเบะ เป็นฝ่ายที่ขอหารือกับนายกรัฐมนตรีของไทย ในประเด็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และเราอยากให้ฝ่ายญี่ปุ่นเข้าใจว่ารัฐบาลไทยกำลังทำอะไร เพื่อที่ญี่ปุ่นมีความมั่นใจและจะได้เสนอข้อคิดเห็นให้เราทราบถึงสิ่งที่เขาอยากเห็น รวมถึงเราจะนำเสนอระบบป้องกันสถานประกอบการของเขาในไทยจากปัญหาอุทกภัย
เมื่อถามว่าแสดงว่านายกรัฐมนตรีถือโอกาสนี้ ไปทำความเข้าใจกับฝ่ายญี่ปุ่น หลังจากเกิดกรณีที่กลุ่มบริษัทของญี่ปุ่นถอนตัวจากการร่วมประมูลโครงการลงทุนระบบบริหารจัดการน้ำของไทย วงเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ใช่หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ใช่ เพราะกรณีดังกล่าวทำให้ดูเหมือนว่ามีความไม่เข้าใจกัน ทั้งนี้ เราเข้าใจแล้วว่าที่จริง ญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นและอยากทำงานกับไทย แต่ก็ต้องมีการสื่อสารพูดคุยกัน อีกทั้ง เราต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับญี่ปุ่นด้วยว่าปัจจุบันทุกคนในโลกนี้สามารถผลิตได้เท่ากันและมีคุณภาพใกล้เคียงกัน จึงควรเสนอราคาที่เหมาะสมในการจะมาลงทุนหรือร่วมประมูลงาน เพราะถ้าเสนอราคาสูงเกินกว่าของคนอื่น 2-3 เท่า มันก็จะมีปัญหา.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาทรัพยากรน้ำและการบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด โดยเป็นการกู้เงินมากองไว้ ส่วนข่าวที่มีการซื้อที่ดิน เช่าที่ดินที่คาดการณ์ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ถูกเวนคืนมาสร้างเป็นเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำ ที่จ.ชัยภูมิ กรณีเขื่อนโป่งขุนเพชร เขื่อนชีบน และเขื่อนนายางดี หากไม่อยากให้ข้อครหาที่บอกว่านายกรัฐมนตรีซึ่งเคยบริหารในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และใกล้ชิดกับนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ หาประโยชน์จากเงินกู้ก้อนนี้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีและนายปลอดประสพ ออกมาระบุให้ชัดเจนว่าจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร
ที่รัฐสภา นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ..... (พ.ร.บ.กู้เงิน) วงเงิน 2 ล้านล้านบาท เปิดเผย ว่า เรื่องของค่าจ้างที่ปรึกษาในส่วนการควบคุมงาน ที่พบว่ามีตัวเลขสูงเกือบ 4% ของงบประมาณโครงการนั้น มีการซักถามไปยังหน่วยงานถึงที่มาและขอให้มีการปรับลดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของงบประมาณหลายรอบแล้วแต่ยังไม่มีคำตอบ เบื้องต้นทางกรรมาธิการฯ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์หารือกันว่าหากทางหน่วยงานไม่สามารถปรับลดค่าจ้างที่ปรึกษาลงได้ อาจจะลาออกจากตำแหน่งกรรมาธิการ
โดยผลการประชุมคณะทำงานฝ่ายไทย- โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2556 ที่ประชุมได้พิจารณาทบทวนและเห็นชอบร่างสัญญาข้อตกลงผู้ถือหุ้น (Shareholders Agreement) สำหรับการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle: SPV) โดยจะมี สพพ. และ Foreign Economic Relation Department (FERD) เป็นผู้ถือหุ้นฝ่ายไทยและเมียนมาร์ตามลำดับ และร่างข้อบังคับของบริษัทจำกัด (Article of Association) รวมทั้งร่างกรอบความตกลง (Framework Agreement) สำหรับการลงนามระหว่าง SPV กับคณะกรรมการบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone Management Committee: DSEZ MC) เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในภาพรวมอย่างเป็นระบบ
ที่ประชุมได้รับทราบผลการศึกษาของคณะผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นที่ทำการศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงการทวายในภาพรวม โดยเสนอให้รัฐบาลเมียนมาร์พิจารณารูปแบบการลงทุนแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ สำหรับโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน คือ ท่าเรือและถนน เพื่อให้โครงการมีความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์และสามารถหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนได้ ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนดังกล่าว ควรคำนึงถึงสถานะการคลังของรัฐบาลเมียนมาร์และการลงทุนควรแบ่งออกเป็นระยะ ๆ ซึ่งฝ่ายไทยและเมียนมาร์ได้ชักชวนให้ภาครัฐและเอกชนญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมให้การสนับสนุนต่อโครงการ อาทิ การให้ความช่วยเหลือการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistant: ODA) แก่รัฐบาลเมียนมาร์
ที่ประชุมได้ตกลงกันในเรื่อง Relocation ว่า รัฐบาลเมียนมาร์จะเป็นผู้วางแผนและดำเนินการโยกย้ายคน โดยที่ SPC จะเป็นผู้จ่ายเงินผ่าน SPV และแผนการเคลื่อนย้ายคนจะต้องได้รับความเห็นชอบโดย SPV และเป็นไปตามมาตรฐานสากล
โดยเบื้องต้นจะลงทุนฝ่ายละ 10 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการ และส่งเสริมให้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอย่างเป็นระบบ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า โครงการลงทุนก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวายทำให้ลดต้นทุนการขนส่งได้กว่าร้อยละ 20 คาดการส่งออกไทยไปพม่าเพิ่มเป็นร้อยละ 45 จากที่คาดไว้ร้อยละ 30
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.นี้ ว่า นายกรัฐมนตรีจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กับคณะนักลงทุนชาวญี่ปุ่น เรื่องการลงทุนของประเทศไทย โครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในประเทศเมียนมาร์ เพราะมีข่าวที่ออกมาหลายข่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทยและญี่ปุ่น โดยเราเห็นว่าการสื่อสารกันยังมีช่องว่างของข้อมูล นายกรัฐมนตรีจึงจะใช้โอกาสนี้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ส่วนการหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในวันที่ 23 พ.ค.นั้น นายอาเบะ เป็นฝ่ายที่ขอหารือกับนายกรัฐมนตรีของไทย ในประเด็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และเราอยากให้ฝ่ายญี่ปุ่นเข้าใจว่ารัฐบาลไทยกำลังทำอะไร เพื่อที่ญี่ปุ่นมีความมั่นใจและจะได้เสนอข้อคิดเห็นให้เราทราบถึงสิ่งที่เขาอยากเห็น รวมถึงเราจะนำเสนอระบบป้องกันสถานประกอบการของเขาในไทยจากปัญหาอุทกภัย
เมื่อถามว่าแสดงว่านายกรัฐมนตรีถือโอกาสนี้ ไปทำความเข้าใจกับฝ่ายญี่ปุ่น หลังจากเกิดกรณีที่กลุ่มบริษัทของญี่ปุ่นถอนตัวจากการร่วมประมูลโครงการลงทุนระบบบริหารจัดการน้ำของไทย วงเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ใช่หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ใช่ เพราะกรณีดังกล่าวทำให้ดูเหมือนว่ามีความไม่เข้าใจกัน ทั้งนี้ เราเข้าใจแล้วว่าที่จริง ญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นและอยากทำงานกับไทย แต่ก็ต้องมีการสื่อสารพูดคุยกัน อีกทั้ง เราต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับญี่ปุ่นด้วยว่าปัจจุบันทุกคนในโลกนี้สามารถผลิตได้เท่ากันและมีคุณภาพใกล้เคียงกัน จึงควรเสนอราคาที่เหมาะสมในการจะมาลงทุนหรือร่วมประมูลงาน เพราะถ้าเสนอราคาสูงเกินกว่าของคนอื่น 2-3 เท่า มันก็จะมีปัญหา.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาทรัพยากรน้ำและการบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด โดยเป็นการกู้เงินมากองไว้ ส่วนข่าวที่มีการซื้อที่ดิน เช่าที่ดินที่คาดการณ์ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ถูกเวนคืนมาสร้างเป็นเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำ ที่จ.ชัยภูมิ กรณีเขื่อนโป่งขุนเพชร เขื่อนชีบน และเขื่อนนายางดี หากไม่อยากให้ข้อครหาที่บอกว่านายกรัฐมนตรีซึ่งเคยบริหารในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และใกล้ชิดกับนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ หาประโยชน์จากเงินกู้ก้อนนี้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีและนายปลอดประสพ ออกมาระบุให้ชัดเจนว่าจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร
ที่รัฐสภา นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ..... (พ.ร.บ.กู้เงิน) วงเงิน 2 ล้านล้านบาท เปิดเผย ว่า เรื่องของค่าจ้างที่ปรึกษาในส่วนการควบคุมงาน ที่พบว่ามีตัวเลขสูงเกือบ 4% ของงบประมาณโครงการนั้น มีการซักถามไปยังหน่วยงานถึงที่มาและขอให้มีการปรับลดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของงบประมาณหลายรอบแล้วแต่ยังไม่มีคำตอบ เบื้องต้นทางกรรมาธิการฯ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์หารือกันว่าหากทางหน่วยงานไม่สามารถปรับลดค่าจ้างที่ปรึกษาลงได้ อาจจะลาออกจากตำแหน่งกรรมาธิการ
