ศรีสะเกษ -โจรงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ฉกเงินไปร่วม 5 ล้านบาท ตำรวจศรีสะเกษเร่งสอบสวนหาเบาะแสคนร้าย โดยระดมชุดสืบสวนฝีมือดีลุยหาหลักฐานมัดตัวคนร้าย เบื้องต้นได้เบาะแสคนร้ายแล้ว
จากกรณีที่ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปงัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด ที่ตั้งเอาไว้บริการลูกค้า ข้างที่ว่าการ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยคนร้ายใช้แก๊สเป่าตัดกุญแจและช่องใส่เงิน ได้เงินไปจำนวน 4.9 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าคนร้ายเข้ามางัดตู้เอทีเอ็ม เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 4 พ.ค.56
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วานนี้( 6 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข้างที่ว่าการ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเอาแถบกั้นบริเวณสถานที่เกิดเหตุ ติดป้ายคำว่า ห้ามเข้า มาขึงรอบบริเวณ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดยมี เจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย สาขาอุบลราชธานี มาตรวจดูสถานที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันที่ สภ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.วิเชียร สุขศิริ ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบฝีมือดีของ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมในการสืบสวนสอบสวนหาเบาะแสของคนร้าย เนื่องจากจากการที่ได้มีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว พบว่า คนร้ายที่งัดตู้เอทีเอ็มในครั้งนี้ น่าจะเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบต่างๆ ของตู้เอทีเอ็มเป็นอย่างดี ซึ่ง พ.ต.ท.วัชรพงษ์ ทองมนต์ พนักงานสอบสวน สภ.เบญจลักษ์ ได้เร่งดำเนินการสอบสวนพยาน และผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยด่วน
พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ตนและคณะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ให้ได้โดยด่วนและจากการสอบสวนพยานไปแล้วทั้งสิ้น 11 ราย พบว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับตู้เอทีเอ็ม และพยานหลายคนให้การไม่สอดคล้องตรงกัน ทำให้ทราบเบาะแสแล้วว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนภายในที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบเอทีเอ็มเป็นอย่างดี
อีกทั้งจากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร พบว่า เงินที่นำมาเพิ่มไว้ในตู้ จำนวน 5 ล้านบาท มีการเบิกไปแล้ว 50,000บาท โดยมีการทำรายการล่าสุด เมื่อเวลา 22.49 น.ของวันที่ 3 พ.ค. จากนั้น ก็ไม่มีการทำรายการอีกเลย และทราบเบื้องต้นว่า เครื่องส่งสัญญาณเตือนภัยได้มีการส่งสัญญาณไปยังสำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงไทย เมื่อเวลา 02.45 น. ของวันที่ 4 พ.ค.จึงคาดว่า น่าจะมีการโจรกรรมเงินไปในช่วงเวลาดังกล่าว
พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ กก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ กระจายกันออกไปสืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายอย่างเร่งด่วน และขณะนี้ทราบเบาะแสเบื้องต้นของคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร เพียงแค่รอพยานหลักฐาน ก็จะสามารถออกหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ได้ทันที และขอฝากไปถึงประชาชนชาวศรีสะเกษ และชาวจังหวัดใกล้เคียงว่า หากพบเบาะแสคนร้าย ขอให้แจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.เบญจลักษ์ ทราบด้วย
จากกรณีที่ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปงัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด ที่ตั้งเอาไว้บริการลูกค้า ข้างที่ว่าการ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยคนร้ายใช้แก๊สเป่าตัดกุญแจและช่องใส่เงิน ได้เงินไปจำนวน 4.9 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าคนร้ายเข้ามางัดตู้เอทีเอ็ม เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 4 พ.ค.56
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วานนี้( 6 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข้างที่ว่าการ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเอาแถบกั้นบริเวณสถานที่เกิดเหตุ ติดป้ายคำว่า ห้ามเข้า มาขึงรอบบริเวณ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดยมี เจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย สาขาอุบลราชธานี มาตรวจดูสถานที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันที่ สภ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.วิเชียร สุขศิริ ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบฝีมือดีของ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมในการสืบสวนสอบสวนหาเบาะแสของคนร้าย เนื่องจากจากการที่ได้มีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว พบว่า คนร้ายที่งัดตู้เอทีเอ็มในครั้งนี้ น่าจะเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบต่างๆ ของตู้เอทีเอ็มเป็นอย่างดี ซึ่ง พ.ต.ท.วัชรพงษ์ ทองมนต์ พนักงานสอบสวน สภ.เบญจลักษ์ ได้เร่งดำเนินการสอบสวนพยาน และผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยด่วน
พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ตนและคณะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ให้ได้โดยด่วนและจากการสอบสวนพยานไปแล้วทั้งสิ้น 11 ราย พบว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับตู้เอทีเอ็ม และพยานหลายคนให้การไม่สอดคล้องตรงกัน ทำให้ทราบเบาะแสแล้วว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนภายในที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบเอทีเอ็มเป็นอย่างดี
อีกทั้งจากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร พบว่า เงินที่นำมาเพิ่มไว้ในตู้ จำนวน 5 ล้านบาท มีการเบิกไปแล้ว 50,000บาท โดยมีการทำรายการล่าสุด เมื่อเวลา 22.49 น.ของวันที่ 3 พ.ค. จากนั้น ก็ไม่มีการทำรายการอีกเลย และทราบเบื้องต้นว่า เครื่องส่งสัญญาณเตือนภัยได้มีการส่งสัญญาณไปยังสำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงไทย เมื่อเวลา 02.45 น. ของวันที่ 4 พ.ค.จึงคาดว่า น่าจะมีการโจรกรรมเงินไปในช่วงเวลาดังกล่าว
พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ กก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ กระจายกันออกไปสืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายอย่างเร่งด่วน และขณะนี้ทราบเบาะแสเบื้องต้นของคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร เพียงแค่รอพยานหลักฐาน ก็จะสามารถออกหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ได้ทันที และขอฝากไปถึงประชาชนชาวศรีสะเกษ และชาวจังหวัดใกล้เคียงว่า หากพบเบาะแสคนร้าย ขอให้แจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.เบญจลักษ์ ทราบด้วย
