xs
xsm
sm
md
lg

ทรราชผู้ว้าเหว่ไม่ยอมจมทะเลอย่างเดียวดาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัญญาพลวัตร
โดย...พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

ภายหลังลอยคออยู่กลางทะเลอย่างเดียวดายมานานนับปี ทรราชจอมบงการพลันตระหนักขึ้นว่า ข้าจะจมทะเลอย่างโดดเดี่ยวทำไมกัน อย่ากระนั้นเลย ต้องฉุดกระชากลากเอาบรรดาผู้รับใช้ สมุน เครือญาติและข้าทาสทั้งหลายให้จมทะเลเป็นเพื่อนตนเองจะดีกว่าเพื่อจะได้บรรเทาความเหงาภายในจิตใจลงไปบ้าง

ทรราชจอมบงการจึงมีคำสั่งให้บรรดาผู้รับใช้เพิ่มความเข้มข้นและรุนแรงของการเคลื่อนไหวทางการเมืองให้มากขึ้น มีการเปิดแนวรุกทั้งภายในและนอกประเทศสอดประสานกัน มีการเปิดหมากการเมืองตัวใหม่ในเวทีนานาชาติซึ่งเดิมหมากตัวนี้ถูกเก็บไว้อย่างทะนุถนอม แต่ครานี้ให้ลุยอย่างไม่ยั้ง ประเภทเอาให้พังพินาศไปข้างหนึ่ง พร้อมกันนั้นก็เร่งเร้าบรรดาเหล่าสมุนให้หนุนเนื่องเรื่องช่วยเหลือตนเองอย่างสุดกำลัง ดันกันแบบสุดซอย

นัยของการไปจนสุดซอยตามที่ทรราชจอมบงการตั้งเอาไว้คือ การชำระล้างการกระทำผิดฐานทุจริตประพฤติมิชอบตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรามปรามการทุจริตจำนวนหลายคดี และการได้รับเงินจำนวน 4.6 หมื่นล้านอันได้มาจากการทุจริตที่ถูดยึดเป็นของประชาชนกลับคืนมาเป็นของตนเอง

หมากการเมืองตัวใหม่ที่ทรราชจอมบงการเปิดออกมาเพื่อปะทะกับกับกลุ่มที่เขาเรียกว่า “ผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตย” ก็คือยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดผู้เป็นน้องสาวเขาเอง ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งนักวิเคราะห์การเมืองบางคนระบุว่า เธอกำลังเป็นตัวของตัวเองและพยายามออกมาจากภายใต้ร่มเงาของพี่ชาย

แต่ทว่า การไปอ่านคำโฆษณาชวนเชื่อที่ประเทศมองโกเลียเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 อันมีเนื้อหาใจความหลักคือการโกหก บิดเบือนความจริง และให้ร้ายต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและองค์กรอิสระ ตลอดจนประชาชนบางกลุ่ม ทำให้สรุปได้ว่าแท้จริงแล้วพฤติกรรมที่เธอทำเสมือนว่าจะเป็นตัวของตนเองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นเพียงการพยายามเล่นละครหลอกประชาชน ด้วยความเป็นจริงก็คือ เธอนั้นเป็นหุ่นเชิดสมบูรณ์แบบ โดยประพฤติปฏิบัติตามบทซึ่งกำหนดโดยพี่ชายทุกประการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

การพูดของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประเทศมองโกเลีย เป็นการแถลงการณ์ทางการเมืองซึ่งบรรจุไปด้วยถ้อยคำอันสวยหรูที่ได้รับการประดิดประดอยร้อยเรียงขึ้นมา โดยมีเป้าหมายซ่อนเร้นแอบแฝงอยู่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัวหลายประการ

การเรียกร้องความเห็นใจและการสนับสนุนของนานาชาติต่อครอบครัวของตนเอง โดยเฉพาะรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ทรราชจอมบงการผู้กระทำความผิดคิดไม่ดีต่อประเทศชาติ จนทำให้ประชาชนทนไม่ไหว รวมพลังกันเคลื่อนไหวขับไล่ แต่ทรราชผู้นั้นกลับดื้อด้านไม่สำนึกถึงความผิดของตนเอง ยึดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไว้แน่นหนึบ ไม่คิดนึกจะลาออกไปตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อสร้างทางเลือกที่ดีให้แก่ประเทศชาติ จนในท้ายที่สุดการกระทำดังกล่าวก็ไปกระตุ้นให้ทหารกลุ่มหนึ่งต้องขับรถถังและถือปืนออกมาขับไล่พ้นจากอำนาจไป

พี่ชายตนเองแท้ๆที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดการรัฐประหาร พี่ชายของตนเองแท้ๆที่ทำให้ประเทศไทยต้องตกขบวนรถไฟ และพี่ชายตนเองแท้ๆที่สร้างความปั่นป่วนแตกแยกในสังคมไทยมานานนับสิบปี คุณยิ่งลักษณ์ ลองกลับไปนั่งไตร่ตรองให้นานๆ วางอคติลงไปเสียหน่อย แล้วค่อยๆใช้สติและสมองที่อาจหลงเหลืออยู่บ้างพินิจพิจารณาลำดับเรื่องราว ก็อาจจะเห็นความจริงบางอย่างผุดขึ้นมาจากความดำมืดก็ได้

การใส่ร้ายป้ายสีองค์กรอิสระในรัฐธรรมนูญก็เป็นเป้าหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งของภารกิจมองโกเลีย คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวออกไปอย่างชัดเจนว่า “องค์กรอิสระใช้อำนาจเกินขอบเขตแทนประชาชนเจ้าของอำนาจ ที่แท้จริงแล้วเป็นการดำเนินการเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่าเพื่อคนส่วนใหญ่”

หากได้ยินประโยคนี้โดยไม่ทราบว่าใครพูด ผมก็คงเข้าใจว่าคนพูดคงเป็นแกนนำเสื้อแดง หรือไม่ก็เป็นนักวิชาการแดง หากคนเหล่านั้นพูดก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด แต่เมื่อประโยคนี้ออกมาจากปากของ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย อันเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของฝ่ายบริหาร เรื่องราวก็ออกจะประหลาดพิกลไปมาก

ชาวโลกและผู้คนในแวดวงการทูตคงประหลาดใจอย่างมากว่าอยู่ดีๆทำไม นายกรัฐมนตรีประเทศหนึ่ง จึงได้ออกมาพูดให้ร้ายประเทศของตนเอง ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการพูดโดยไม่ยั้งคิดเช่นนี้มีประชาชนบางกลุ่มมองว่า เสมือนเป็นการขายชาติอย่างหนึ่ง

การที่ทรราชจอมบงการ ดึงยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกมายืนแถวหน้าประกาศศึกกับรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ทหาร และประชาชน ตลอดจนกลุ่มที่พวกเขาใส่ร้ายว่าเป็น “ผู้ต่อต้านประชาธิปไตย” เพื่อสนองความแปรปรวนทางอารมณ์และจิตอันมืดบอดของตนเอง เท่ากับเป็นการกระชากให้ยิงลักษณ์ ชินวัตร จมลงไปในทะเลร่วมกับตนเองด้วย

ส่วนบรรดาสมุนผู้รับใช้ที่กำลังจมสู่ทะเลพร้อมกับทรราชจอมบงการคือ บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 312 คน ที่กระทำการรับใช้ทรราชจอมบงการอย่างไร้สติ โดยร่วมกันยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เพื่อตัดสิทธิลิดรอนอำนาจประชาชน อันเพื่อเตรียมการเพื่อสร้างเส้นทางในการยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับในโอกาสต่อไป

การกระทำตามคำสั่งอย่างไร้ความยั้งคิดของบรรดา ส.ส.และ ส.ว. กลุ่มนี้ ทำให้ ส.ว.อีกจำนวนหนึ่งที่ต้องการพิทักษ์สิทธิของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยไม่มีทางเลือก จึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และการยื่นเรื่องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ไม่ได้มีสำนวนเดียว แต่จะทยอยกันออกมา ขณะนี้มีสองคำร้องแล้วคือ ของนายสมชาย แสวงการ และ ของพลเอกสมเจตน์ บุญถนอม ซึ่งทั้งสองคำร้องศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องเพื่อวินิจฉัยไว้เรียบร้อยแล้ว

แต่ผมขอบอกว่าคำร้องยังไม่หมด ในไม่ช้าไม่นานจะมีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มขึ้นอีกในเรื่องการแก้ไขมาตรา 68 นี่แหละครับ และประเด็นจะแหลมคมมากยิ่งขึ้น บรรดาสมุนของทรราชจอมบงการทั้งหลายเตรียมตัวคอยรับไว้ให้ดีก็แล้วกัน

ขอบอกว่าคลื่นที่กำลังก่อตัวลูกนี้แรงครับ แรงขนาดทำให้ 312 คน ที่บังอาจลิดรอนสิทธิของประชาชนต้องลงไปลอยคอในทะเลเป็นเพื่อนกับทรราชจอมบงการได้อย่างไม่ยาก

ส่วนการที่ทรราชจอมบงการสั่งให้สมุนผลักดันกฎหมายปรองดองฉบับเฉลิม อยู่บำรุงให้สุดซอยนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งของความพยายามเพื่อฉุดดึงบรรดาผู้รับใช้ทั้งหลายให้จมทะเลลึกลงไปอีก คงคิดว่าการแก้มาตรา 68 ยังมีพลังน้อยเกินไปในการกดหัวผู้รับใช้ให้จมทะเล จึงสั่งให้เดินหน้าอีกเรื่องหนึ่งเพื่อเสริมพลังให้รุนแรงยิ่งขึ้น

การพูดกับบรรดา ส.ส.ว่า หากไม่ชนะอย่างมากก็ยุบสภา เป็นเรื่องของการปลอบใจหรือหลอกให้เกิดความวางใจเพื่อทำให้คนเหล่านั้นเดินเข้าไปสู่พื้นที่พิฆาตอย่างฮึกเหิมเท่านั้นเอง เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาอันสืบเนื่องมาจากการกระทำที่ไร้ความยั้งคิดในการแก้ไขมาตรา 68 และการพยายามผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อซักฟอกความผิดและเอาเงินของแผ่นดินไปให้นักโทษจอมบงการก็คือการหลุดจากอำนาจรัฐ และการรับโทษทางอาญา

หากบรรดาผู้รับใช้ทรราชจอมบงการยังไม่สำนึกและถอนตัวออกจากเครือข่ายทรราช ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกทรราชจอมบงการดึงลงทะเลเฉกเช่นกับตัวเอง ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับผู้คนจำนวนมากที่รับใช้ทรราชจอมบงการอย่างไม่ยั้งคิด ไม่ว่าจะเป็นพวกนักเคลื่อนไหวบางคนที่ขณะนี้เข้าประเทศไม่ได้ หรือแกนนำเสื้อแดงบางคนที่ยังอยู่ในคุก หรือ บางคนที่กลายเป็นศพให้กับทรราชจอมบงการพาดเป็นไปบันใดไต่ขึ้นสู่อำนาจ

บรรดา ส.ส.และ ส.ว. 312 คน ลองกลับไปนั่งคิดดูใหม่ให้ถี่ถ้วนอีกหลายๆรอบว่า ผลประโยชน์ที่พวกท่านได้รับตอนนี้ กับอนาคตอันมืดมนที่รออยู่ข้างหน้า หากยังคงรับใช้ทรราชจอมบงการอยู่จะคุ้มค่าหรือไม่ พวกท่านจะยอมจมลงทะเลไปกับทรราชจอมบงการหรือ

มันจะดีกว่าหรือไม่ที่จะลอยแพปล่อยให้ทรราชจอมบงการจมลงไปในทะเลคนเดียว สังคมไทยจะได้เดินหน้าต่อเสียที แต่หากไม่ฟังก็ไม่ว่าอะไรครับ ก็เตรียมตัวรับกับชะตากรรมที่กำลังคืบคลานมากันเอาเอง เตือนแล้วนะครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น