xs
xsm
sm
md
lg

บัวทองทุ่ม200ล้าน ซื้อตึกล้างเมืองทองฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

    ASTVผู้จัดการรายวัน - บัวทองกรุ๊ป ทุ่มเงินสด200ล้านบาทซื้ออาคารชุดสร้างค้างสูง27ชั้นในเมืองทองธานีจากสถาบันการเงิน หวังนำมาปรับปรุงเปิดขายใหม่ คาดก.ค.นี้รับโอนแล้วเสร็จ ล่าสุดอยู่ระหว่างพิจาณา ว่าจะขายต่อหรือพัฒนาขายเอง มีบริษัทอสังหาฯขอซื้อต่อ แจงกรีณีความล่าช้าโครงการบ้านเดี่ยวพัทยาใต้ติดปัญหารอโอนจากกรมบังคับคดี พร้อมเผยแผนปี56 ผุด4โครงการใหม่มูลค่า1,200ล้านบาท       

    นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้เข้าซื้อโครงการอาคารชุดที่สร้างค้างในเมืองทองธานีจำนวน1 อาคาร ซึ่งเป็นอาคารสูง27ชั้น จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง โดยใช้เงินสดมูลค่า200ล้านบาทเศษ เพื่อนำมาปรับปรุงและเปิดขายใหม่ คาดว่าจะสามารถรับโอนจากสถาบันการเงินได้ในเดือน ก.ค.นี้ สำหรับอาคารชุดดังกล่าวที่ซื้อเข้ามามีราคาขายที่ถูกกว่าโครงการก่อสร้างใหม่ประมาณ 50%   
    
    “อย่างไรก็ตามอาคารชุดดังกล่าวบริษัทยังไม่ได้มีการปรับปรุง หรือออกแบบตกแต่งภายในใหม่ รวมถึงการกำหนดราคาตั้งขายใหม่แต่อย่างไร เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะนำมาปรับปรุงเพื่อขายเอง หรือจะขายยกอาคารออกไป เพราะหลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้ออาคารดังกล่าวมา ก็มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ รายหนึ่งติดต่อขอซื้ออาคารดังกล่าวจากบริษัท คาดว่าจะนำไปปรับปรุงขายเช่นกัน ทั้งนี้หากบริษัทตัดสินใจไม่ขายอาคารดังกล่าวคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในไตรมาส4ของปีนี้”      
    
    ส่วนความคืบหน้า ของการลงทุนพัฒนาโครงการบ้านแนวราบในเมืองพัทยาใต้ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 22 ไร่ และโครงการแรกที่รุกไปพัฒนาในต่างจังหวัด เพื่อกระจายความเสี่ยง และบริหารงานโดยบริษัท บัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ซึ่งมีแผนพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ขนาด 60 ตารางวา ขึ้นไป ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5 ล้านบาท จำนวน 88 ยูนิต คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ประมาณปลายปี 2556 นี้ จากเดิมที่มีแผนจะเปิดตัวในกลางปีนี้ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถเดินการได้ เพราะติดปัญหารอการโอนที่ดินจาก กรมบังคบคดีก่อน

    ทั้งนี้ โครงการบ้านเดี่ยวในพัทยาใต้ เป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่ที่อยู่ในแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ ซึ่งมีแผนรุกทั้งการพัฒนาโครงการเอง และการบริหารงานขายโดยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ รวมมูลค่า 1,210 ล้านบาท ได้แก่ โครงการพฤกษ์พิมาน การ์เด้น โดยบริษัท บัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด, โครงการทิพย์พิมาน กรีนวิลล์ โดยบริษัท บัวทอง ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด, โครงการพฤกษ์พิมาน 5 โดยบริษัท บัวทอง เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทน้องใหม่
    

    ส่วนธุรกิจรับบริหารงานขายนั้น ในปีนี้คาดว่าจะรับบริหารงานเพิ่มอีก 6-8 โครงการ จากเดิมซึ่งรับบริหารอยู่ประมาณ25 โครงการ โดยจะเน้นรับบริหารหลากหลายทำเลเพื่อกระจายความเสี่ยงและเปิดรับโครงการในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นด้วย โดยในปีนี้บรัทตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 1,500 ล้านบาท โดยล่าสุด(มกราคม-เมษ่ายน)สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 620 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าเป้าหมายในไตรมาสแรก และคาดว่าตลอดทั้งปีน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

    ส่วนความกังวลเรื่องภาวะฟองสบู่นั้นปัจจุบันยังไม่พบสัญญาณดังกล่าว ทั้งในส่วนของราคา ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนสมัยปี 2540 หากแต่เป็นการเพิ่มตามสภาพตลาดที่ทั้งค่าแรง ราคาที่ดินและราคาวัสดุมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยจึงปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ต่อเรื่องการเก็งกำไรนั้นไม่อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง แม้ว่าการแข่งขันในตลาดจะมีความคึกคักอย่างมากก็ตาม

    สำรหับกล่าวว่าสถานการณ์อสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของ เงินเฟ้อที่ไม่สูงนัก GDP ขยายตัวกว่าที่คาดคิดไว้ จาก 5 % เป็น 5.3% สภาพเศรษฐกิจยังคงเป็นขาขึ้น ถึงแม้ว่า ค่าเงินบาทจะแข็งค่ามากขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกต่างๆเข้ามาเสริม อาทิ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นภาคประชาชนและเอกชนในเรื่องการป้อง กันน้ำท่วม ตลอดจนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทที่เพิ่งผ่านคณะรัฐมนตรี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องสนับสนุนให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

    อย่างไรก็ดี จากปัจจัยโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ จะส่งผลให้พื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครที่มีโครงการรถไฟฟ้าพาดผ่านมีความคึกคักตามไปด้วย โดยเฉพาะพื้นที่อ.บางบัว ทอง อ.บางใหญ่ ของจ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ รวมถึงแผนลงทุนโครงการก่อสร้างทางด่วน 3 ช่วง N1 (บางใหญ่-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) และทางด่วนเชื่อมระหว่างจังหวัดถนนวงแหวนรอบ3 และการขยายถนนราช พฤกษ์ เป็น 10 ช่องจราจร โดยเฉพาะช่วงถนนสาทร-ชัยพฤกษ์และเชื่อมกับรถไฟฟ้า ฯลฯ ส่งผลให้ดีเวลอปเปอร์รายใหญ่รุกเข้าไปพัฒนาโครงการเป็นจำนวนมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น