แดง กวป.ปิดจ็อบม็อบรับจ้าง แถมถูก “นายใหญ่”ตบหัวทิ่ม

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ปฏิบัติการใช้ “กฎหมู่” อยู่เหนือ “กฎหมาย” ของคนเสื้อแดงที่กระทำในนาม “กลุ่มวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(กวป.)” โดยมีเป้าหมายเพื่อโค่นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และยกระดับการชุมนุมกลายเป็นม็อบใหญ่ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 ด้วยการเคลื่อนที่ไปยังสถานที่สำคัญ 5 จุดคือ 1.สอบสวนคดีพิเศษ 2.สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง 3.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) 4.ทำเนียบรัฐบาล และ 5.รัฐสภา บัดนี้เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่า คนเสื้อแดงในนาม กวป. “ดีแต่พูด” เพราะไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ “โม้” เอาไว้ได้

ดีแต่พูดทั้งในเชิงปริมาณคือไม่สามารถระดมคนให้ครบ 100,000 คนตามที่ประกาศเอาไว้ได้ จนต้องประการยุติการชุมนุมไปชนิดที่ตดยังไม่ทันหายเหม็น

ดีแต่พูดทั้งในเชิงคุณภาพคือ ไม่สามารถหาเหตุผลที่เหมาะสมและเพียงพอที่จะทำให้สังคมเห็นพ้องต้องกันว่า การเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนยุติการปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ก็คงต้องรอดูต่อไปว่า เป้าหมายที่เปลี่ยนใหม่คือการรวบรวมรายชื่อประชาชน 1 ล้านรายชื่อเพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามคำแนะนำของ “โภคิน พลกุล” นักกฎหมายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยนั้น จะทำได้สำเร็จได้ตามราคาคุยหรือไม่ เพราะต้องยอมรับความจริงว่า วิธีการดังกล่าวไม่เคยประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

แน่นอน แม้การเคลื่อนไหวของ กวป.ในช่วงแรกๆ จะได้รับการสนับสนุนจากระบอบทักษิณ ทั้งจากตัวนายใหญ่ ทั้งจากตัวพรรค ทั้งจากตัวรัฐบาลและทั้งจากตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วทำไม กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช.ที่มี “สหายปูน-ธิดา ถาวรเศรษฐ์” เป็นประธานทำไมถึงไม่เข้าร่วม มิหนำซ้ำยังมีท่าทีที่ไม่สนับสนุนเสียด้วยซ้ำไป แถมต่อมายังมีข้อคิดเห็นจากโภคินแนะนำให้มีการล่า 1 ล้านรายชื่อ ซึ่งเสมือนหนึ่งเป็นการหาทางลงให้กับกลุ่ม กวป.อีกต่างหาก

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ขณะนี้คนเสื้อแดง รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมิได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนเช่นที่ผ่านมา และกวป.ก็คือผลผลิตรูปใหม่ของระบอบทักษิณที่ต้องการตั้งมวลชนกลุ่มใหม่เพื่อมาคานอำนาจกับกลุ่ม นปช.ของสหายปูนซึ่งไม่อาจสั่งซ้ายหันขวาหันได้เหมือนเช่นที่ผ่านมา

หรือเป็นเพราะ กวป.ปฏิบัติการเกินเลยไปกว่าที่ได้สั่งการเอาไว้

อย่างไรก็ตาม เมื่อดูถ้อยแถลงของธิดาแดงด้วยแล้วก็ทำให้ประติดประต่อภาพดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้น

“กวป.ได้ประกาศแล้วว่า ไม่ใช่ นปช. แต่ได้มีการพูดคุยกันบ้างและได้เตือนให้ระวังการปะทะที่ไม่มีเหตุผลไม่จำเป็นและไม่ชอบธรรม กลุ่ม กวป.ประกาศออกมาแล้วว่า การชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ ถือเป็นเรื่องดี อีกทั้งส่วนตัวมองว่าการชุมนุมของกลุ่ม กวป.ได้บรรลุเป้าหมายในเชิงแสดงออกถึงสัญลักษณ์แล้วว่าประชาชนไม่พอใจการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่การถอดถอนในระบบนั้นเป็นเรื่องยาก

“สาเหตุที่กลุ่ม นปช.ไม่เคลื่อนไหวอะไรในขณะนี้เพราะมีการนัดหมายใหญ่ในวันที่ 19พฤษภาคมซึ่งจะมีมติถึงการแสดงออกเรื่องต่างๆ ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงจุดยืนของกลุ่ม นปช.ในเรื่องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย ตอนนี้ กลุ่ม นปช.จึงเฝ้าดูและสนับสนุนในรัฐสภาและรัฐบาลเดินหน้ารวมถึงต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ โดยใช้ความชอบธรรมที่ได้รับอำนาจจากประชาชนทำหน้าที่ต่อไป”

คำถามมีอยู่ว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไม นปช.ถึงไม่สนับสนุน กวป.?

ทำไมถ้อยแถลงของ “วรชัย เหมะ” ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดสมุทรปราการ ที่บอกว่า เพิ่งไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและได้รับคำสั่งว่าให้เดินจนสุดทางสำหรับกรณีแก้รัฐธรรมนูญและกรณีกฎหมายนิรโทษกรรม จึงเปลี่ยนแปลงไป

ทำไมนักโทษชายทักษิณถึงไม่สั่งให้ม็อบ กวป.เดินหน้าจนสุดทาง หรือว่า ม็อบกวป.รับสาส์นมาดำเนินการ แต่ปฏิบัติการเกินเลยไปกว่าคำสั่งที่ระบุเอาไว้

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟังถ้อยแถลงของแกนนำ กวป.ทั้งนายชาญ ไชยะหรือหนุ่ม โคราช รองประธาน กวป.และนายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป.ก็พอจะเห็นร่องรอยของที่มาที่ไปอยู่บ้าง เพราะทั้งสองคนประกาศชัดเจนว่า “กวป.ได้รับแรงกดดัน ถูกบีบจากทุกฝ่ายให้ กวป.ยุติการชุมนุม”

ใครเป็นคนบีบให้ กวป.ยุติการชุมนุม

มีข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดแกนนำ กวป.ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแรงบีบที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยติดต่อมาขอให้กลุ่มแกนนำ กวป.ยุติการชุมนุมทันที

และผลของการถูกบีบ ซึ่งเชื่อได้ว่า หนักหนาสาหัสไม่น้อย ในที่สุด กวป.ก็หาทางลงด้วยการประกาศว่า “วันที่ 8 พฤษภาคมจะเป็นวันชี้ชะตาการชุมนุมของ กวป.ถ้าประชาชนมาถึง 1 แสนคน จะถือเป็นมติมหาชนในการเคลื่อนไหวกดดันให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญลาออกทั้งคณะ พวกเราจะชุมนุมต่อ แต่ถ้าประชาชนมาไม่ถึง 1 แสนคน ทาง กวป.จะประกาศยอมแพ้ ยุติการชุมนุมและยุติบทบาท เพราะถือว่า พี่น้องประชาชนไม่เอาด้วยกับการเคลื่อนไหวของ กวป.”

เป็นการประกาศที่เสมือนหนึ่งรู้ล่วงหน้าแล้วว่า จะมีคนมาไม่ถึง 1 แสนคน

ด้วยเหตุดังกล่าว คำตอบจึงมิอาจมองเป็นอื่นว่า นายใหญ่คนเสื้อแดงต้องการให้ กวป.ชุมนุมกดดันอยู่เพียงแค่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ มิใช่คลุ้มคลั่งยกระดับยกขบวนการเป็นม็อบเรือนแสนเพ่นพ่านไปทั่วเมืองกรุง ซึ่งสอดรับกับท่าทีของ ประธาน นปช.

เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่นายใหญ่คนเสื้อแดงและ นปช.เกรงว่า การยกระดับการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะมาซึ่งความวุ่นวายทางการเมืองเกินกว่าที่จะควบคุมได้ โดยเฉพาะการเคลื่อนขบวนของมวลชนจากศาลรัฐธรรมนูญไปยังสถานที่ 5 แห่งพร้อมๆ กันซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอดเวลา เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่า ระหว่างเคลื่อนขบวนจะราบรื่นหรือไม่

ซ้ำร้ายเมื่อเหลือบดูรายชื่อแกนนำม็อบ กวป.ด้วยแล้วก็ยิ่งเห็นข้อด้อยหนักเข้าไปอีก เพราะไร้ซึ่งประสบการณ์ในการคุมมวลชนเรือนแสนที่ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย

“เป็นห่วงและเตือนคือ กลัวมือที่ 3 และกลัวว่า พี่น้องบางคนยังขาดประสบการณ์ในการดูแล เพราะว่าบางครั้งอาจจะเกิดการใช้อารมณ์มากกว่าใช้หลักการและเหตุผล”

คำให้สัมภาษณ์ของธิดา ถาวรเศรษฐ์ คือคำตอบที่ตอกย้ำว่า ทำไมม็อบ กวป.ถึงล่มปากอ่าวไปเยี่ยงนี้

นอกจากนั้น รายงานข่าวจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ซึ่งประกอบไปด้วยแกนนำพรรค เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายนพดล ปัทมะ เป็นต้น ได้ร่วมหารือถึงสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมของม็อบ กวป. โดยความเห็นที่ประชุมส่วนใหญ่มองว่ามีสิทธิชุมนุม แต่การแสดงออกบางเรื่องรุนแรงไป

“ความจริง กวป.ควรยุติชุมนุมตั้งแต่ ส.ส.เพื่อไทย และส.ว.312 คน มีท่าทีไม่รับอำนาจศาลแล้ว เพราะการชุมนุมแต่ละครั้งประชาชนเดือดร้อน มีค่าใช้จ่าย ดีไม่ดีลามมาถึง ส.ส.ด้วยถ้าเขามาขอตังค์ การที่บอกจะระดมคนใหญ่วันที่ 8 พ.ค. ว่ากันจริงๆ ทำได้ยาก หาก ส.ส.หรือ นปช.ไม่ช่วย ชุมนุมหลายวันเสื้อแดงที่มาเดือดร้อน แดงใน กทม.ไม่มีปัญหา แต่แดงที่มาต่างจังหวัดเดือดร้อน มาแล้วไม่ได้อะไร หากจะมาเที่ยวก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามาแล้วให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่เห็นด้วย ชุมนุมครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ นปช.เคยชุมนุมไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ให้ยุบสภา อันนั้นมันมีมิติการเมือง แต่การชุมนุมนี้มันอีกเรื่องหนึ่งคนละสาเหตุ ที่ห่วงคือชุมนุมแล้วมีคนทำให้เกิดความเดือดร้อน ใครจะรับผิดชอบ เกิดเรื่องมาเดี๋ยวมาโบ้ยรัฐบาล ถ้าเป็นอย่างนั้น ตกลงมาเชียร์รัฐบาลหรือทำลายรัฐบาลกันแน่” นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ให้ความเห็นต่อม็อบ กวป. แถมยังเหน็บพวกกันเองอย่างเจ็บแสบด้วยว่า “หากมองในแง่ร้ายที่ไม่เลิกเป็นเพราะแกนนำไปรับอะไรของใครมาหรือไม่ แต่ก็ไม่อยากพูด เพราะไม่รู้เจตนาจริงๆ ของเขาคืออะไร”

และเมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจาก นปช.และส.ส.พรรคเพื่อไทยตามที่นพ.เชิดชัยระบุ การระดมคนจากจังหวัดต่างๆ ก็ไม่เกิด ท่อน้ำเลี้ยงก็ถูกตัด กลายเป็นม็อบที่มีคนมาแค่หยิบมือหลังคุยโวเกินตัวมาจะขนมาเป็นแสน

นี่คือความจริงวันนี้ของม็อบ กวป. ม็อบรับจ้างที่ถูกจัดตั้งโดยแกนนำหางแถวและถูกส่งมาโยนหินถามทางเช็กกระแสฝ่ายตรงข้าม แต่ด้วยความที่แกนนำที่เพิ่งสัมผัสอำนาจ วาสนาและถุงขนมซึ่งถูกหยิบยื่นมาให้จึงกระทำเกินคำสั่งกระทั่งนายใหญ่ต้องตบกะโหลกสั่งสอนให้รู้สำนึก สุดท้ายม็อบจับจ้างที่ก็มีอันต้องปิดจ็อบและสลายตัวไปแบบอาหารไม่เต็มกระเพาะ